เนื่องจากปก 4Wheels
ประชันโฉม 3 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี สุดหรู !
เอสยูวีติดใบพัดสายพันธุ์เยอรมันแท้
BMW X4
เมื่อ 20 ปีก่อน หากมีใครสักคนพูดว่า ค่าย บีเอมดับเบิลยู กำลังจะทำรถกิจกรรมกลางแจ้งขาย คนฟังอาจคิดว่าคนพูดเพี้ยนไปแล้ว จนเมื่อวันคืนหมุนเวียนถึงปี 1999 นั่นแหละ ผู้คนจึงเห็นแจ้งประจักษ์ตาว่า บีเอมดับเบิลยู กับรถกิจกรรมกลางแจ้งไม่ใช่เรื่องเพี้ยน เมื่อยอดผู้ผลิตรถหรูของเมืองเบียร์ เริ่มนำรถกิจกรรมกลางแจ้งแบบแรกในประวัติศาสตร์ของค่าย ออกสู่โชว์รูมในเยอรมนี และอีกหลายประเทศ
เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลาง อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า MID-SIZE LUXURY CROSSOVER SUV ที่ออกแบบ/พัฒนาด้วยเทคโนโลยีของค่าย แลนด์ โรเวอร์ (LAND ROVER) ที่ บีเอมดับเบิลยู เป็นเจ้าของอยู่ในขณะนั้น และผลิตโดยใช้ชิ้นส่วนบางชิ้นร่วมกับรถ เรนจ์ โรเวอร์ เอชเอสอี (RANGE ROVER HSE)
ความสำเร็จของรถแบบแรกซึ่งติดป้ายชื่อ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 (BMW X5) นำมาซึ่งรถ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 (BMW X3) ในปี 2004 บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 6 (BMW X6) ในปี 2008 รวมทั้ง บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 (BMW X1) ในปี 2009 รถติดป้ายชื่อ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 4 (BMW X4) ที่กำลังอวดรูปโฉมโนมพรรณอยู่ในขณะนี้จึงนับต่อเนื่องได้ว่า เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งแบบที่ 5 ของผู้ผลิตรถยนต์เจ้าของเครื่องหมายการค้า "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว"
อวดตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" พร้อมๆ กัน ทั้งที่งานมหกรรมยานยนต์นิวยอร์ค ในสหรัฐอเมริกา และที่งานมหกรรมยานยนต์ปักกิ่ง ในสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ต้องรอจนถึงเดือนสิงหาคม จึงจะเริ่มออกโชว์รูมในเมืองเบียร์ พร้อมกับป้ายค่าตัวที่อยู่ระหว่าง 45,600-60,100 ยูโร หรือประมาณ 2,052,000-2,705,000 บาท อันเป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ของเยอรมนีไว้เรียบร้อยแล้ว
รถแบบใหม่นี้อยู่ในตัวถัง 5 ประตู 5 ที่นั่ง ยาว 4.671 ม. กว้าง 1.881 ม. และสูง 1.624 ม. ซึ่งมีช่วงฐานล้อยาว 2.810 ม.และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.33-0.34 รูปทรงองค์เอวของตัวถังซึ่งมีส่วนท้ายเหมือนรถเก๋งคูเป เห็นตัวจริงที่ปักกิ่งแล้วมีความรู้สึกว่าเหมือนย่อส่วนจากรถอนุกรมพี่ที่มีขนาดโตกว่า คือ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 6 (BMW X6) แต่ก็มีชิ้นส่วนหลายชิ้นที่เห็นได้ชัดว่ายกชุดมาจากรถ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 (BMW X3) ตัวอย่างคือ แผงหน้าปัดอุปกรณ์ในห้องโดยสาร
