ทดลองขับ(formula)
LEXUS UX 250H
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เชิญร่วมทริพทดลองขับ LEXUS UX 250H (เลกซัส ยูเอกซ์ 250 เอช) ครอสส์โอเวอร์ไฮบริด รุ่นล่าสุด ออกแบบตามปรัชญา YET PHILOSOPHY สร้างความแตกต่างด้วยเส้นสายที่บ่งบอกถึงตัวตนของ LEXUS อย่างชัดเจน
ภายนอก เส้นสายเฉียบคม บ่งบอกตัวตน LEXUS
LEXUS UX 250H มีเส้นสายที่เฉียบคมตั้งแต่ด้านหน้าส่งต่อความงามสู่ด้านข้าง และมีความโดดเด่นที่ด้านท้ายรถ กระจังหน้าแบบ SPINDLE GRILLE ที่เป็นเอกลักษณ์ของ LEXUS ไฟหน้า LED แบบ ULTRA-COMPACT 3-EYE BI-BEAM มาพร้อมดีไซจ์นเรียบหรูกะทัดรัด สวยสะดุดตา และกระจายแสงได้ดี ไฟ DAYTIME RUNNING LAMP รูปทรงตัว L ติดตั้งอยู่เหนือไฟหน้า ให้ความรู้สึกนุ่มนวลแต่แฝงความลึกซึ้ง แผงไฟท้าย LED ถูกออกแบบคล้ายใบมีดที่ยกตัวขึ้น ยาวตลอดแนวด้านท้ายรถจากซ้ายจรดขวา และมีจำนวนมากกว่า 120 ดวง ให้ความสว่างชัดเจนทุกมุมมอง ด้านท้ายของ LEXUS UX 250H เป็นดีไซจ์นที่นำมาจากด้านท้ายของรถแข่ง ที่เน้นหลักอากาศพลศาสตร์ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพที่ด้านหลังขณะเข้าโค้ง
นอกจากดีไซจ์นที่ดูโฉบเฉี่ยวแล้ว เรื่องอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายในการใช้งานก็ไม่ยิ่งหย่อน ประตูท้ายสามารถเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า แบบคิคเซนเซอร์ เพียงแค่พกกุญแจรถ และใช้เท้าเลื่อนไปใต้กันชน
มิติตัวรถ ยาว 4,495 มม. กว้าง 1,840 มม. และสูง 1,520 มม. ความยาวฐานล้อหน้า/หลัง 2,640 มม. สร้างขึ้นจากพแลทฟอร์ม GA-C ถูกพัฒนาขึ้นมาช่วยสร้างสมรรถนะการขับขี่ ทั้งด้านอัตราเร่ง การเข้าโค้ง และการเบรค โดยทีมวิศวกรของ LEXUS ออกแบบให้โครงสร้างมีความแข็งแกร่ง และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ
จุดเด่นของตัวถังภายนอกอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุผสมผสานกัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบา โดยใช้เหล็กแรงยึดสูง และกรรมวิธีขึ้นรูปร้อนในการสร้างชิ้นส่วนหลักของรถ รวมถึงพื้นรถ และเลือกใช้อลูมิเนียมสำหรับฝากระโปรงหน้า และประตูข้างทุกบาน ส่วนฝากระโปรงท้ายทำจากเรซิน
ภายใน หรูหรา วัสดุพรีเมียม
ภายในห้องโดยสาร บ่งบอกความสุนทรีย์ของงานศิลป์ที่มอบความเนี้ยบ และให้ความสำคัญแก่ผู้ขับขี่เป็นหลัก จึงให้ทั้งมุมมองที่กว้างกว่าปกติ และความปลอดภัยจากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ แผงคอนโซลหน้าแบ่งเป็นเลเยอร์ สร้างความแตกต่างที่ลงตัว มาตรวัด และจอแสดงผล EMV ขนาด 12.3 นิ้ว เน้นการแสดงผลที่เข้าใจง่าย มาพร้อมระบบโทรศัพท์แฮนด์ฟรี ระบบเครื่องเสียง และข้อมูลอื่นๆ โดยทำงานสอดคล้องกับจอแสดงผลรวม TFT ขนาด 7 นิ้ว ในมาตรวัด OPTITRON และจอแสดงผล HEAD-UP DISPLAY (มีเฉพาะรุ่นทอพสุด) แสดงข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็น เช่น ความเร็วรถ, มาตรวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์, ระบบเครื่องเสียง และอื่นๆ อยู่ในระดับสายตาของผู้ขับขี่ ตัวเลือกโหมดการขับขี่ติดตั้งอยู่บริเวณแผงหน้าปัดตรงหน้าพวงมาลัย ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน และสามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ เช่น โหมด ECO สำหรับการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน, โหมด NORMAL สำหรับสมรรถนะการขับขี่ และการประหยัดน้ำมันที่สมดุล และโหมด SPORT สำหรับการขับขี่แบบสปอร์ท ให้อัตราเร่งแรง และเร้าใจ
