พิเศษ(formula)
บุกแดนจิงโจ้
หลังจากที่นำเข้า เชฟโรเลต์ ลูมินา รถหรูขนาดกลางมาจากออสเตรเลียเพื่อเปิดตลาดในเมืองไทยช่วงปลายปีที่ผ่านมา เชฟโรเลตเซลส์ ประเทศไทยจึงได้พาผู้สื่อข่าว ไปเยี่ยมโรงงานผลิต โฮลเดน ซึ่งเป็นรถในเครือของ จีเอม และเป็นแหล่งกำเนิดของ
เชฟโรเลต์ ลูมินา ตั้งอยู่ที่เมืองอดีเลด ประเทศออสเตรเลีย เพื่อชมการผลิตรถยนต์หลากหลายรุ่นรวมไปถึงกรรมวิธีออกแบบที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังได้พาพวกเราไปทดลองขับรถยนต์ในเครือ จีเอมรุ่นต่างๆ ที่ แลง แลง (LANG LANG) ซึ่งเป็นสนามทดสอบรถขนาดใหญ่ ในรัฐวิคทอเรีย อีกด้วย
ออสเตรเลีย แหล่งผลิต โฮลเดน ที่ยิ่งใหญ่ของ จีเอมรถยนต์ โฮลเดน ประสบความสำเร็จอย่างสูงในออสเตรเลีย ปีที่ผ่านมาบริษัท ฯ ทำรายได้เกือบ 1.5แสนล้านบาท คาดว่าการเติบโตในอนาคตจะเป็นไปอย่างสม่ำเสมอปีละ 1.5 % จีเอม ได้พัฒนา
โฮลเดน คอมโมดอร์ เพื่อนำเข้ามาเข้าสู่ตลาด สิงคโปร์/ไทย และมาเลเซีย ภายใต้ชื่อ เชฟโรเลต์ ลูมินาแอลทีเซด และ ลูมินา เอส ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ โฮลเดนและเป็นรถที่ขายดีที่สุดขอออสเตรเลียตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา
"อลิซาเบธ" ศูนย์การผลิตรถ โฮลเดน ที่อดีเลด (ADELIADE)
โฮลเดน รถสายพันธุ์แท้จากออสเตรเลีย ผลิตจากศูนย์การผลิตอลิซาเบธ (ELIZABETH) ที่มีกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องถึง 3 กะ ตลอด 24 ชม. ผลิตได้ 780 คัน/วัน หรือ 86 วินาที/คัน หรือโดยเฉลี่ยใน 1 ปี จะผลิตรถยนต์ได้ไม่ต่ำกว่า 1.6 แสนคัน ในปีที่แล้ว โฮลเดน ผลิตรถยนต์ได้มากถึง146,000 คัน เป้าหมายในปี 2551 จะผลิตรถยนต์ให้ได้ถึงปีละ 200,000 คัน
โฮลเดน มีบทบาทเฉพาะที่โดดเด่นในโลกของ จีเอมคือเป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์เพียงไม่กี่แห่งในโลกที่เป็นแหล่งป้อนรถขับเคลื่อนล้อหลังขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพดี ในจำนวนการผลิตจำกัด ให้แก่ตลาดที่มีความต้องการหลากหลายอย่างมากได้เป็นอย่างดี
หลักการที่ โฮลเดน ยึดถือเพื่อให้มั่นใจได้ว่า รถยนต์จากสายการผลิตนั้นมีคุณภาพสูง
คือการช่วยสนันสนุนให้ผู้ปฏิบัติงานในสายการผลิตนั้นมีประสิทธิภาพและสามารถบรรลุถึงเป้าหมายเดียวกันได้ นั่นก็คือ "การผลิตให้ถูกต้องตั้งแต่แรกจากส่วนการผลิต" บิลด์ ไรท์ เฟิรสต์ ไทม์ อิน สเตชัน(BUILD RIGHT FIRST TIME IN STATION)
โฮลเดน ในออสเตรเลีย มียอดขายราว 90,000 คัน/ปี โดยส่งออกไปยังโซนตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้/นิวซีแลนด์/สหรัฐอเมริกา/อังกฤษ/บรูไน และฟิจิ ปริมาณ 32,000 คัน/ปีส่วนการส่งออกในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 38,000 คัน เนื่องมาจากการจำหน่าย เชฟโรเลต์ ลูมินาในประเทศไทย/สิงคโปร์ และมาเลเซีย ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก โฮลเดน คอมโมดอร์