มีรถให้ลูกค้าในเมืองเบียร์เลือกใช้ตามขนาดเครื่องยนต์รวม 6 โมเดล แยกเป็นรถเบนซิน 3 โมเดล คือ BMW X4 XDRIVE 20I (เครื่องเทอร์โบฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,997 ซีซี 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า) BMW X4 XDRIVE 28I (เครื่องเทอร์โบฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,997 ซีซี 180 กิโลวัตต์/245 แรงม้า) BMW X4 XDRIVE 35I (เครื่องเทอร์โบฉีดตรง DOHC 6 สูบเรียง 2,979 ซีซี 225 กิโลวัตต์/306 แรงม้า) และเป็นรถดีเซล 3 โมเดลเช่นกัน คือ BMW X4 XDRIVE 20D (เครื่องเทอร์โบฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,995 ซีซี 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า) BMW X4 XDRIVE 30D (เครื่องเทอร์โบฉีดตรง DOHC 6 สูบเรียง 2,993 ซีซี 190 กิโลวัตต์/258 แรงม้า) BMW X4 XDRIVE 35D (เครื่องเทอร์โบฉีดตรง DOHC 6 สูบเรียง 2,993 ซีซี 230 กิโลวัตต์/313 แรงม้า)
ทุกโมเดลเป็นรถขับทุกล้อ ถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC ยกเว้นเพียงโมเดลเดียว คือ รถดีเซล BMW X4 XDRIVE 20D ซึ่งมีระบบเกียร์ให้เลือก 2 แบบ คือ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
BMW X4
* รถเอสยูวีแบบที่ 5 ของค่ายใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขวา
* เปิดตัวพร้อมกันทั้งในสหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน
* ตัวถังขนาด 4.671x1.881x1.624 ม.
* มีทั้งรถเบนซิน และรถดีเซล รวม 6 โมเดล
* ค่าตัวในเยอรมนี 45,600-60,100 ยูโร
----------------------------------------------------------------------------------------------------
เอสยูวีรุ่นจิ๋ว ส่วนผสม 2 สายพันธุ์
JEEP RENEGADE
ที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา ครั้งที่ 84 เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ค่าย จีพ นำผลงานใหม่เอี่ยมแกะกล่องชิ้นหนึ่งออกอวดตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" และสามารถเรียกความสนใจจากบรรดาสื่อมวลชนและผู้ชมงานได้เป็นอย่างมาก ผลงานใหม่ที่ว่านี้ คือ รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัดติดป้ายชื่อ จีพ เรเนเกด (JEEP RENEGADE) ผลพวงจากความเชื่อที่ว่า นับจากปัจจุบันจนถึงปี 2017 ยอดขายทั่วโลกของรถประเภทนี้จะเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว เป็นประมาณ 3 ล้านคัน/ปีนั่นเทียว
เป็นรถอย่างที่เรียกขานกันในยุโรปว่า B-SEGMENT CROSSOVER SUV หรือ MINI SUV และเป็นผลงานจากความร่วมมือของค่าย จีพ แห่งสหรัฐอเมริกา กับค่าย เฟียต ของอิตาลี ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของฝ่ายแรก เป็นรถที่ออกแบบ/พัฒนาในสหรัฐอเมริกา และจะเป็นรถแบบแรกของค่ายนี้ที่ไม่ได้ผลิตในทวีปอเมริกาเหนือ แต่จะใช้โรงงานของค่าย เฟียต ในภาคใต้ของอิตาลีเป็นที่ผลิต โดยจะผลิตเคียงคู่ไปกับรถแบบเดียวกันของฝ่ายอิตาลี ที่จะจำหน่ายในชื่อ เฟียต 500 เอกซ์ (FIAT 500X)
เป็นรถที่ออกแบบ/พัฒนาเพื่อให้เป็น GLOBAL CAR หรือรถที่จำหน่ายในตลาดทั่วโลก และตลาดเป้าหมายสำคัญ คือ ทวีปยุโรป และละตินอเมริกา จะมีทั้งรถพวงมาลัยซ้าย และรถพวงมาลัยขวา โดยที่รถพวงมาลัยซ้ายสำหรับตลาดในมากกว่า 100 ประเทศ จะเริ่มออกโชว์รูมก่อนสิ้นปีม้าพยศ
