ฮันเด เปิดตัวเอมพีวีรุ่นล่าสุด ไอ 40

ฮันเด เปิดตัวเอมพีวีรุ่นล่าสุด ไอ 40 ฮันเด เผยโฉม ไอ 40 (I40) ในมหกรรมยานยนต์เจนีวา 2011 โดยใช้คำจำกัดความว่า “NEW THINKING. NEW POSSIBILITIES” แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ ฮันเด ก้าวไปสู่การเป็นรถระดับพรีเมียมที่ทันสมัย เปี่ยมด้วยคุณภาพ พัฒนามาเพื่อตลาดยุโรปโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ อุปกรณ์ตกแต่งและเทคโนโลยีต่างๆ เป็นไปตามความนิยมของชาวยุโรป โดยจะนำรถแบบแวกอนโชว์ในงานนี้เป็นครั้งแรก ส่วนเก๋งซีดานจะเปิดตัวตามมาในอนาคตอันใกล้นี้ ขุมกำลังมาจากเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.7 ลิตร ที่ให้ค่าไอเสียเพียงแค่ 113 กรัม/กม. ถือว่าต่ำสุดในคลาสส์นี้เพื่อให้เป็นผู้นำในด้านการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการรับประกันสินค้าถึง 5 ปีเต็มโดยไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนี้ยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินอีก 5 ปีเต็มเช่นกัน   ฟอร์ด โชว์กระบะแกร่ง เรนเจอร์ ไวด์ทแรค ไวด์ทแรค (WILDTRAK) เป็นชื่อรุ่นของ ฟอร์ด ที่แฟนๆ รู้จักกันมาช้านานโดยไม่ต้องแนะนำตัวมากนัก เป็นรถทรัคที่ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค เท่านั้น ในรุ่นใหม่ใช้เครื่องยนต์ 2 ขนาด คือ 2.2 ลิตร 4 สูบ 148 แรงม้า ส่วนแรงบิดทำได้ 38.3 กก.-ม. ส่วนเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 3.2 ลิตร 5 สูบเรียง ได้รับการพัฒนาจนมีพละกำลัง 197 แรงม้า แรงบิด 48.0 กก.-ม. ระบบเกียร์ 6 จังหวะ มีทั้งแบบธรรมดา และอัตโนมัติ เบาะนั่งทำจากวัสดุหนังแท้สลับกับผ้า ถังน้ำมันมีความจุ 80.5 ลิตร ติดตั้งวงล้อขนาด 18 นิ้ว เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการใช้งานและมุมมองที่ดุดัน ทันสมัยยิ่งขึ้น ฟอร์ด ยังอ้างว่า เรนเจอร์ ใหม่ จะมีกำลังฉุดลากถึง 3,360 กก. ซึ่งถือว่าสูงสุดในบรรดาเครื่องยนต์ดีเซล แบบ 5 สูบ   โอเพล เผยโฉม ซาฟีรา ทัวเรอร์ การออกแบบรถรุ่นใหม่ในสไตล์ครอบครัวอเนกประสงค์จาก โอเพล ได้เผยโฉมในงานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท ด้านหน้าของรถแนวคิด ซาฟีรา ทัวเรอร์ (ZAFIRA TOURER) รุ่นนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น อัมเพรา (AMPERA) กระจกบังลมด้านหน้าแบบพาโนรามา บนหลังคาติดตั้งกลาสส์รูฟเพื่อเพิ่มแสงสว่างในห้องโดยสารยามต้องการรับแสงแดดอันอบอุ่น ไฟหน้าแบบไบ-ซีนอน พร้อมไฟส่องสว่างยามขับขี่ตอนกลางวันแบบแอลอีดี วงล้อขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้ว ภายใต้ฝากระโปรงหน้าติดตั้งเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบ ใช้เทคโนโลยี สตาร์ท-สตอพ ที่เครื่องยนต์จะดับและติดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เพื่อประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษ ในส่วนของข้อมูลจำเพาะยังไม่เปิดเผย แต่เครื่องยนต์ 4 สูบ น่าจะให้กำลังอยู่ที่ 140 แรงม้า แรงบิด 20.5 กก.-ม.   โวลโว ล้ำสมัยกับ วี 60 พลัก-อิน ไฮบริด รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ 2.4 ลิตร ให้กำลังถึง 215 แรงม้า แรงบิดมหาศาลในระดับ 44.8 กก.-ม. ผสมผสานการทำงานกับพลังงานไฟฟ้าที่มาจากแบทเตอรีลิเธียม-ไออน ที่จะส่งกำลังมายังล้อคู่หลัง โดยมอเตอร์จะให้กำลัง 70 แรงม้า แรงบิด 20.6 กก.-ม. หลังจากปรับปรุงจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รถรุ่นนี้จะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 1.9 ลิตร/100 กม. หรือ 52.6 กม./ลิตร ค่าไอเสียคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 49 กรัม/กม. การใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวจะมีระยะเดินทางได้ไกลถึง 50 กม. ยิ่งไปกว่านั้น วี 60 (V60) ยังเป็นรถขับเคลื่อนแบบออลล์วีลดไรฟ โดยเครื่องยนต์ดีเซลจะส่งกำลังไปที่ล้อคู่หน้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าจะส่งกำลังไปที่ล้อคู่หลัง เพื่อที่จะช่วยประหยัดพลังงานจากแบทเตอรี เช่นในขณะที่เดินทางไกลจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล แต่เมื่อเข้าเมือง ระบบไฟฟ้าจะเข้ามาทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ   แฟร์รารี เอนหาความอเนกประสงค์กับ เอฟเอฟ รถสปอร์ทรุ่นล่าสุดของ แฟร์รารี ที่จะมาแทน 612 สกาลีเญตตี (612 SCAGLIETTI) ออกแบบโดยปินินฟารีนา เป็นการผสมผสานด้วยกันระหว่าง 3 รุ่นดัง คือ 458 อิตาลีอา (458 ITALIA), แคลิฟอร์เนีย (CALIFORNIA) และ 599 จีทีบี ฟีโอราโน (599 GTB FIORANO) โดยรถรุ่นใหม่มีจุดเด่นอยู่ที่ระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อจะถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรก เป็นรถแบบ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ในขณะที่เบาะหลังตั้งตรงจะมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระถึง 450 ลิตร และเมื่อพับเบาะลงจะมีเนื้อที่เป็น 800 ลิตรเลยทีเดียว เครื่องยนต์ขนาด 6.3 ลิตร วี 12 สูบ 660 แรงม้า แรงบิดขนาด 69.7 กก.-ม. ระบบถ่ายทอดกำลังแบบดับเบิลคลัทช์ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. พาตัวรถที่มีน้ำหนัก 1,790 กก. ไปได้ในเวลาเพียง 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 335 กม./ชม. อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 15.4 ลิตร/100 กม. หรือ 6.5 กม./ลิตร ปริมาณไอเสียคาร์บอนไดออกไซด์ 360 กรัม/กม.