VOLKSWAGEN BUDD-E รถอเนกประสงค์ขับเคลื่อนทุกล้อปลอดปัญหาไอพิษ

สหรัฐอเมริกา/เยอรมนี-ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์ที่ยังปวดหัวอยู่กับปัญหาการหลอกลวงตัวเลขปริมาณไอพิษ อาศัยงานมหกรรมสินค้าอีเลคทรอนิคในเมืองมะกัน เป็นที่เปิดตัวรถแนวคิดคันใหม่ ซึ่งเป็นต้นแบบของรถพลังไฟฟ้าที่ตั้งใจจะนำออกสู่ตลาดภายในปี 2018 ที่งาน CONSUMER ELECTRONICS SHOW (CES) หรือ "มหกรรมสินค้าอีเลคทรอนิคสำหรับผู้บริโภค" ครั้งล่าสุด ซึ่งมีขึ้นที่เมืองลาสเวกัสในสหรัฐอเมริการะหว่างวันที่ 6-9 มกราคม 2016 ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้เข้าชมงาน โดยนำรถแนวคิดติดป้ายชื่อ โฟล์คสวาเกน บัดด์-อี (VOLKSWAGEN BUDD-E) ออกอวดตัวเป็นครั้งแรก พร้อมยืนยันว่าเป็นต้นแบบของรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ หลายรุ่นหลายแบบที่จะทยอยออกสู่ตลาด ทั้งโดยติดยี่ห้อ โฟล์คสวาเกน (VOLKSWAGEN) ติดยี่ห้อ เอาดี (AUDI) และติดยี่ห้อ โพร์เช (PORSCHE) เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถอเนกประสงค์ ยาว 4.597 ม. กว้าง 1.940 ม. สูง 1.835 ม. และมีช่วงฐานล้อยาว 3.151 ม. ติดตั้งระบบขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าที่ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์เพิ่งออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่ ตามแนวความคิดที่กระตุ้นโดย มัททีอัส มุลเลร์ (MATTIAS MULLER) ผู้นำของค่ายซึ่งเพิ่งก้าวเข้ามารับตำแหน่งหลังเกิดวิกฤตการณ์ไอพิษ เป็นระบบขับทุกล้อซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า ขับล้อคู่หน้า และใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 125 กิโลวัตต์/170 แรงม้า ขับล้อคู่หลัง ได้กำลังสุทธิสูงสุด 225 กิโลวัตต์/306 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าดังกล่าวข้างต้นได้พลังไฟจากแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน (LITHIUM-ION) แบบใหม่ ที่ค่ายนี้อ้างอวดว่า มีกระบวนการทางเคมีซึ่งทำให้ได้พลังไฟฟ้าเหนือกว่าแบทเตอรีที่ใช้อยู่ในปัจุบันกับรถไฟฟ้าหลายรุ่น การประจุไฟแบทเตอรีขนาด 92.4 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่ว่านี้ สามารถกระทำได้ทั้งโดยการเสียบปลั๊ก และโดยการเหนี่ยวนำที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า INDUCTIVE PROCEES เมื่อประจุไฟเต็มหม้อแต่ละครั้งรถจะวิ่งได้ไกลถึง 533 กม. (วัดตามมาตรฐาน NEFZ ของยูโร) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. และเมื่อประจุไฟแบบด่วนโดยใช้เวลาเพียง 30 นาที และได้ปริมาณร้อยละ 80 รถก็ยังวิ่งได้ไกลถึง 426 กม. นอกจากระบบขับทุกล้อด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ดังที่กล่าวแล้ว รถแนวคิดหน้าตาดีคันนี้ยังบรรจุไว้ซึ่งสรรพเทคโนโลยีที่ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์กำลังเร่งรีบออกแบบและพัฒนาเพื่อนำมาใช้อย่างจริงจัง รวมทั้ง AUTONOMOUS DRIVING TECHNILOGY หรือเทคโนโลยีการขับรถโดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ขับที่ผู้คนกำลังกล่าวขานกันอยู่ในขณะนี้ด้วย