ส่วนรถพวงมาลัยขวาจะตามมาตอนกลางปี 2015 นับเป็นรถแบบใหม่ในชื่อเก่า เนื่องจากในอดีตที่ยังจำได้แต่นึกไม่ออกว่าอยู่ในช่วงปีไหน ยอดผู้ผลิตรถกิจกรรมกลางแจ้งของเมืองมะกันเคยใช้ชื่อนี้มาก่อนแล้ว
ตัวถังที่ยาว 4.230 ม. กว้าง 1.800 ม. สูง 1.690 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.36 ไม่ได้เริ่มต้นการออกแบบด้วยกระดาษเปล่า หรือหน้าจอเปล่า แต่ตั้งต้นจากสถาปัตยกรรมของรถเก๋งแฮทช์แบค เฟียต 500 แอล (FIAT 500L) ที่เริ่มจำหน่ายในเมืองมะกะโรนีเมื่อกลางปี 2012 ชิ้นส่วนบางชิ้นก็ได้จากรถรุ่นนี้เช่นกัน ห้องโดยสารซึ่งเจตนาออกแบบให้นั่งได้รวม 5 คน ติดตั้งเบาะหลังที่แบ่งพนักพิงในสัดส่วน 60:40 ดังที่เห็นในภาพประกอบ (ภาพเล็กบนด้านขวามือ)
มีทั้งแบบขับล้อหน้า ขับทุกล้อ และมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ไม่น้อยกว่า 7 ขนาด เครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งมีทั้งเครื่องของ จีพ และของ เฟียต จะมีให้เลือกตั้งแต่เครื่อง 1.4 ลิตร 103 กิโลวัตต์/140 แรงม้า ไปจนถึงเครื่อง 2.4 ลิตร 137 กิโลวัตต์/186 แรงม้า ส่วนเครื่องดีเซล ซึ่งมีแต่เครื่องของ เฟียต จะมีให้เลือกตั้งแต่เครื่อง 1.6 ลิตร 88 กิโลวัตต์/120 แรงม้า ไปจนถึงเครื่อง 2.0 ลิตร 125 กิโลวัตต์/170 แรงม้า
ที่น่าสนใจมาก คือ ระบบเกียร์ที่จะมีถึง 4 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 4 หรือ 5 จังหวะ เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 จังหวะ และที่เคยพบเห็นกันมาก่อนในรถระดับนี้ คือ เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ
JEEP RENEGADE
* ผลงานความร่วมมือของค่าย จีพ กับค่าย เฟียต
* เปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา 2014
* ตัวถังขนาด 4.230x1.800x1.690 ม.
* เครื่องยนต์เบนซิน/ดีเซล รวม 7 ขนาด
* ระบบเกียร์มีให้เลือกใช้ถึง 4 แบบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------
มิติใหม่ของเอสยูวีเล็กแต่หรู สายพันธุ์ยุ่น
LEXUS NX-SERIES
ที่งานมหกรรมยานยนต์ปักกิ่ง ครั้งล่าสุด ซึ่งมีขึ้นในนครหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีรถกิจกรรมกลางแจ้งที่อวดตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" อยู่หลายแบบหลายรุ่น ทั้งรถที่ผลิตในเมืองมังกร และรถที่นำเข้าจากประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม น่าจะฟันธงได้ว่าคันที่เรียกความสนใจจากสื่อมวลชนและผู้ชมงานได้อุ่นหนาฝาคั่งกว่าเขาเพื่อน คือ รถติดป้ายชื่อ เลกซัส เอนเอกซ์-ซีรีส์ (LEXUS NX-SERIES)
ยอดผู้ผลิตรถยนต์ระดับ "พรีเมียม" ของเมืองยุ่น นำรถแนวคิดติดป้ายชื่อ เลกซัส แอลเอฟ-เอนเอกซ์ (LEXUS LF-NX) ซึ่งเป็นต้นแบบของรถกิจกรรมกลางแจ้งอนุกรมนี้ ออกอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก ที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท ครั้งล่าสุด เมื่อเดือนกันยายน 2013 ครั้นเมื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นรถตลาดสมบูรณ์แบบ ค่ายนี้กลับเลือกใช้มหกรรมยานยนต์งานช้างของสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นที่เปิดตัว เป็นปรากฏการณ์ที่อาจทำให้คนรักรถบางคนรู้สึกฉงนฉงาย แต่ความประหลาดใจที่ว่านี้จะหมดไป เมื่อทราบว่า ขณะนี้ยอดขายรถกิจกรรมกลางแจ้งในเมืองมังกรกำลังเบ่งบานเหมือนดอกเห็ดในฤดู โดยเฉพาะรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัด อย่างที่เรียกขานกันในภาษาอังกฤษว่า COMPACT CROSSOVER SUV
