สโมสรฟอร์มูลา

คาสตรอล ปรับโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัท บีพี-คาสตรอล (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าว ปรับโฉมผลิตภัณฑ์ คาสตรอล พโรเฟสชันแนล   สำหรับผลิตภัณฑ์ คาสตรอล พโรเฟสชันแนล ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดผู้ผลิตรถยนต์ และตัวแทนจำหน่าย ประกอบด้วยบริษัทรถยนต์ต่างๆ เช่น แจกวาร์ บีเอมดับเบิลยู โวลโว เอาดี โฟล์คสวาเกน มีนี เซอัต สโกดา เป็นต้น โดยได้ร่วมมือพัฒนากับทีมวิศวกรของบแรนด์รถยนต์   ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของ คาสตรอล พโรเฟสชันแนล ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น 3 บแรนด์ คือ คาสตรอล เอดจ์ พโรเฟสชันแนล เทคโนโลยี TITANIUM FLUID STRENGTH TECHNOLOGY น้ำมันเครื่องที่มีความแข็งแรงของฟีล์มน้ำมัน และล้ำสมัยเหนือกว่าน้ำมันเครื่องอื่นๆ ถึง 60 %   คาสตรอล แมกนาเทค พโรเฟสชันแนล ปกป้องพิเศษระหว่างเดินทางและหลังเดินทาง ด้วยเทคโนโลยี MICRO FILTRATION และสีเขียวที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อศูนย์บริการมาตรฐานโดยเฉพาะ และ คาสครอล จีทีเอกซ์ พโรเฟสชันแนล ปกป้องการสะสมของตะกอนโคลน และเขม่า สูตรพิเศษ จะช่วยป้องกันการเกิดตะกอนโคลนได้สูงกว่า 25 % จากมาตรฐาน API รักษาความหนืดได้ดีเยี่ยม แม้อุณหภูมิสูง มีสูตรพิเศษป้องกันการสึกหรอ เพื่อยืดอายุของเครื่องยนต์ บริษัท ฯ ตั้งเป้าสำหรับน้ำมันเครื่อง คาสตรอล พโรเฟสชันแนล จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 8-10 %     โตโยตา เปิดตัวพรึเซนเตอร์ใหม่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวการจัดโครงการ “VIOS WE LOVE” พร้อมแนะนำพรีเซนเตอร์โครงการ “VIOS WE LOVE” เกิดขึ้นจากความนิยมของรถยนต์ โตโยตา วีออส ที่มีอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่เปิดตัวปี 2550 มียอดขายรวมกว่า 500,000 คัน   โครงการดังกล่าวเป็นกิจกรรมรูปแบบใหม่ ที่จะทำให้ลูกค้าได้สัมผัสรถยนต์ โตโยตา วีออส ง่ายยิ่งขึ้น เช่น VIOS WE LOVE FESTIVAL ลุ้นชอพพิงฟรี วีออส จ่ายให้ที่ห้างบิกซี และกิจกรรมกระจายไออุ่น ทำบุญด้วยกอด กิจกรรม VIOS WE LOVE PHOTO CONTEST ประกวดภาพถ่ายคู่กับรถ วีออส คอนเสิร์ทใหญ่ และแคมเปญพิเศษ เพื่อให้เป็นเจ้าของ วีออส ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังได้แนะนำพรีเซนเตอร์ใหม่ เพิ่มอีก 1 คน คือ จรินทร์พร จุนเกียรติ   ที่ผ่านมา โตโยตา วีออส จำหน่ายอยู่ประมาณ 8,000-9,000 คัน/เดือน ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 10,000 คัน/เดือน หรือมียอดขายในปีนี้ประมาณ 85,000 คัน   พร้อมกันนี้ โรงงานเกทเวย์ ได้เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 240,000 คัน ซึ่งการเพิ่มกำลังการผลิตนี้ ส่วนหนึ่งเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ วีออส เพื่อให้สามารถส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น     โตโยตา ลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา ปี 7 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดงานพิธีลงนามความร่วมมือการดำเนินกิจกรรม เพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม โครงการ "ลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา ปีที่ 7"   โครงการ ลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างบริษัท ฯ และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ตั้งแต่ปี 2548 มีวัตถุประสงค์ของการดำเนินการ มุ่งให้เกิดการลดการปล่อยแกสเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการหาโรงเรียน และชุมชน ในเทศบาลจากทั่วประเทศ ให้เข้ามาเป็นเครือข่ายการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม   สำหรับการดำเนินงานต่อเนื่องปีที่ 7 นี้ ได้เปิดตัวเครือข่ายแห่งใหม่ รวมทั้งสิ้น 40 แห่ง แบ่งเป็นโรงเรียน 20 แห่ง และเทศบาล 20 แห่ง ส่งผลให้ปัจจุบัน โครงการ ลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา มีเครือข่ายทั้งสิ้น 342 แห่ง แบ่งเป็นเทศบาล 152 แห่ง และโรงเรียน 190 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ   การดำเนินโครงการ ฯ จะแบ่งการทำงานออกเป็น 4 แนวทาง ได้แก่ ลดเมืองร้อนด้วยการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ลดเมืองร้อนด้วยการลดขยะในเมือง ลดเมืองร้อนด้วยการเดินทางอย่างยั่งยืน และลดเมืองร้อนด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง โดยจะมอบทุนสนับสนุนการดำเนินงานให้แก่หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ การจัดค่ายอบรมความรู้ การแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนแก่คณะครู อาจารย์ ตัวแทนเทศบาล และการจัดค่ายเยาวชนลดเมืองร้อน เพื่อให้คณะทำงานนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรม ไปพัฒนาแผนงานการดำเนินกิจกรรมลดเมืองร้อนในชุมชนของตน     เทคโนเซล (เฟรย์) ฯ เปิดตัวฟีล์มกรองแสง ลามินา รุ่นใหม่ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟีล์มกรองแสงติดรถยนต์และอาคาร ลามินา และฟีล์มกลุ่มพิเศษ ลูมาร์ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว ฟีล์มกรองแสง ลามินา กลุ่มมิสเตอรี   บริษัท ฯ มีความมั่นใจว่ายอดขายปีนี้ที่ตั้งไว้ 560 ล้านบาท จะเป็นไปตามเป้า ซึ่งกลยุทธ์หลักที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ คือ การนำเสนอเทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัว ฟีล์มกรองแสงกลุ่มมิสเตอรี ซีรีส์ (MYSTERY SERIES) พร้อมกัน 4 รุ่น ได้แก่ มิสเตอเรียส ไอรีส 05, มิสเตอเรียส โมนา 20, มิสเตอเรียส กรีซ 30 และ มิสเตอเรียส เซนส์ 40   สำหรับฟีล์มกรองแสงกลุ่ม มิสเตอรี ซีรีส์ใหม่ 4 รุ่น เปิดจำหน่ายใน ลามินา เอกซ์คลูซีฟ ชอพ ที่ปัจจุบันมีอยู่ 52 สาขา และมีแผนจะขยายให้ครบ 60 สาขา ภายในปีนี้ โดยมีราคาติดตั้ง เริ่มต้นที่คันละ 8,500 บาท และก่อนหน้านี้บริษัท ฯ ได้แนะนำฟีล์มกรองแสง ลามินา กลุ่ม ดิจิทอล ซีทีเอกซ์ เพิ่มใหม่ในตลาดอีก 2 รุ่น   อย่างไรก็ตามในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัท ฯ สามารถทำยอดขายได้แล้ว 280 ล้านบาท ถือว่าลดลงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ประมาณ 15 % เป็นผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้บริษัทรถยนต์ส่งมอบรถได้น้อยกว่าปกติ ส่งผลให้ตลาดฟีล์มกรองแสงได้รับผลกระทบไปด้วย