โตโยตา จัดแข่งขัน เซปัคตะกร้อ

โตโยตา จัดแข่งขัน เซปัคตะกร้อ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดงานแถลงข่าว การจัดการแข่งขันเซปัคตะกร้อชิงแชมพ์ประเทศไทย “วีโก คัพ 2011” ครั้งที่ 4 สำหรับการจัดการแข่งขันเซปัคตะกร้อ โตโยตา ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน การจัดการแข่งขันครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากีฬาตะกร้อของประเทศ ยกระดับมาตรฐานการแข่งขันไปสู่ระดับอาชีพ สร้างนักกีฬารุ่นใหม่เข้าเสริมทัพนักกีฬาทีมชาติ ตลอดจนส่งเสริมการออกกำลังกาย และส่งเสริมให้เยาวชนได้แสดงความสามารถเชิงกีฬาอย่างสร้างสรรค์ การแข่งขันแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทประชาชนทั่วไป ประเภทนักเรียนชาย อายุไม่เกิน 16 ปี ประเภทนักเรียนหญิง อายุไม่เกิน 16 ปี แบ่งการแข่งขันออกเป็นรอบคัดเลือกระดับภูมิภาค 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคกลาง พร้อมกรุงเทพ ฯ และปริมณฑล การคัดเลือกทีมชนะอันดับที่ 1-3 ในแต่ละประเภท เป็นตัวแทนภาค จำนวนภาคละ 9 ทีม รวมทั้งสิ้น 36 ทีม เข้าทำการแข่งขันรอบชิงแชมพ์ประเทศไทย ที่กรุงเทพ ฯ รางวัลแชมพ์ประเทศไทย ประเภทประชาชนทั่วไป จะได้รับรถพิคอัพ ไฮลักซ์ วีโก พร้อมถ้วยรางวัลและเงินสด ส่วนแชมพ์ประเภทนักเรียนชาย-หญิง อายุไม่เกิน 16 ปี ได้รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินทุนการศึกษา   ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ ฯ เปิดตัวรถ MUV4 บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าว เปิดตัวรถตรวจการณ์ลาดตระเวน MUV4 ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการการใช้งานทางการทหาร ตำรวจ และหน่วยงานราชการต่างๆ ที่มีความต้องการรถประเภทนี้ไม่น้อยกว่า 3,000-4,000 คัน ซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนารถยนต์ประเภทนี้ เพราะมีปริมาณไม่มาก ส่วนบริษัท ฯ มีขีดความสามารถในการออกแบบชิ้นส่วน และประกอบรถยนต์ครบวงจร จึงมองเห็นโอกาสการขยายตลาดนี้ รถ MUV4 พัฒนาขึ้นจากโครงสร้างรถพิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล 3 ลิตร ที่ผลิตขายในประเทศ โดยออกแบบผลิตภัณฑ์ตัวถังใหม่ทั้งหมด ซึ่งในช่วงแรกบริษัท ฯ ผลิตออกมาจำนวน 2 รุ่น คือ รุ่นหลังคาเหล็ก และหลังคาผ้าใบ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการใช้รถยนต์ ฮัมเมอร์ หรือแลนด์ โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ ในราคาประหยัด คาดว่าจะจำหน่ายในราคาประมาณ 1.3-1.4 ล้านบาท พร้อมกันนี้หากลูกค้าทั่วไปให้ความสนใจ บริษัท ฯ พร้อมที่จะผลิตให้ตามที่ต้องการ สำหรับในด้านผลประกอบการของปี 2553 มียอดขายโดยรวมประมาณ 2,100-2,200 ล้านบาท ในปีนี้บริษัท ฯ คาดว่าจะมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 15 % พร้อมกันนี้ยังได้มองหาพันธมิตรในการขยายธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของอีโคคาร์   นิสสัน ตัดสินการประกวดแต่งรถ มาร์ช บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานกิจกรรมการประกวดตกแต่งรถยนต์ นิสสัน มาร์ช ในคอนเซพท์ “เท่กับ มาร์ช แต่งง่ายๆ สไตล์คุณเอง” SIMPLY ME, SIMPLY MY MARCH รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ สำหรับกิจกรรมดังกล่าวได้ผู้ชนะเลิศจากการประกวดในระดับภูมิภาค 5 ภาค เข้าร่วมแข่งขันเพื่อชิงชนะเลิศ โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภท MARCH COOL