เราได้รับเชิญจาก บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ร่วมเดินทางไปชมงานมหกรรมยานยนต์สิงคโปร์ หรือ SINGAPORE MOTORSHOW 2020 ช่วงต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ด้วยพโรแกรมสั้นๆ 3 วัน 2 คืนงานมหกรรมยานยนต์สิงคโปร์ 2020 จัดขึ้น ณ ซันเทค สิงคโปร์ คอนเวนชัน แอนด์ เอกซิบิชัน เซนเตอร์ ซึ่งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของสิงคโปร์ โดยใช้พื้นที่จัดแสดง ชั้น 3, 4 และ 6 ของอาคาร การเดินทางไปชมงานมหกรรมยานยนต์สิงคโปร์ 2020 ครั้งนี้ นอกจากจะดูงานโชว์แล้ว ไฮไลท์หลักๆ คือ ร่วมงานเปิดตัว ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ อี-บอกเซอร์ จีที เอดิชัน ใหม่ (ALL-NEW SUBARU FORESTER E-BOXER GT EDITION) ที่เปิดตัวครั้งแรกในสิงคโปร์ และรถรุ่นนี้มาพร้อมระบบ EYE SIGHT ที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการแนะนำตัว ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ จีที เอดิชัน (SUBARU FORESTER GT EDITION) และซูบารุ ฟอเรสเตอร์ อัลทิเมท คัสโตไมซ์ คิท สเปเชียล เอดิชัน (SUBARU FORESTER ULTIMATE CUSTOMISED KIT SPECIAL EDITION) รถรุ่นพิเศษ ที่แต่งมาอวดโฉมเฉพาะงานนี้เท่านั้น ในงานมหกรรมยานยนต์สิงคโปร์ 2020 ได้รับเกียรติจาก กเลน ตัน ประธานสมาคมยานยนต์สิงคโปร์ เป็นประธานในพิธีเปิด ภายในงานมีบริษัทรถยนต์ 33 ยี่ห้อ และรถจักรยานยนต์ 3 ยี่ห้อ มาร่วมจัดแสดงบนพื้นที่รวมกว่า 22,000 ตรม. โดยจัดแสดงในระยะเวลาสั้นๆ แค่ 4 วันเท่านั้น (วันแสดงงาน 9-12 มค.) ไฮไลท์ของบูธ ซูบารุ ครั้งนี้ จัดเต็มเติมความเท่ให้กับรถธง ฟอเรสเตอร์ ในหลากหลายเวอร์ชัน ตั้งแต่รุ่นธรรมดาที่จับมาแต่งตัวด้วยชุดแต่ง จีที เอดิชัน ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด โดยตัว จีที เอดิชัน มีชุดแต่งเสริมหล่อรอบคัน เช่น ลิ้นใต้กันชนหน้า และกันชนหลังทรงใหม่ สเกิร์ทด้านข้าง สปอยเลอร์บนหลังคา ล้ออัลลอยลายใหม่ ส่วนภายในห้องโดยสาร มีการปรับลุคใหม่ เบาะนั่งที่พิถีพิถันตัดเย็บโดยมีไอเดียมาจากรถรุ่นหรูในยุโรป อีกทั้งยังมีการเพิ่มเติมกล้องมองภาพ 360 องศา ที่ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น พร้อมๆ กับปรับเปลี่ยนจอทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้วรุ่นใหม่ของ PANASONIC ที่รองรับ APPLE CAR PLAY และ ANDROID AUTO ช่วยยกระดับความบันเทิงภายในรถ นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัย EYE SIGHT เข้ามาเติมเต็ม ช่วยให้ตัวรถดูน่าสนใจ และดูหรูหรามากกว่ารุ่นธรรมดา สำหรับแผนการตลาดในประเทศไทยนั้น กเลน ตัน DEPUTY CHAIRMAN & MANAGING DIRECTOR OF TAN CHONG INTERNATIONAL LIMITED เปิดเผยให้ฟังว่า "ในปี 2018 ซูบารุ มียอดจำหน่ายรวม 2,300 คันเท่านั้น แต่ในปี 2019 มียอดจำหน่ายรวม 3,952 คัน ส่วนเป้าหมายในปี 2020 ตั้งเป้าไว้ที่ 5,640 คัน และในปี 2019 เรามีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย และเปิดโชว์รูมอย่างเป็นทางการ จำนวน 34 แห่งทั่วประเทศไทย ในปี 2020 ตั้งเป้าเพิ่มอีก 11 แห่ง กระจายอยู่ตามต่างจังหวัดที่สำคัญๆ รวมโชว์รูมของ ซูบารุ มีจำนวน 45 แห่งที่พร้อมให้การบริการลูกค้า สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ เราจะเน้นเรื่องเซฟที ในรถรุ่นใหม่ๆ เป็นหลัก โดยเฉพาะ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ที่มีองค์ประกอบด้านความปลอดภัยมากกว่า 100 รายการ และอีกจุดหนึ่ง ที่จะนำเสนอให้กับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นรถที่นำเข้ามา หรือประกอบในประเทศไทย รถทุกคันล้วนมีความปลอดภัย เทียบเท่ามาตรฐานระดับโลก ประเด็นนี้จะเป็นหัวข้อหลักในการสื่อสารถึงระบบ EYE SIGHT ซึ่งระบบนี้เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะมีระบบช่วยการขับขี่มากมาย เช่น ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ ระบบสตอพ แอนด์ โก ในกรณีที่รถติดเราก็ติด รถไปเราก็ไป และในปีนี้ เราพยายามจะบอกเล่าถึงจุดเด่นของตัวรถมากกว่าเรื่องราคา สิ่งที่เราจะต่อยอดความสำเร็จในเรื่องของเซฟที การผลิตซีเคดี เรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัย เราก็จะมีการเพิ่มความพยายาม และสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น จะเน้นกิจกรรมการตลาดมากขึ้น โดยผ่านกิจกรรม ซูบารุ อัลทิเมท เทสต์ดไรฟ เราตั้งใจจัดกิจกรรมทดลองขับตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย ส่วนแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ เราเตรียมเปิดตัว ฟอเรสเตอร์ จีที เอดิชัน อย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ ไฮไลท์ปลายปี ในงาน MOTOR EXPO จะเปิดตัว ฟอเรสเตอร์ 2.0 ไอ-แอล ที่มีระบบ EYE SIGHT รวมถึง ซูบารุ เอกซ์วี รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ที่บรรจุระบบ EYE SIGHT มาด้วยเช่นกัน ด้านโรงงานผลิตในเมืองไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคม-ธันวาคม 2019 เราผลิตไปแล้วกว่า 6,000 คัน ส่วนปี 2020 เราตั้งเป้าการผลิตของโรงงานไว้ที่ 10,000 คัน จากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า อาจจะทำให้มีการปรับเปลี่ยนแผนการผลิตให้ตรงกับสถานการณ์เศรษฐกิจจริงๆ อีกครั้ง ส่วนคำถามที่ถามว่า จะนำเข้ารุ่น อี-บอกเซอร์ ไปจำหน่ายในเมืองไทยไหม ? เราคงไม่นำเข้า แต่จะศึกษาเพื่อการผลิตจริงน่าจะดีกว่า และจะรีบศึกษาความเป็นไปได้ให้เร็วที่สุด ซึ่งตัว อี-บอกเซอร์ ใหม่ จะเป็นรถไฮบริด ยังไม่ใช่รถอีวี สำหรับเครื่องยนต์ อี-บอกเซอร์ ของ ซูบารุ เราไม่ได้เน้นแค่พลัง หรือแรงม้า แต่เน้นในเรื่องความสมมาตรในการใช้งาน เน้นความสมดุลที่ผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพการทำงาน และการประหยัดน้ำมัน โดยเครื่องยนต์ไฮบริดจะเข้ามาช่วยในเรื่องแรงบิดที่เพิ่มมากขึ้น และเน้นอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีขึ้น ส่วนยอดจำหน่ายในกลุ่มมอเตอร์ อิเมจ ทั่วโลก เรามียอดจำหน่ายกว่า 20,000 คัน โดยประเทศไต้หวันมียอดขายเป็นอันดับ 1 ประมาณ 6,300 คัน ส่วนประเทศไทย มียอดจำหน่ายสูงเป็นอันดับ 2 ประมาณ 3,900 คัน และมาเลเซีย ประมาณ 3,300 คัน เรามองว่าประเทศไทยมีศักยภาพมากพอที่จะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มมอเตอร์ อิเมจ เราจึงต่อยอดสร้างภาพลักษณ์ให้กับบแรนด์ และลงทุนด้านโรงงานผลิต รวมถึงเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค” และที่ขาดไม่ได้ คือ ซูบารุ สตันท์โชว์ กิจกรรมความบันเทิงซึ่งกลายเป็นซิกเนเจอร์ของค่าย ซูบารุ โดยลุงรัสส์ สวิฟท์ (RUSS SWIFT) เจ้าพ่อสตันท์โชว์ ตัวจริงเสียงจริง ปิดท้ายด้วยการลองขับ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ อี-บอกเซอร์ จีที เอดิชัน ในสนามทดสอบ ที่อินสตรัคเตอร์จัดคอร์สย่อมๆ ให้เราได้เรียนรู้ และได้ลองในพื้นที่ขนาดกะทัดรัด แต่เน้นการโชว์ประสิทธิภาพของตัวรถ และระบบ EYE SIGHT ให้เห็น ทั้งระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ ทั้งจากการชนด้านหน้า หรือถอยหลัง ระบบกล้องมองภาพ 360 องศารอบคัน เป็นระบบที่ช่วยให้การขับขี่ในมุมแคบๆ หรือในพื้นที่จำกัดเต็มไปด้วยความปลอดภัย ซึ่งระบบนี้จะช่วยเสริมการขับขี่ที่ปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถ ขอขอบคุณ: บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญให้เราได้ไปสัมผัสกับกิจกรรมที่หลากหลาย
บทความแนะนำ