ก่อนหน้านี้ค่าย เลกซัส เคยทำก็แต่รถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดกลาง อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า MID-SIZE SUV และรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดใหญ่ หรือ FULL-SIZE SUV การปรากฏตัวของรถติดป้ายชื่อ เลกซัส เอนเอกซ์-ซีรีส์ ซึ่งนักวิจารณ์บางคนในยุโรปตั้งสมญานามให้ว่า GAME CHANGER จึงนับได้ว่าเป็นก้าวแรกที่ผู้ผลิตรถยนต์พรีเมียมรายนี้เหยียบย่างเข้าสู่ตลาดของรถเอสยูวีขนาดเล็ก
สัมผัสตัวจริงเสียงจริงมาแล้ว จึงกล้ายืนยันโดยไม่ลังเลว่า ตัวถังยาว 4.630 ม. กว้าง 1.845 ม. และสูง 1.645 ม. ของรถอนุกรมใหม่นี้ เป็นผลพวงของการออกแบบที่ค่อนข้างกล้าหาญ และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ เพราะมีหน้าตาและรูปทรงองค์เอวที่ดูดี และยั่วกิเลสให้อยากเป็นเจ้าของในทุกมุมมอง จะมีจุดที่ดูขัดหูขัดตา และขัดใจผู้รายงานอยู่บ้างก็คือ SPINDLE GRILLE หรือแผงกระจังหน้ารูปหลอดด้าย ที่ดูใหญ่โตมโหฬารและเทอะทะไปหน่อย เมื่อเทียบกับขนาดของตัวรถ
ยังหาข้อมูลไม่ได้ว่าจะเริ่มขายเมื่อไหร่ ทราบก็แต่เพียงว่า จะมีทั้งรถขับล้อหน้า รถขับทุกล้อ และในระยะแรกจะมีรถให้เลือกใช้เพียง 2 โมเดล คือ เลกซัส เอนเอกซ์ 200 ที (LEXUS NX200T) ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน DOHC 4 สูบเรียง 1,998 ซีซี 175 กิโลวัตต์/238 แรงม้า (รหัสเครื่องยนต์ 8AR-FTS) ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้าผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กับ เลกซัส เอนเอกซ์ 300 เอช (LEXUS NX300H) ซึ่งเป็นรถขับล้อหน้า หรือขับทุกล้อแบบไฮบริด โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบเรียง 2,493 ซีซี (รหัสเครื่องยนต์ 2AR-FXE) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุดเมื่อเป็นรถขับล้อหน้า และเพิ่มเป็น 2 ชุดเมื่อเป็นรถขับทุกล้อ เป็นระบบไฮบริดที่ค่ายนี้เพิ่งปรับปรุงใหม่ และให้กำลังสุทธิสูงสุด 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์เพื่อถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หน้า หรือทั้งคู่หน้าและคู่หลัง แล้วแต่กรณี เป็นเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (เกียร์ CVT)
LEXUS NX-SERIES
* รถเอสยูวีขนาดเล็กที่สุดของค่าย เลกซัส
* เปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์ปักกิ่ง 2014
* มีทั้งรถขับล้อหน้า และรถขับทุกล้อ
* เครื่องเบนซิน 175 กิโลวัตต์/238 แรงม้า
* เครื่องไฮบริด 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์ ชมจินดา/บริษัทผู้ผลิต
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : เนื่องจากปก 4Wheels