การประกวดตกแต่งภายนอกและภายใน แบบไม่มีข้อกำหนดด้านวัสดุที่นำมาตกแต่ง สามารถสร้างจินตนาการได้อย่างไร้ขอบเขต ส่วนอีกประเภทหนึ่ง คือ MARCH CREATIVE เป็นการตกแต่งลวดลายแบบสร้างสรรค์ เน้นการตกแต่งภายนอก และวัสดุที่นำมาตกแต่งจะต้องเป็นสติคเกอร์ หรือฟีล์มเท่านั้น สำหรับกิจกรรมนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้ารถยนต์ นิสสัน มาร์ช ที่ชื่นชอบการตกแต่งรถได้มีโอกาสนำรถที่ได้รับการตกแต่งมาโชว์ความคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นเวทีที่รวบรวมผู้ใช้ นิสสัน มาร์ช ที่ชื่นชอบกิจกรรมเดียวกันจากทั่วประเทศได้มารู้จักและแลกเปลี่ยนไอเดียดีๆ และร่วมทำกิจกรรมอื่นๆ ผลการตัดสิน ประเภท MARCH COOL ได้แก่ ไอรินทร์ พงษ์สินันท์ ตกแต่งในคอนเซพท์ MARCH VIP และประเภท MARCH CREATIVE ได้แก่ สนทยา ธนนิธาพร ตกแต่งในคอนเซพท์ DARE TO DIFFER   บางจาก จับมือภาครัฐปลูกปาล์ม บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ลงนามบันทึกความร่วมมือจัดตั้ง "ศูนย์ศึกษาและพัฒนาพื้นที่สวนส้มร้างทุ่งรังสิตเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน" บนพื้นที่ประมาณ 1,200 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ และสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง สวนส้มร้างทุ่งรังสิต มีศักยภาพในการปลูกปาล์มน้ำมัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีระบบชลประทานที่ดี สามารถปลูกได้ในดินเปรี้ยว มีพื้นที่ประมาณกว่า 100,000 ไร่ ได้ทดลองปลูกปาล์มมากว่า 6 ปี พบว่าสามารถให้ผลผลิตที่ดีไม่แพ้ภาคใต้ สามารถพัฒนาเป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางได้ ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่สวนส้มร้างทุ่งรังสิต หันมาปลูกปาล์มน้ำมัน ช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร รวมถึงเป็นแหล่งดูดซับแกสคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 500,000 ตัน/ปี ลดปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นหนึ่งกิจกรรมในโครงการ “ลดโลกร้อน ถวายพ่อ” ของบางจากปิโตรเลียม ฯ เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสครบ 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน ยังพร้อมให้การสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซล เพื่อรองรับผลผลิตปาล์มที่เพิ่มขึ้น โดยมีนโยบายส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล บี 5 เกรดเดียวทั่วประเทศ ภายในปี 2554 ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการใช้ไบโอดีเซล (บี 100) เพิ่มขึ้นจาก 1.8 ล้านลิตร/วัน เป็น 2.5 ล้านลิตร/วัน และยังจะส่งเสริมไบโอดีเซล บี 10 เป็นพลังงานทางเลือกในอนาคตอีกด้วย   บีเอมดับเบิลยู แถลงผลประกอบการปี 2553 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว เผยผลประกอบการในปี 2553 บีเอมดับเบิลยู มียอดขายรวม 3,422 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 24 % โดยแบ่งเป็น ยอดขาย บีเอมดับเบิลยู 3,015 คัน มีนี 407 คัน และรถจักรยานยนต์ 245 คัน โดยในปี 2554 บริษัท ฯ จะเปิดตัวรถยนต์ และรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 6 คอนเวอร์ทิเบิล บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอสดไรฟ 18 ไอ รุ่นประกอบในประเทศ มีนี คอนเนคเทด เป็นครั้งแรกที่รถยนต์เชื่อมต่ออินเตอร์เนท และบีเอมดับเบิลยู เค 1600 จีทีแอล จักรยานยนต์ 6 สูบ คันแรกของ บีเอมดับเบิลยู ส่วนการขยายเครือข่ายจะเพิ่มโชว์รูม และศูนย์บริการอีก 2 แห่งในเขตกรุงเทพ ฯ สำหรับตลาดรถระดับพรีเมียม บริษัท ฯ คาดว่าปีนี้จะมียอดขายรวมอยู่ประมาณ 1,000 คัน เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจจะมีการเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว แต่ต้องไม่มีปัจจัยลบในเรื่องของการเมือง หรือการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน โดยในปี 2553 ตลาดรวมรถหรูมียอดรวม 9,600 คัน   มาซดา จัดงานขอบคุณสื่อมวลชน บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานขอบคุณสื่อมวลชน ZOOM-ZOOM PARTY ภายใต้คอนเซพท์ "เปิดไฟ...ใส่หมวก” สำหรับการจัดงานครั้งนี้เพื่อเป็นการขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนเผยแพร่ข้อมูลการดำเนินงานของบริษัท ฯ ด้วยดีเสมอมา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งของการเติบโตของ มาซดา ในประเทศไทย ทั้งนี้ในปี 2553 หลังจากที่ มาซดา ได้เปิดตัวรถยนต์นั่ง มาซดา 2 และปรับปรุงรูปแบบโชว์รูม พร้อมการโหมกิจกรรมทางการตลาด ส่งผลให้ยอดขายของ มาซดา เติบโตสูงสุดถึง 165 % มียอดขายสูงถึง 35,147 คัน ภายในงานยังได้จัดกิจกรรมความบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลุ้นรับของรางวัลด้วยการเล่นเกมส์ การถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนาน อบอวลไปด้วยมิตรภาพ พร้อมกันนี้ยังได้ให้สื่อมวลชนใส่หมวกเข้างานเพื่อมาอวดโฉมกัน พร้อมคัดสรรหมวกที่สวยโดดเด่น ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสื่อมวลชน ร่วมใส่หมวกสวยๆ มาเป็นจำนวนมาก ปิดท้ายด้วยการจับรางวัล สลับกับการแสดงชุดพิเศษจากดันดารา กอพพีโชว์ ไผ่ พงศธร สร้างความสนุกสนาน พร้อมด้วยการฉลองวันเกิดให้แก่ผู้สื่อข่าวที่เกิดในเดือนมกราคม   เมร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว ซีแอล 500 บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว เมร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอล 500 รถยนต์คูเปที่มาพร้อมกับดีไซจ์นหรูหรา ผสมผสานไปด้วยความทันสมัย ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ผนวกกับเครื่องยนต์ใหม่ BLUE DIRECT ซึ่งเป็นนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด BLUEEFFICIENCY นอกจากนี้ยังเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด BLUE DIRECT ที่ให้ความประหยัด โดยสามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าได้มากถึง 23 % และปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศลดลงจาก 288 กรัม เป็น 224 กรัม/กม. สำหรับ ซีแอล 500 คูเป จำหน่ายราคา 15,490,000 บาท ส่วนรุ่น สปอร์ท คูเป เอเอมจี จำหน่ายราคา 16,290,000 บาท อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าในกลุ่ม ซีแอล-คลาสส์ จะเป็นกลุ่มนิชมาร์เกท โดยรถประเภทนี้ตลาดรวมจะอยู่ที่ประมาณ 100-150 คัน   ลามินา สานฝันโครงการที่ 10 บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟีล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร ลามินา และฟีล์มกลุ่มพิเศษ “ลูมาร์” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว เดินหน้าโครงการ “ลามินา...สานฝันเด็กไทยได้เล่าเรียน” ปีที่ 10 สำหรับโครงการดังกล่าวได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2545 ตามความตั้งใจของผู้บริหาร และพนักงานของบริษัททุกคน ที่เล็งเห็นคุณค่าและความสำคัญของเด็กและเยาวชน ที่สามารถพัฒนาให้เติบโตขึ้นมาเป็นกำลังของประเทศชาติด้วยการพัฒนาทางด้านการศึกษา ส่วนโครงการที่ 9 บริษัท ฯ ได้ส่งมอบอาคารเรียนหลังใหม่ให้แก่โรงเรียนบ้านทุ่งน้ำใส อ. ด่านซ้าย จ. เลย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงการสานฝัน ฯ ปีที่ 10 ขณะนี้ บริษัท ฯ อยู่ระหว่างพิจารณาร่วมกับกลุ่มกระทิงโทน โดยบริษัท ฯ ยังคงยึดมั่นที่จะดำเนินโครงการต่อไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับภาพรวมของธุรกิจฟีล์มกรองแสงในปี 2554 คาดว่าแนวโน้มการแข่งขันจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์มีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยตลาดฟีล์มกรองแสงจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2553 ที่มียอดขายประมาณ 1,300 ล้านบาท ส่วนในปี 2554 บริษัท ฯ ตั้งเป้ามียอดขายรวม 560 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 8 % เมื่อเทียบกับปี 2553 ที่มียอดขายรวม 520 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ยังคงเน้น L LEADER ทั้งในเรื่องนวัตกรรมใหม่ การบริการ การสานต่อพันธกิจเพื่อสังคม รวมถึงการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคแบบครบวงจร   เลนโซ่ วีล ฯ เปิดเผยแผนการตลาดปี 2554 บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายล้อแมก เลนโซ และไรเดน จัดงานแถลงข่าว แผนงานการรุกตลาดปี 2554 พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ สำหรับปี 2554 บริษัท ฯ ตั้งเป้ามียอดขายรวมประมาณ 1,800 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 20 % พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวล้อแมก ไรเดน ใหม่ ในรุ่น PROJECT D SPEC B และ C มีขนาดตั้งแต่ 15-17 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 3,500-5,500 บาท เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นหัวใจสปอร์ทที่ต้องการความแตกต่าง โดยมีคุณสมบัติเด่นด้านดีไซจ์น และมีน้ำหนักเบา ที่จะส่งผลให้รถยนต์วิ่งได้เร็ว มีความคล่องตัวสูงในขณะเลี้ยว ลดภาระของเครื่องยนต์ลง และประหยัดน้ำมัน พร้อมกันนี้ บริษัท ฯ ยังได้เตรียมทุ่มงบประมาณการตลาด 50 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดแบบครบวงจร อีกทั้งได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาล้อแมกทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขายจะร่วมกับผู้แทนจำหน่าย 400 แห่ง ส่วนแผนงานการลงทุนเพิ่มอีก 500 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตจากเดิม 600,000 เป็น 800,000 วง หรือเพิ่มขึ้น 30 % ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองความต้องการตลาดในประเทศและต่างประเทศที่ส่งออกไปจำหน่ายกว่า 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึงการขยายตลาดใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกด้วย   วี-คูล เผยนโยบายปี 2554 บริษัท วี-คูล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้แทนจำหน่ายฟีล์มกรองแสง วี-คูล ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง จัดงานแถลงข่าว ความร่วมมือกับ วี-คูล อินเตอร์เนชันแนล ประกาศแผนปฏิบัติการ “ONE WORLD” ส่วนแผนงานที่วางไว้ คือ การลงทุนสร้างศูนย์ปฏิบัติการ เพื่อเป็นศูนย์ฝึกอบรมและศูนย์บริการแบบครบวงจร รองรับธุรกิจที่เตรียมขยายต่อไป ทั้งนี้ในส่วนของผลิตภัณฑ์ ปีนี้จะนำเสนอรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด เน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีปกป้องสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งขยายไปสู่ฟีล์มอาคาร และการขยายธุรกิจในส่วนของผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์ นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มดีเลอร์ในเขตกรุงเทพ ฯ อีก 5 แห่ง เนื่องจากมีแผนที่จะรุกตลาดโรงงานประกอบรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์อยู่ประมาณ 150 โชว์รูม โดยหลักๆ จะเป็นบแรนด์ บีเอมดับเบิลยู เมร์เซเดส-เบนซ์ โตโยตา ฮอนดา และอยู่ระหว่างการเจรจากับบแรนด์อื่นๆ เพิ่มเติม โดยปัจจุบันมีดีเลอร์อยู่ 30 แห่งทั่วประเทศ   อีซูซุ ขอบคุณสื่อมวลชน บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนตลอดปีที่ผ่านมา โดยมอบความสนุกสนานภายใต้แนวคิด “LIVE THE GLOWING LIFE IN 2011” กับความสนุกที่แต่งด้วยสีสันสดใสเรืองรองดุจมิตรภาพที่แสนอบอุ่น ภายในงานครั้งนี้ อีซูซุ มอบความสนุกด้วยการรับรางวัลง่ายๆ จากการลุ้นโชคจากแท่งเรืองแสงร่วมสนุกในสไตล์ DIY (DO IT YOURSELF) กับการประดิษฐ์อุปกรณ์แต่งตัวจากแท่งดัดเรืองแสง ทั้งแว่นตา หมวกที่คาดผม กำไล ฯลฯ เพื่อให้เข้าธีมงาน ซึ่งแต่ละคนนำมาตกแต่งร่างกายประชันกันแบบไม่ยอมใคร การโชว์สเตพการเต้น อีซูซุ ซูเพอร์แดนศ์ การประลองความแม่นยำในเกมโยนห่วง และยิงเป้า พร้อมถ่ายรูปกับมุมสวยๆ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงจากนางสาวไทย และรองนางสาวไทย ประจำปี 2553 ที่มาพร้อมกับเสียงเพลงและลีลาการเต้นน่ารักๆ สไตล์ สาว สาว สาว รวมถึงการแสดงของครอบครัวศิลปินอารมณ์ดี สินเจริญบราเธอร์ส อีกทั้งมีดารารับเชิญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และ 2 สาวสุดเซกซี เป้ย-ปานวาด เหมมณี และกระแต-ศุภักษร ไชยมงคล   ฮอนดา เปิดตัว แจซซ์ ปรับโฉมใหม่ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์ ฮอนดา แจซซ์ ปรับโฉมใหม่ ภายใต้คอนเซพท์ IT’S FUNTASTIC สนุกทุกโหมด มีให้เลือก 3 รุ่น ราคาเริ่มต้นที่ 590,000-715,000 บาท ซึ่งได้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 10,000-30,000 บาท โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 20,000 คัน สำหรับยอดขายรวมปีนี้ ฮอนดา ตั้งเป้าไว้ที่ 145,000 คัน หรือมีอัตราการเติบโตมากกว่า 20 % พร้อมกันนี้ยังได้ปรับแผนการผลิตโรงงานที่ 1 จากเดิมผลิต 1 กะ เพิ่มเป็น 2 กะ ซึ่งจะทำให้ปีนี้มียอดการผลิตรวม 200,000 คัน ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิต ฮอนดา บรีโอ และยอดขายที่เพิ่มขึ้น และยอดส่งออกที่ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 60,000 คัน ส่วนในปี 2553 มียอดขายรวม 114,000 คัน พร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษารถยนต์พลังงานทางเลือกอื่นๆ เช่น รถยนต์ใช้เชื้อเพลิงซีเอนจี ไฮบริด เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดูว่าการตอบรับของตลาดจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากมีอัตราการเติบโตที่ดี ก็พร้อมที่จะนำรุ่นดังกล่าวมาจำหน่ายในตลาด สำหรับตลาดรวมรถยนต์ปี 2554 ฮอนดา คาดว่าจะมียอดขายรวมที่ 850,000 คัน ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยลบที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาด น่าจะเป็นเรื่องของสถานการณ์ทางการเมือง และค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น