แต่เชื่อกว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ การเร่งส่งมอบรถยนต์จะทำให้ตลาดรถยนต์กลับมาเติบโตอีกครั้ง และคาดการณ์ว่าปีนี้จะมียอดขายโดยรวมไม่ต่ำกว่า 900,000 คัน ทำให้เชื่อว่าตลาดฟีล์มกรองแสงระดับพรีเมียม จะกลับมาเติบโตเช่นกัน     น้ำมันปิโตรเลียมไทย ฯ เปิดตัวบแรนด์ใหม่ บริษัท น้ำมันปิโตรเลียมไทย จำกัด จัดงานแถลงข่าว เปิดตัวน้ำมันหล่อลื่นใหม่ พัลซาร์ (PULZAR) เทียบบแรนด์เอเชียทดแทน เพนน์ซอยล์ (PENNZOIL) ที่ยกเลิกทำตลาดนอกทวีปอเมริกา   เดิมบริษัท ฯ ได้รับสิทธิ์จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น เพนน์ซอยล์ แต่ในชณะนี้ได้หมดสัญญาแล้ว ดังนั้นบริษัท ฯ จึงได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกา พัฒนาสูตรน้ำมันหล่อลื่น พัลซาร์ ขึ้น โดยอิงตามมาตรฐานสากล พร้อมด้วยเทคโนโลยีใหม่ MODIFIED RELEASE TECHNOLOGY ให้การปกป้องเครื่องยนต์ในทุกกิโลเมตรของการใช้งาน มีทั้งหมด 14 รุ่น โดยใน 12 เดือนแรกตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท โดยช่วง 2-3 ปีแรกตั้งเป้าใช้งบประมาณการตลาดในการสร้างตราสินค้า และจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด 300 ล้านบาท โดยสินค้าจะจำหน่ายผ่านช่องทางจำหน่าย (ดีเลอร์) จำนวน 1,300 แห่ง ซึ่งอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 550 ล้านลิตร มีอัตราการเติบโต 5 % นอกจากนี้บริษัท ฯ ยังมีแผนอีก 3 ปี จะเริ่มส่งออกไปจำหน่ายในภูมิภาคนี้   ส่วนยอดจำหน่ายของบริษัท ฯ ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 15 % แบ่งเป็นยอดขายน้ำมันหล่อลื่น และจาระบี 3,200 ล้านบาท แบทเตอรี 300 ล้านบาท โดยในช่วง 6 เดือนแรก บริษัท ฯ มียอดขายรวมประมาณ 1,600-1,700 ล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัท ฯ ยังได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศอินโดนีเซีย โดยร่วมทุนกับ บริษัท เกียวโต ยูชิ จำกัด ลงทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ผลิตจาระบีจำหน่ายในอินโดนีเซีย     บริดจ์สโตน จัดงาน "ปลูกวันแม่...เกี่ยวข้าววันพ่อ" บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด และ บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ...เศรษฐกิจพอเพียง หรือ GREEN HANDS SPECIAL PLUS "ปลูกวันแม่...เกี่ยวข้าววันพ่อ"   สำหรับกิจกรรมพิเศษครั้งนี้ บริดจ์สโตน ร่วมกับ โรงเรียนชุมชนวัดหน้าไม้ พร้อมชุมชนในท้องถิ่น และพนักงาน รวมกว่า 300 คน จัดกิจกรรมการปลูกข้าวในแปลงนากว่า 13 ไร่ ร่วมดำนาปลูกข้าวในช่วงวันแม่แห่งชาติ เพื่อให้พร้อมเกี่ยวข้าวในช่วงวันพ่อ   สำหรับการทำนา เป็นอาชีพในท้องถิ่นที่ถ่ายทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จนเกิดมีประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ มากมาย ชุมชนในตำบลหน้าไม้ ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพการทำนา และเป็นคนรุ่นเก่า โดยคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยเห็นความสำคัญและมักจะไปประกอบอาชีพอื่น การดำเนินกิจกรรมทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ความสำคัญของทรัพยากร ดิน น้ำ ลม และแสงแดด ที่ได้ใช้ประโยชน์ รวมถึงเด็ก