ไดมเลร์ เปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้า ขับเคลื่อนได้ไกลกว่า 300 กม.

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า คือ รถในอุดมคติอันใกล้ ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ซึ่งช่วยบรรเทา และแก้ไขปัญหาเรื่องมลพิษที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤตในขณะนี้ ข้อดี คือ สามารถผลิตไฟฟ้าได้เอง รวมถึงเสียบปลั๊กชาร์จไฟจากภายนอก ก็ได้เช่นกัน

รถบรรทุกไฟฟ้า 2 รุ่นของ ไดมเลร์

    สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ค่อนข้างจะมีปัญหาเล็กน้อย เพราะติดข้อจำกัดในเรื่องของขนาดตัวรถที่เล็กเกินไป ไม่สามารถติดตั้งแบทเตอรีขนาดใหญ่ เพื่อหวังว่าจะใช้ไฟฟ้าล้วน ในการขับเคลื่อนระยะทางไกลๆ ได้ แต่ถ้าเป็นรถบัส หรือรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่ ก็ไม่น่าใช่ปัญหา มีพื้นที่ว่างเพียงพอในการติดตั้งระบบขับเคลื่อน และแบทเตอรี   ในตลาดรถบรรทุกที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ทั้งในทวีปยุโรป และทวีปอเมริกาได้เปิดตัวรถบรรทุกใช้พลังงานไฟฟ้ากันไปบ้างแล้ว แสดงให้เห็นว่าตลาดรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้ากำลังเติบโต สามารถใช้งานได้จริง และคุ้มค่าต่อการลงทุน   ไดมเลร์ เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้เปิดตัวรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า 2 รุ่น คือ อีแคสเคเดีย (ECASCADIA) และอีเอม 2 (EM2) สำหรับรุ่น ฟเรทไลเนอร์ อีแคสเคเดีย (FREIGHTLINER ECASCADIA) จัดอยู่ในกลุ่มรถบรรทุกขนาดใหญ่ (HEAVY-DUTY) ส่วน ฟเรทไลเนอร์ อีเอม 2 อยู่ในกลุ่มรถบรรทุกขนาดกลาง (MEDIUM-DUTY)    

ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ไกลกว่า 300 กม.

รุ่น อีแคสเคเดีย ใช้พื้นฐานของรถบรรทุกฟเรทไลเนอร์ แคสเคเดีย ซึ่งอยู่ในบริษัทในเครือของ ไดมเลร์ ทรัคส์ ถูกออกแบบมาสำหรับการขนส่งระยะไกล และบรรทุกหนักโดยเฉพาะ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 730 แรงม้า ชุดแบทเตอรีมีความจุ 550 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับเคลื่อนได้ไกลสุด 380-400 กม./การชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง แต่ถ้าคิดตามระยะเวลาในการจอดพักของคนขับรถใน 1 วันแล้ว จะแวะพักเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งในระยะเวลานี้ หากชาร์จเก็บประจุ จะสามารถขับเคลื่อนได้ไกล 300-320 กม.   ส่วนการขนส่งระยะสั้นและมีน้ำหนักบรรทุกไม่มาก แนะนำรุ่น อีเอม 2 โดยใช้พื้นฐานรถบรรทุกจาก ฟเรทไลเนอร์ เอม 2 ซึ่งเป็นรถบรรทุกขนาดกลาง ขับไม่ไกลมาก ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 480 แรงม้า แบทเตอรีแพคมีความจุ 325 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็ม 60 นาที ขับเคลื่อนได้ 350-370 กม.