ด้วยประสิทธิภาพของศูนย์การผลิตรถยนต์แห่งนี้ สามารถผลิตรถที่มีความหลากหลายถึง 35 รุ่นจากพื้นฐานของตัวถัง 13 แบบ มีศูนย์การผลิตเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถผลิตรุ่นรถและแบบตัวถังได้มากเท่าที่นี่ ซึ่งรวมไปถึงรถแบบฐานล้อสั้น ฐานล้อยาว รถแบบเก๋ง รถตรวจการณ์ สปอร์ทคูเป ทั้งพวงมาลัยซ้ายและขวาทำให้ศูนย์แห่งนี้กลายเป็นแหล่งผลิตรถยนต์ที่มีความยืดหยุ่นในการผลิตมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกโดยเน้นหนักไปทางด้านตลาดจำเพาะ นิช มาร์เกท (NICHE MARKET)สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อในทุกเพศทุกวัยในทุกภูมิภาค
เราได้เข้าชมโรงงานอลิซาเบธ ทั้งในส่วนของโรงงานตัวถัง การพ่นสี การประกอบรถ ฯลฯได้เห็นขั้นตอนการผลิตตั้งแต่แผ่นเหล็กกล้าถูกนำมาประกอบเข้ากับโครงสร้างตัวถังรถยนต์โดยฝีมือของหุ่นยนต์จำนวนมากที่ทำหน้าที่ เชื่อมแผ่นเหล็กในแต่ละส่วนเข้าด้วยกัน หุ่นยนต์จะได้รับการป้อนโพรแกรมให้ผลิตรถยนต์รุ่นต่างๆที่วิ่งมาตามสายพานเดียวกันโดยไม่มีข้อผิดพลาด พนักงานในโรงงานที่เราเข้าชมส่วนใหญ่
จะอยู่ในวัยหนุ่ม-สาว ทุกคนทำงานกันด้วยความร่าเริง คล่องแคล่ว และว่องไว
จุดแข็งที่ โฮลเดน ตั้งใจจะเสริมสร้างต่อไปคือ ศักยภาพของบุคลากร และการพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆเพื่อให้พนักงานเกิดความสะดวกในการทำงาน เช่น "ที่นั่งแบบลอย" ไฟลอิง ซีทส์ (FLYING SEATS)คือเก้าอี้ที่สามารถเคลื่อนตัวไปทุกทิศทาง ได้อย่างคล่องตัวช่วยให้คนงานสามารถประกอบอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องโดยสารได้สะดวกยิ่งขึ้น
ห้องออกแบบรถยนต์ด้วยเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง เวอรทิอัล รีเอลิที เทคโนโลยี
(VIRTUAL REALITY TECHNOLOGY)
จีเอม ได้สร้างสตูดิโอออกแบบรถยนต์ด้วยการจำลองภาพเหมือนจริง ไว้ในโรงงาน อลิซาเบธซึ่งเป็นศูนย์กลางการออกแบบที่ทันสมัยที่สุดในซีกโลกใต้ สำหรับ จีเอม ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิครวมทั้งประเทศไทย และเป็นหนึ่งในสามแห่งของ จีเอม ทั่วโลกที่ใช้เทคโนโลยีนี้
เราได้เข้าไปชมห้องแสดงการออกแบบรถยนต์โดยให้ผู้เข้าชมสวมแว่นตา 3 มิติ
เพื่อมองจอภาพด้านหน้า ซึ่งจะมองเห็นภาพรถยนต์เท่าขนาดจริงแบบ 3 มิติ เลือกชมได้ในทุกแง่มุมเลือกเปลี่ยนสีรถได้ตามต้องการ เพื่อให้ผู้ทำงานร่วมกัน ติ-ชม แก้ไขปัญหาต่างๆโดยสำนักงานออกแบบจะตั้งอยู่ในอาคารเดียวกันกับสำนักงานด้านวิศวกร
ทำให้มีการประสานงานที่ใกล้ชิดสามารถนำแนวคิดด้านวิศวกรประกอบเข้าไปในกระบวนการออกแบบได้ในเวลาเดียวกัน
เทคโนโลยีการออกแบบด้วยการจำลองภาพเสมือนจริงนั้นช่วยย่นระยะเวลาในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก 36 เดือน ให้เหลือแค่ 22 เดือนเท่านั้น
โฮลเดน โพรวิง กราวน์ด (HOLDEN PROVING GROUND)
โฮลเดน โดยการสนับสนุนของ จีเอม สร้างสนามทดสอบรถขนาดใหญ่ ที่ แลง แลง รัฐวิคทอเรีย
ห่างจากสำนักงานใหญ่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 95 กม.
