การสื่อสารระหว่างมอเตอร์ไซค์กับรถยนต์

 

ในสภาพของการเดินทางบนท้องถนนทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า รถมอเตอร์ไซค์ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต มากกว่าผู้ขับขี่รถยนต์ถึง 18 เท่า ซึ่งสาเหตุหนึ่ง ก็คือ ผู้ขับขี่รถ 2 ล้อ มักจะมองข้ามสภาพการจราจรทั้งในช่วงทางแยก สี่แยกที่มีไฟจราจร และทางร่วมต่างๆ มุ่งแต่จะเดินทางไปด้านหน้าในทิศทางที่ต้องการเท่านั้น

Bosch ผู้ผลิตชิ้นส่วน และแนวร่วม ได้แก่ Autotalks, Cohda Wireless และ Ducati ร่วมมือกันพัฒนาหาวิธีการที่จะแก้ไขสิ่งเหล่านี้ "เราช่วยให้มอเตอร์ไซค์ และยานยนต์ ได้สื่อสารซึ่งกันและกัน เพื่อช่วยสร้างการป้องกันทางด้านข้อมูลให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ " Dr. Dirk Hoheisel กรรมการบริหารของ Bosch เล่าให้ฟัง โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันสถานการณ์อันตรายจากสิ่งต่างๆ รอบตัว เป็นประเด็นแรก ข้อมูลจากศูนย์วิจัยการเกิดอุบัติเหตุของ Bosch ระบุว่า การเชื่อมต่อข้อมูลซึ่งกันและกันระหว่าง มอเตอร์ไซค์กับรถยนต์ สามารถช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุของมอเตอร์ไซค์ได้เกือบ 1 ใน 3 "แม้ว่าระบบความปลอดภัยที่ Bosch คิดค้นขึ้น อย่างระบบเอบีเอส และระบบควบคุมการทรงตัว จะช่วยให้มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ Bosch ก็ยังพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อให้การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น โดยการเชื่อมต่อข้อมูล ทำให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับของความปลอดภัย" Dr.Dirk Hoheisel กล่าว การทำงานของระบบ จะตรวจสอบทุก 10 ครั้ง/วินาที ถึงการเชื่อมต่อข้อมูลกับยานยนต์ที่อยู่ในรัศมีใกล้เคียง หรืออาจอยู่ห่างออกไปนับร้อยเมตรก็ตาม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลของชนิดยานยนต์, ความเร็ว, ตำแหน่งปัจจุบัน, ทิศทางที่จะเดินทาง อันจะทำให้ทราบว่ามีมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์อยู่ในรัศมี ก่อนที่ผู้ขับขี่หรือเซนเซอร์ในตัวรถ จะจับสัญญาณของมอเตอร์ไซค์ได้ เทคโนโลยีนี้เท่ากับเป็นการเตือนว่ามีมอเตอร์ไซค์เข้ามาในรัศมี ช่วยให้ผู้ขับขี่เกิดความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ที่เสี่ยงอันตรายอาจเกิดขึ้นได้ เมื่อมอเตอร์ไซค์ ขับขี่ตามหลังรถยนต์ในถนนหลายเลน และไปอยู่ในจุดอับที่ผู้ขับขี่รถยนต์มองไม่เห็น หรือขณะมอเตอร์ไซค์พยายามจะเปลี่ยนเลนและแซงขึ้นหน้า หากระบบสามารถตรวจสอบได้ว่า อาจเกิดอุบัติเหตุได้โดยง่าย ระบบจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่รถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ รวมทั้งไฟสัญญาณกระพริบบนหน้าปัด อันจะทำให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลดังกล่าว สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ภายในเวลาเพียงเศษเสี้ยวของวินาที โดยใช้ระบบมาตรฐาน WLAN Standard ซึ่งทั้งผู้ส่งและผู้รับสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ชั่วพริบตา ทำให้ผู้ขับขี่ยวดยานสามารถรู้ถึงสภาพการจราจรโดยรวม รวมทั้งยานยนต์ที่จอดในที่จอด หรือจอดคอยการจราจรอยู่เช่นกัน สำหรับการเชื่อมต่อของยานยนต์ที่อยู่ไกลออกไป ก็ยังสามารถรับส่งข้อมูลที่จำเป็นกับยานยนต์คันอื่นๆ ได้ โดยเทคโนโลยีนี้ ใช้วิธีการในลักษณะก้าวกระโดด ที่จะส่งต่อข้อมูลจากยานยนต์คันหนึ่ง ไปสู่ยานยนต์อีกคันหนึ่งโดยอัตโนมัติ ดังนั้น ในสภาพการจราจรที่วิกฤติ ผู้ใช้รถใช้ถนนก็จะสามารถรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และสามารถเตรียมรับมือ หรือเลือกย้ายเส้นทางการเดินทางได้โดยง่าย