นอกจากนี้ ยังติดตั้งแท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย ให้คุณสามารถชาร์จโทรศัพท์ได้ง่ายดาย และระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะในห้องโดยสารโดยอัตโนมัติ และแบ่งการควบคุมอุณหภูมิออกเป็นแต่ละส่วน รวมถึงควบคุมระบบระบายอากาศในเบาะหน้า และคุณยังสามารถควบคุมระบบปรับอากาศทั้งหมดได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว
เครื่องยนต์ 2 ทางเลือก 2 ความคุ้มค่า
LEXUS UX 250H มาพร้อมขุมพลังเบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VVT-IE ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 146 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 19.2 กก.-ม. (188 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,400-5,200 รตน. จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบ EFI รองรับน้ำมัน 91 และ E10 ส่งผ่านกำลังด้วยระบบเกียร์ E-CVT
ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 202 นิวตัน-เมตร และแบทเตอรีแบบนิคเคิล-เมทัล ไฮดไรด์ สมรรถนะที่โรงงานเคลมไว้ คือ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 8.5 วินาที และให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 22.73 กม./ชม.
ระบบรองรับ นุ่ม นิ่ง เกาะทุกโค้ง
ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังแบบดับเบิลวิชโบน (ปีกนก 2 ชั้น) ระบบห้ามล้อ ทั้งด้านหน้า และด้านหลังแบบจาน สำหรับยางมาตรฐานติดรถ เลือกใช้บแรนด์ MICHELIN PRIMACY 4 (มิเชอแลง พไรมาซี 4) ขนาด 215/60 R17
ส่วนระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ LEXUS SAFETY SYSTEM+ อัดแน่นแบบเต็มๆ อาทิ ระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่ง, ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน, ระบบป้องกันการชน, ระบบปรับไฟสูง/ต่ำอัจฉริยะ, ระบบช่วยเตือนขณะถอยจากที่จอด, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบแสดงผลรอบทิศทาง, ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS เป็นต้น
สรุป
การจากทดลองขับ LEXUS UX 250H ระยะทางกว่า 750 กม. จากเชียงใหม่-กรุงเทพฯ บนสภาพถนนที่ครบทุกอารมณ์ เจ้า LEXUS UX 250H ให้การตอบสนองที่ดี การบังคับควบคุมพวงมาลัยคมมาก อัตราเร่งแซง ประมาณว่ากดปุ๊บมาปั๊บ ถึงจะเครื่องเล็กแค่ 2.0 ลิตร แต่ก็ไม่อืดอาด ช่วงล่างแน่น หนึบ เกาะทุกโค้งไว้ใจได้
ภายในห้องโดยสารโปร่งโล่ง ทัศนวิสัยดี เสาเอไม่เป็นมุมอับสายตา ส่วนความเนี้ยบของห้องโดยสาร ดูหรูหราตั้งแต่คอนโซลหน้าจนถึงส่วนตกแต่งอื่นๆ เบาะนั่งหนา นุ่มนั่งสบายมากๆ บวกกับเครื่องเสียงชั้นดี และมีการบุวัสดุซับเสียงอย่างดี ช่วยให้ระบบเสียงมีคุณภาพระดับนุ่มนวลชวนฝัน ส่วนอัตราสิ้นเปลืองนั้น เราวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 120-140 กม./ชม. เฉลี่ย 12-14 กม./ลิตร ถือว่าหล่อเลยละ