เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 27 จากเมื่อปี 2023 ทั้งนี้ตามข้อมูลของ CARNEWSCHINA.COM สื่อภาษาอังกฤษ ซึ่งระบุว่าในช่วงเวลาดังกล่าว 10 ประเทศที่จีนส่งออกรถยนต์มากที่สุด คือ
1. รัสเซีย 705,514 คัน
2. เมกซิโก 323,540 คัน
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 203,048 คัน
4. บราซิล 192,254 คัน
5. เบลเยียม 182,504 คัน
6. ซาอุดีอาระเบีย 161,261 คัน
7. สหราชอาณาจักร 137,925 คัน
8. ออสเตรเลีย 118,888 คัน
9. ฟิลิปปินส์ 104,402 คัน
10. ตุรเคีย 95,650 คัน
เวบไซท์ดังกล่าวระบุว่า ขณะนี้รัสเซียเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุด คือ สูงถึงร้อยละ 19 ของยอดส่งออกโดยรวม (เฉพาะเดือนสิงหาคม 2024 มูลค่าการส่งออกสูงถึง 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 54,400 ล้านบาท) เป็นผลลัพธ์จากการที่รถยนต์หลายยี่ห้อถอนตัวจากรัสเซีย เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
เฉพาะยอดส่งออกของ NEV (NEW ENERGY VEHICLE) หรือรถยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งได้แก่รถพลังไฟฟ้าล้วนๆ และรถไฮบริด แม้ว่าเผชิญปัญหาการกีดกันด้านภาษีจากสหภาพยุโรป แต่ยอดส่งออก NEV ของจีนในช่วงดังกล่าวก็ยังสูงถึง 1.397 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 จากช่วงเดียวกันเมื่อปี 2023 ประเทศที่ส่งออกสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่
1. เบลเยียม 170,876 คัน
2. บราซิล 136,112 คัน
3. สหราชอาณาจักร 88,933 คัน
4. ไทย 81,546 คัน
5. ฟิลิปปินส์ 69,987 คัน
6. เมกซิโก 61,647 คัน
7. อินเดีย 53,738 คัน
8. ออสเตรเลีย 51,843 คัน
9. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 47,716 คัน
10. เยอรมนี 41,105 คัน
เวบไซท์นี้ระบุด้วยว่า ยอดส่งออกรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ เพิ่มขึ้นในบราซิล เบลเยียม อินโดนีเซีย และเมกซิโก แต่ลดลงในสเปน และไทย