พิเศษ(formula)
10 ข่าวเด่น ปี 2565
1. COVID-19 วาย ตลาดรถฟื้น แต่ชิพยังขาด
อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 ถึงขั้นหยุดการผลิต ปิดโรงงาน รวมทั้งยอดขายรวมตกดิ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงในปีนี้ ตลาดรถยนต์ไทยกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง รวมทั้งมีบแรนด์ใหม่เข้ามาเปิดตลาดอย่างคึกคัก คาดการณ์ว่า ยอดขายรวมปีนี้น่าจะเกิน 800,000 คัน โตขึ้นจากปีก่อนราว 16 %
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ หรือชิพ เนื่องจากการปิดโรงงานผลิตในช่วง COVID-19 ยังคงส่งผลกระทบรุนแรงต่อการผลิตอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์สำหรับรถยนต์ ทำให้รถยนต์หลายบแรนด์ไม่สามารถผลิต และส่งมอบได้ตามกำหนด
2. คลอดภาษีอุ้มรถยนต์ไฟฟ้า
หลังจากถกเถียงกันมานาน ในที่สุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติกำหนดมาตรการการจัดเก็บภาษีรถ EV 2565-2568 ดังนี้
1. เงินอุดหนุนรถยนต์ และรถกระบะ 70,000-150,000 บาท/คัน และรถจักรยานยนต์ 18,000 บาท/คัน
2. ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์จากร้อยละ 8 เป็นร้อยละ 2 และรถกระบะเป็นร้อยละ 0
3. ลดอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตต่างประเทศ และนำเข้าทั้งคัน (CBU) สูงสุดร้อยละ 40 สำหรับรถยนต์ถึงปี 2566
4. ยกเว้นอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศ (CKD) 9 รายการ
ค่ายรถที่เข้าร่วมต้องรับเงื่อนไข ได้แก่ ต้องผลิตชดเชยรุ่นใดก็ได้ จนครบตามจำนวนการนำเข้าสำเร็จรูป ในอัตราส่วน 1:1 (นำเข้า 1 คัน ต้องผลิตคืน 1 คัน) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 หรือในอัตราส่วน 1:1.5 (นำเข้า 1 คัน ผลิต 1.5 คัน) หากยืดระยะเวลาออกไปอีก 1 ปี หรือภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 สำหรับรถที่ราคาเกิน 2,000,000 บาท แต่ไม่เกิน 7,000,000 บาท ต้องผลิตชดเชยเฉพาะรุ่นที่นำเข้ามา จนครบตามจำนวนการนำเข้าสำเร็จรูป ในอัตราส่วน 1:1 (นำเข้า 1 คัน ต้องผลิต 1 คัน) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 หรือในอัตราส่วน 1:1.5 (นำเข้า 1 คัน ผลิต 1.5 คัน) หากยืดระยะเวลาออกไปอีก 1 ปี หรือภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
3. ตลาดรถไฟฟ้าสุดคึกคัก
ตั้งแต่รัฐบาลออกมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100 % มีการเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่างคับคั่ง บแรนด์เก่า ได้แก่ EV MINI TRUCK MT30 (อีวี มีนี ทรัค เอมที 30), MERCEDES-EQS (เมร์เซเดส-อีคิวเอส), MG EP (เอมจี อีพี), MG ZS EV (เอมจี เซดเอส อีวี), TOYOTA BZ4X (โตโยตา บีเซด 4 เอกซ์), VOLVO C40 RECHARGE PURE ELECTRIC (โวลโว ซี 40 รีชาร์จ เพียวร์ อีเลคทริค)
นอกจากนี้ ยังมีบแรนด์ใหม่จากประเทศจีน ประกอบด้วย BYD ATTO 3 (บีวายดี อัตโต 3), DFSK (ดีเอฟเอสเค), SERES (เซเรส), NETA V (เนทา วี), ORA GOOD CAT (โอรา กูด แคท), VOLT CITY EV (โวลท์ ซิที อีวี)
4. เบนซิน 50 บาท/ลิตร
ตลอดปีนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนอย่างมาก เนื่องจากภาวะสงคราม รวมทั้งโครงสร้างราคาน้ำมันในบ้านเรา ก็ส่งผลต่อการกำหนดราคาขายปลีกภายในประเทศ ทำให้ช่วงที่ผ่านมามีการปรับตัวรุนแรง โดยราคาน้ำมันเบนซิน เคยขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิน 50 บาท/ลิตร ส่วนดีเซล รัฐยังอุ้มอยู่ตามมติคณะรัฐมนตรี
5. คนแห่เข้าคิวซื้อ BYD
บแรนด์รถไฟฟ้าน้องใหม่จากประเทศจีน BYD สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการรถยนต์เมืองไทย โดย (1 พย. 65) วันแรกเปิดจองรถยนต์ BYD ATTO 3 มีลูกค้าไปรอเข้าคิวซื้อรถหน้าโชว์รูมนับร้อยคน
บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด (BYD) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก BOI ในการผลิตรถยนต์ประเภท BEV และ PHEV มูลค่าการลงทุน 17,891 ล้านบาท ซื้อที่ดิน 600 ไร่ ในนิคม WHA ระยอง 36 เตรียมดำเนินการผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าพวงมาลัยขวาที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุด เป็นโรงงานแห่งแรกนอกประเทศจีน และเป็นครั้งแรกในอาเซียน กำลังการผลิต 150,000 คัน/ปี เพื่อส่งออกไปจำหน่ายประเทศต่างๆ กลุ่มอาเซียน และยุโรป คาดว่าจะเริ่มเดินสายพานได้ในปี 2567 โดยรถยนต์รุ่นแรกที่จะผลิต ได้แก่ ATTO 3
6. TESLA บุกไทย จดทะเบียนตั้งบริษัทฯ ทุน 3,000,000 บาท
TESLA (เทสลา) ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดัง แจ้งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ ในประเทศไทย ใช้ชื่อ “บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด”
จากการสำรวจบริษัทจดทะเบียนใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ พบชื่อ บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทฯ เพื่อทำธุรกิจในประเทศไทย โดยระบุประเภทธุรกิจเป็นการขายรถยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน ทุนจดทะเบียน 3,000,000 บาท
วัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการ ระบุว่า “ประกอบกิจการขายรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้ง และอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้ง ระบบผลิตพลังงาน และอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบพลังงาน”
7. BMW ครองแชมพ์รถหรู 2 ปีซ้อน
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์พรีเมียม 2 ปีซ้อน โดย BMW (บีเอมดับเบิลยู) และ MINI (มีนี) มีส่วนแบ่งการตลาดรวม 45.5 % เพิ่มจากปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 44.6 % และอัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า MINI ELECTRIC (มีนี อีเลคทริค) เพิ่มขึ้นถึง 263 % เมื่อเทียบปีต่อปี ***(ทำกราฟิกในรูปในหน่อยนะคะ)
8. JEEP เปิดตลาดครั้งใหม่ในไทย
JEEP (จีพ) บแรนด์เอสยูวีพันธุ์แท้ ที่เคยประสบความสำเร็จอย่างสูงในบ้านเรา กลับมาอีกครั้ง โดยบริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากกลุ่ม STELLANTIS (สเตลแลนทิส) ให้เป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์ JEEP อย่างเป็นทางการ
การเปิดตลาดในไทยครั้งนี้ เป็นหนึ่งในการก้าวเข้าสู่เป้าหมายการขยายตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ JEEP
9. 4 ยักษ์ใหญ่ เปิดสถานีไฮโดรเจนต้นแบบ
4 ยักษ์ใหญ่ “PTT-OR-TOYOTA-BIG” ผนึกกำลังเปิดสถานีต้นแบบเติมไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง แห่งแรกของประเทศไทยที่ อ. บางละมุง จ. ชลบุรี พร้อมจัด TOYOTA MIRAI (โตโยตา มิราอิ) รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน เป็นรถรับ-ส่งระหว่างสนามบินอู่ตะเภา จ. ชลบุรี สำหรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่พัทยา-ชลบุรี การร่วมมือกันของ 4 ยักษ์ใหญ่ครั้งนี้ เป็นการตอบรับภาครัฐสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (CARBON NEUTRALITY) และการปล่อยแกสเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (NET ZERO GHG EMISSIONS) เพื่อสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย
10. TOYOTA เลิกผลิต VIOS
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ประกาศหยุดการผลิต TOYOTA VIOS (โตโยตา วีออส) ที่เปิดตัวเจเนอเรชันแรกตั้งแต่ปี 2002 รวมระยะเวลาอยู่ในตลาดร่วม 20 ปี ได้รับความนิยมสูงมาตลอด ต่อจากนี้ TOYOTA จะทำตลาด TOYOTA YARIS ATIV 2022 (โตโยตา ยารีส เอทีฟ 2022) แทน เริ่มด้วยรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 รหัสใหม่ และจะเพิ่มรุ่นไฮบริดในปี 2566 รวมทั้งมีแผนส่งออกไปยัง 35 ประเทศทั่วโลก
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2566
คอลัมน์ Online : พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/435996