ก็จะได้จัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้สามารถรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรมไปพร้อมกัน   พร้อมกันนี้ บริษัท ฯ มีความมุ่งมั่นและถือเป็นพันธสัญญาที่จะให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ โดยใช้กระบวนการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการ ภายใต้นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม "ONE TEAM, ONE PLANET,"     บางจาก เผยผลประกอบการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าว ผลประกอบการ แผนธุรกิจ และกิจกรรม   สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก บริษัท ฯ มีรายได้จากการขายน้ำมัน 42,308 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9,758 ล้านบาท หรือ 30 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการกลั่นน้ำมันมากขึ้นเฉลี่ย 98,200 บาร์เรล/วัน ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าการกลั่นจะเพิ่มเป็น 100,000 บาร์เรล/วัน   ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ หรือ SUNNY BANGCHAK ขนาด 38 เมกะวัตต์ ที่บางปะอิน มีความคืบหน้ากว่า 85 % และได้เริ่มผลิตไฟฟ้าได้บางส่วนให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และจะจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน ส่วนโครงการระยะ 2 ขนาด 32 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้   นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสถานีบริการจำหน่ายน้ำมันเบนซินแกสโซฮอล อี 20 เพิ่มเป็น 500 แห่ง และอี 85 เป็น 30 แห่งภายในปี 2554 เพื่อสนองความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น และมีราคาถูกกว่าน้ำมันชนิดอื่น พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว เลดี คาร์ด มอบสิทธิประโยชน์สร้างความสุขกับการใช้พลังงานทดแทน     ฟอร์ด จัดกิจกรรม ฟอร์ด ประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว เปิดตัวแคมเปญระดับโลก “เธอะ โกลบอล ฟอร์ด เรนเจอร์ ชาลเลนจ์” (THE GLOBAL FORD RANGER CHALLENGE)   สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อต้องการเชิญชวนให้ผู้บริโภคคนไทย “ท้าทาย “ สมรรถนะของรถ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เพราะมั่นใจในความแข็งแกร่งของรถพิคอัพใหม่ล่าสุดนี้ และต้องการให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ตรง ด้วยการทดสอบจริง ภายใต้สถานการณ์จริงที่สมบุกสมบัน   ส่วนผู้สนใจสามารถเสนอภารกิจที่ต้องการท้าทายสมรรถนะของรถรุ่นนี้ เข้ามาที่เวบไซท์ www.fordrangerchallengethailand.com และ www.facebook.com/fordthailand.com ผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย จะมีโอกาสได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ ภายใต้สภาพแวดล้อมการใช้งานจริง ตามไอเดียของภารกิจที่ส่งเข้ามาร่วมแข่งขัน โดยผู้เข้ารอบที่มีคะแนนโหวทสูงสุด จะได้รับรางวัลรถพิคอัพ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นดับเบิลแคบ 4x2 ไฮ-ไรเดอร์ เอกซ์แอลที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ เป็นรางวัล และจะประกาศผลผู้ชนะเลิศ ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 28” วันที่ 30 พฤศจิกายน 2554     มาซดา เปิดตัว 2 ปรับโฉมใหม่ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรถ มาซดา 2 ไมเนอร์เชนจ์ พร้อมเปิดเกมรุกตลาดรถเก๋งเล็กเต็มสูบ ณ โรงแรม กแรนด์ ไฮแอท เอราวัน   หลังจากที่ มาซดา 2 เปิดตัวครั้งแรก ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา มาซดา 2 ได้สร้างยอดขายชนิดก้าวกระโดด ด้วยยอดขายรวม 35,147 คัน และทำให้ มาซดา มีอัตราการเติบโตสูงกว่า 165 % เมื่อเทียบกับปี 2552 และสำหรับปีนี้ ตลอด 7 เดือนแรกของปี สามารถทำยอดขายได้ถึง 23,963 คัน เพิ่มขึ้น 20 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพื่อเป็นการเดินเกมการตลาดที่เข้มข้นขึ้น มาซดา ได้เปิดตัว มาซดา 2 ไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งเป็นรถรุ่นปรับโฉมปี 2554 ด้วยการใส่อุปกรณ์เสริมความสปอร์ทเข้าไปครบทุกรุ่น พร้อมดีไซจ์นที่โดดเด่น ตั้งแต่รุ่นล่างสุดจนถึงรุ่นทอพสุด และมั่นใจว่าตลาดรถยนต์ปีนี้ เติบโตสูงขึ้นอย่างแน่นอน พร้อมกับปรับเป้าหมายการจำหน่าย จากเดิมที่ตั้งไว้ 38,500 คัน เพิ่มเป็น 40,000 คัน   พร้อมกันนี้ ยังได้ปรับเปลี่ยนชื่อรุ่น เพื่อเพิ่มความแตกต่าง โดย มาซดา 2 แฮทช์แบค เปลี่ยนเป็น “มาซดา 2 สปอร์ท” ส่วน มาซดา 2 ซีดาน เปลี่ยนเป็น “มาซดา 2 เอเลแกนศ์” ส่วนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 545,000-695,000 บาท มาซดา 2 ทุกรุ่น มาพร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรค เอบีเอส กระจกไฟฟ้า กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมล้อแมก     สยามยีเอสเซลส์ ฯ เปิดตัว จีเอส รุ่น คิว-85 บริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด และ บริษัท สยามยีเอสแบตเตอรี่ จำกัด บริษัทในกลุ่มสยามกลการ จัดงานแถลงข่าว เปิดตัว จีเอส แบทเตอรี รุ่น คิว-85 สำหรับอีโคคาร์   ศรันย์ ชินประหัษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า จากแนวโน้มตลาดรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลง ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาใช้รถยนต์นั่งขนาดเล็กเพิ่มขึ้น และเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด บริษัท ฯ จึงได้เปิดตัว แบทเตอรีเทคโนโลยีใหม่ รุ่น คิว-85 สำหรับอีโคคาร์ ที่ปัจจุบันติดตั้งอยู่ใน นิสสัน มาร์ช   จีเอส แบทเตอรี รุ่น คิว-85 มีการพัฒนาแผ่นธาตุพิเศษสูตรใหม่ ลิชสิทธิ์เฉพาะ จีเอส ญี่ปุ่น ทำให้การหลุดร่วงของผงตะกั่วน้อยกว่าสูตรปกติ ทนต่อการกัดกร่อนได้สูง สามารถชาร์จไฟกลับขณะที่รถยนต์เคลื่อนตัวได้มากขึ้น และมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น บริษัท ฯ ตั้งเป้ามียอดขายเดือนละ 20,000 ลูก หรือ 240,000 ลูก/ปี   สำหรับตลาดรวมในตลาดทดแทนปีนี้ คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่ง 6 เดือนแรก บริษัท ฯ มียอดขายอยู่ที่ 2,5000 ล้านบาท คาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะมียอดขายตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 4,200 ล้านบาท ส่วนยอดขายโดยรวมของทั้ง 3 ตลาด คือ ตลาดทดแทน โออีเอม และส่งออก บริษัท ฯ ตั้งเป้าจะมียอดขายอยู่ที่ 6,200 ล้านบาท     อีซูซุ จัดศึกยอดมวยไทย สู่ยอดมวยโลก บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท บอสส์บ๊อกซิ่ง 2000 จำกัด แถลงข่าวการแข่งขันชกมวยไทย อีซูซุ คัพ ครั้งที่ 22 “ศึกอีซูซุ ดี-แมกซ์ ยอดมวยไทย สู่ยอดมวยโลก” หนึ่งในกิจกรรมโครงการ “รักชาติ...