ใน 1 ปี จะมีรถยนต์เข้ามาวิ่งในสนามทดสอบแห่งนี้เป็นระยะทางรวมกันกว่า 4.5 ล้านกม.บนสภาพเส้นทางที่หลากหลายรูปแบบสำหรับการพิสูจน์คุณภาพรถยนต์
โดยเฉพาะในเรื่องของเครื่องยนต์ และระบบรองรับ ซึ่งรถยนต์ เชฟโรเลต์ ซึ่งผลิตที่โรงงาน จ. ระยองไม่ว่าจะเป็นรุ่น ซาฟีรา หรือ ออพทรา ก็ส่งมาทดสอบสมรรถนะด้านต่างๆ ที่สนามทดสอบแห่งนี้
โฮลเดน โพรวิง กราวน์ด เป็นสนามทดสอบรูปชามอ่างประกอบด้วยเส้นทางที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับการทดสอบสมรรถนะด้านต่างๆทดสอบการขับขี่ที่ความเร็วสูง โดยบริเวณทางโค้งพื้นถนนจะเอียงรับแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ขับจึงสามารถขับด้วยความเร็วสูงอย่างปลอดภัยนอกจากนี้ยังมีสภาพสนามทดสอบการใช้งานอย่างหนักหน่วง จำลองการใช้งานในสภาพต่างๆทั้งทางเรียบและทางฝุ่น ทางลาดชัน ขึ้น/ลง เขา รวมไปถึง สกิด แพด (SKID PAD)ซึ่งเป็นพื้นคอนกรีทรูปทรงกลมรัศมี 98 ม. เพื่อทดสอบการยึดเกาะถนน การควบคุมบังคับ ระบบรองรับและยาง บนสภาพผิวถนนแห้งและเปียกสนามทดสอบเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนบนพื้นถนนเรียบเป็นระยะทางเกือบ 2 กม.