รักษ์มวยไทย” ณ โรงแรม โซฟิเทล เซนทรัล ลาดพร้าว   การจัดการแข่งขันศึกมวยไทย อีซูซุ คัพ ครั้งที่ 22 รายการศึก อีซูซุ ดี-แมกซ์ ยอดมวยไทย สู่ยอดมวยโลก ครั้งนี้ จัดติดต่อกันมาตลอด 2 ทศวรรษ โดยครั้งนี้นำนักมวยไทย ฝีมือดีพิกัดน้ำหนัก 145-147 ปอนด์ มาร่วมประชันแม่ไม้มวยไทย เพื่อประกาศศักดาความเป็นเจ้ามวยไทย ให้ทั่วโลกได้รับรู้ โดยจะคัดแชมพ์รายการนี้ ไปประชันเชิงมวยกับนักมวยค่ายต่างๆ อีกครั้ง ในรายการ ศึก อีซูซุ คัพ ซูเพอร์ไฟท์ ก่อนที่จะส่งไปชิงชัยบนสังเวียนระดับโลก รายการ “THAI FIGHT 2012”   ซึ่งมวยไทยรายการ “อีซูซุ คัพ ครั้งที่ 22” นี้ เป็นการชิงชัยที่มีรถพิคอัพ อีซูซุ ดี-แมกซ์ สปาร์ค ซูเพอร์ ไททาเนียม พร้อมเงินสดรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาทและมีนักมวยไทยชื่อดังเข้าร่วมรายการ 8 คน โดยแบ่งเป็นสายเอ และบี     ฮันเด จัดกิจกรรมคืนกำไรให้สังคม บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมกับ ฮันเด มอเตอร์ คัมพานี จำกัด ร่วมจัดกิจกรรมสานฝันส่งความสุขสู่สังคมไทย   สำหรับโครงการ "HYUNDAI HAPPY MOVE IN THAILAND" หรือ ฮันเด รวมพลังส่งความสุข เป็นกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อสังคมส่วนรวมที่สอดคล้องกับนโยบายของ ฮันเด เน้นย้ำสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ มอบให้แก่ชุมชน เพื่อปูพื้นฐานสู่สังคมที่ยั่งยืน ซึ่งไม่ได้มุ่งหวังที่จะเป็นผู้นำธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังตระหนักถึงคุณค่าของสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยโครงการนี้จัดขึ้นตั้งแต่ปี 2548 โดยเริ่มจากการยกระดับคุณภาพชุมชนในเขตรอบโรงงานประกอบรถยนต์ ที่ประเทศเกาหลีและขยายพื้นที่ในการพัฒนาไปในหลายพื้นที่ รวมถึงจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี   ส่วนปีนี้จัดขึ้นที่ประเทศไทย โดย ฮันเด นำทีมอาสาสมัครจากประเทศเกาหลี ที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครทางออนไลน์ทั้งหมด 1,250 คน เหลือเพียง 60 คน ร่วมพัฒนาชุมชน ซ่อมแซมบ้านเรือน พร้อมมอบความรู้เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมสู่เยาวชนไทย ในแหล่งชุมชนทรัพย์สินเก่า ซอยรามคำแหง 39 เขตวังทองหลาง   นอกจากพัฒนาชุมชนแล้ว ทีมอาสาสมัครยังได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน และสันทนาการหลากหลาย อาทิ การร้องเล่น เต้นรำ การเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัว และการสอนภาษาและวัฒนธรรมเกาหลี แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเทพลีลา นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมอุปกรณ์กีฬาและเครื่องเชียน เพื่อมอบให้แก่เยาวชนและเด็กนักเรียนน พร้อมเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนในชุมชนพัฒนาต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กประสิทธิภาพสูง