ในศูนย์ทดสอบแห่งนี้ยังมีห้องทดสอบเรื่องความปลอดภัยเวลาเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ ห้องทดสอบการชนคแรช เทสต์ (CRASH TEST) ห้องทดสอบระบบการทำงานของถุงลมนิรภัยนอกจากนี้ยังมีห้องทดสอบและตรวจวัดค่าไอเสียด้วยเครื่องมือไดนาโมมิเตอร์และล้อรถจะวิ่งอยู่บนลูกกลิ้ง ห้องปฏิบัติการเหล่านี้เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. ทุกวัน
เราเริ่มทดสอบรถบนสกิดแพดที่ถูกฉีดน้ำจนเปียกเพื่อทดสอบระบบป้องกันล้อหมุนฟรีที่จะเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่โดยเฉพาะบนพื้นผิวถนนที่ลื่น ในช่วงแรกที่เปิดสวิทช์ให้ระบบทำงานแม้จะวิ่งเป็นวงกลมด้วยความเร็วค่อนข้างสูง ตัวรถก็ยังอยู่ในความควบคุมไม่เสียหลักหรือลื่นไถลช่วงที่สองเราปิดสวิทช์ยกเลิกระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
รถทดสอบซึ่งขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลังมีอาการโอเวอร์สเตียร์อย่างแรงจนบางครั้งหมุนติ้วควบคุมไม่ได้ถ้าขับด้วยความเร็ว แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของระบบนี้
ต่อจากนั้นเราขับรถรุ่นต่างๆ ของ จีเอม บนส่วนหนึ่งของสนามทดสอบซึ่งมีระยะทางประมาณ 7 กม.สภาพถนนจำลองเส้นทาง 2 เลนตามชนบทที่พื้นผิวเรียบมีสภาพเป็นลอนคลื่นสลับในบางช่วงเพื่อใช้ทดสอบประสิทธิภาพของระบบรองรับแถมยังมีทางรถไฟจำลองตัดผ่านสภาพเส้นทางมีทางโค้งหลายรูปแบบให้ได้ทดสอบฝีมือและประสิทธิภาพของระบบรองรับทั้งโค้งธรรมดาทั่วไปและโค้งหักศอก
แม้จะเป็นระยะทางสั้นๆ แต่ก็ใช้ความเร็วได้สูงทีเดียว ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงบุคลิกของรถรุ่นต่างๆทั้งในด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์ การควบคุมบังคับ ความสะดวกสบายในการขับขี่ เราได้มีโอกาสขับโฮลเดน คอมโมดอร์ หรือ เชฟโรเลต์ ลูมินา เป็นครั้งแรกที่นี่ เท่าที่ได้สัมผัสในระยะสั้นๆเป็นรถที่ขับสนุกในสไตล์รถอเมริกัน
ระบบรองรับการยึดเกาะถนนแม้จะเป็นรองรถทางยุโรปอยู่บ้างแต่ให้จุดเด่นในด้านความนุ่มนวลภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย เครื่องยนต์ให้กำลังที่ดีนอกจากนั้น เรายังได้ลองขับรถรุ่นต่างๆอีกมากมายเช่น โฮลเดน โมนาโร (MONARO) รถสปอร์ทคูเป ใช้เครื่องยนต์ วี 8 สูบ 5.7 ลิตรที่มีกำลังสูงถึง 333 แรงม้า ซึ่งถือว่าแรงที่สุดในวันนั้น ทุกคนจึงหมายปองที่จะได้ขับสปอร์ทเร้าใจคันนี้
ก่อนจบการทดสอบ จากจีเอมมีรายการพิเศษ "ฮอท แลพ" (HOT LAP)
ให้ผู้สื่อข่าวเป็นผู้โดยสารนั่งไปกับ มร. นาธาน พเรทที (MR. NATHAN PRETTY) นักแข่งรถทีมโฮลเดน วิ่งรอบสนามที่เราลองขับกัน เพื่อเป็นสีสัน เพิ่มความตื่นเต้น เร้าใจพิสูจน์ทั้งฝีมือผู้ขับและประสิทธิภาพของรถยนต์ที่ถูกใช้งานแบบเต็มร้อย โดยใช้สปอร์ท มานาโรเป็นม้าศึก ซึ่งไม่ทำให้เราผิดหวัง และไม่น่าเชื่อว่าเขาจะไปได้เร็วขนาดนั้น รู้สึกได้เลยว่าตัวรถจะ"อยู่หรือไป" ขึ้นอยู่กับระบบรองรับและหน้ายางซึ่งสัมผัสอยู่กับพื้นผิวถนนเท่านั้นเอง
ขอขอบคุณ : ชาติชาย สุวรรณเสวก และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดที่เปิดโอกาสให้เราได้ไปชมความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ โฮลเดน ในเครือของจีเอมที่ประเทศออสเตรเลียในครั้งนี้
ABOUT THE AUTHOR
อ
อัฐฒา นายเรือ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2547
คอลัมน์ Online : พิเศษ(formula)