MINI John Cooper Works Electric VS MINI John Cooper Works Aceman

มินิ ประเทศไทย สร้างความประทับใจในโลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพาสื่อมวลชนสัมผัสประสบการณ์ขับรถไฟฟ้า รุ่นใหม่ล่าสุดกับตระกูล JCW หรือ John Cooper Works นำโดย MINI John Cooper Works Electric ฮอทแฮทช์ตัวแรง พร้อมด้วย MINI John Cooper Works Aceman ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ โดยสื่อมวลชนที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ได้ร่วมทดสอบสมรรถนะ และเร้าใจในแบบฉบับ MINI การขับขี่แบบ fast lap และการขับขี่แบบยิมคานา

MINI John Cooper Works Electric

การตกแต่งและอุปกรณ์พิเศษเฉพาะรุ่น รอบคัน ทำให้ MINI John Cooper Works Electric เป็นส่วนผสมที่ลงตัว ตัวแรงพลังไฟฟ้าล้วนรุ่นแรก แบบ 3 ประตู 

John Cooper Works หรือ JCW รุ่น ใหม่นี้ โลโก้ JCW สีแดง-ขาว-ดำ ที่ได้ แรงบันดาลใจจากธงตาหมากรุก

และสปอยเลอร์ท้ายสไตล์รถแข่ง ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพ ทั้งในด้านอากาศ พลศาสตร์

ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยโทนสี แดงและดำอันเป็นเอกลักษณ์ของ John Cooper Works

พวงมาลัยสปอร์ท JCW สีดำที่ประดับด้วยตะเข็บสีแดงและหุ้มผ้าที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา จับถนัดมือ

เบาะสปอร์ท JCW ให้การรองรับที่ มั่นคงระหว่างการขับขี่แบบสุดตัว ตกแต่งด้วยตะเข็บสีแดงตัดกับหนัง เทียมสีดำเช่นเดียวกับคอนโซล

นอกจากนี้ ระบบ MINI Experience Modes ในรุ่นนี้ ยังมีโหมด Go-Kart ที่ เพิ่มเข้ามาสำหรับรถตระกูล JCW โดยเฉพาะเพื่อเติมกลิ่นอายของมอเตอร์สปอร์ทให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยโหมดนี้ จะตั้งค่าพวงมาลัย ให้ไวมากขึ้น คันเร่ง ตอบสนองเร็วขึ้น และแสดงข้อมูลเพิ่ม เติมบนหน้าจอ OLED ทรงกลมด้านหน้า ทั้งแรงบิด กำลังเครื่องยนต์ และแรง G แบบเรียลไทม์

MINI John Cooper Works Electric มาพร้อมระบบขับเคลื่อน แบบไฟฟ้า 100 % ที่ให้กำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า และแรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่เรียกใช้งานได้ทันที แบบไม่มีหน่วง

อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ในเวลาเพียง 5.9 วินาที

ไม่เพียงใช้จุดดีของรถ BEV ที่เร็วแรงกว่าเครื่องยนต์ JCW ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังสนุกกับความแรงได้อีก ด้วยฟังก์ชัน Electric Boost ที่เสริมพลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 20 กิโลวัตต์ /27 แรงม้าเป็นระยะสั้น ๆ ประมาณ 10 วินาที ขณะเร่งความเร็ว และออกตัว

แบทเตอรี Lithium-ion 400v 54.2kWh. ระยะทางการขับขี่ 371 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP)

รองรับระบบชาร์จไฟกระแสตรง (DC) 95 kWh สามารถชาร์จแบทเตอรีเต็มได้ ในเวลาเพียง 31 นาทีด้วยระบบชาร์จ ไฟกระแสตรง (DC) 95 kWh หรือระบบ ชาร์จไฟ กระแสสลับ (AC) 11 กิโลวัตต์ เต็มใน 5 ชั่วโมง 30 นาที

ส่วนช่วงล่างก็ผ่านการปรับจูนมาในสไตล์ John Cooper Works เต็มตัว ให้ความรู้สึก “Go-Kart feeling” ที่เป็นเอกลักษณ์ของ MINI แรง คล่องตัวในทุกโค้ง

MINI John Cooper Works Electric รุ่นแรกนี้ มีให้เลือก 5 สี

เทา Legend Grey

แดง Chili Red II

ขาว Nanuq White

ดำ Midnight Black II

น้ำเงิน Blazing Blue

MINI John Cooper Works Aceman

Aceman น้องใหม่ล่าสุดของครอบครัว MINI ในโฉม 5 ประตู นอกจากดีไซน์เฉพาะตัวแบบ John Cooper Works อย่างลายคาดสปอร์ท สีแดง-ดำ พร้อมหลังคาและฝาครอบ กระจกมองข้างที่ใช้โทนสีเดียวกันแล้ว

JCW Aceman ใหม่ ยังโดดเด่นด้วยล้อ อัลลอย John Cooper Works ขนาด 19 นิ้ว แบบ Strive Spoke ทูโทน ยาง 225/40 R19

ภายในห้องโดยสารยังคง เอกลักษณ์ของรถตระกูล John Cooper Works ไว้ครบถ้วน ทั้งพวง มาลัย JCW แบบเฉพาะรุ่นและเบาะนั่ง สปอร์ท จอแสดงผล OLED ทรงกลม 

ห้องโดยสารกว้างขวาง ดูโปร่ง โล่งมาก ขึ้นด้วยหลังคากระจกพาโนรามา

ส่วนฟังก์ชัน MINI Experience Modes ก็รองรับโหมด Go-Kart ที่มีให้สัมผัสกัน ตามสไตล์รุ่น JCW เช่นกัน

MINI John Cooper Works Aceman มาพร้อมสมรรถนะเต็มพิกัดด้วยขุมพลังไฟฟ้าตัวแรง 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า เช่นเดียวกับ MINI John Cooper Works Electric รุ่น 3 ประตู

แม้ว่าจะมาพร้อมขนาดตัวและห้องโดยสารที่ใหญ่กว่าและมีตัวถังที่ยกสูงจากพื้นมากขึ้น แต่ยังมีความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. และอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ในเวลาเพียง 6.4 วินาที

แบทเตอรีแรงดันสูงขนาด 54.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยให้ MINI John Cooper Works Aceman วิ่งได้ไกลถึง 355 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) 

รองรับระบบชาร์จไฟกระแสตรง (DC) 95 kWh สามารถชาร์จแบทเตอรีเต็มได้ในเวลาเพียง 31 นาทีด้วยระบบชาร์จไฟกระแสตรง (DC) 95 kWh หรือระบบชาร์จไฟ กระแสสลับ (AC) 11 กิโลวัตต์ เต็มใน 5 ชั่วโมง 30 นาที

MINI เจเนอเรชันใหม่ทุกรุ่น รองรับระบบ Digital Key Plus ช่วยให้ใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจรถแบบดิจิทัลได้อย่างสะดวก สามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า นอกจากนี้ ทั้ง MINI John Cooper Works Aceman และ John Cooper Works Electric ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Remote Parking ที่ช่วยควบคุม

การจอดและนำรถออกจากที่จอดผ่านสมาร์ทโฟนได้

MINI John Cooper Works Aceman ใหม่ มีให้เลือก 4 สี

เทา Legend Grey

แดง Chili Red II

ขาว Nanuq White

ดำ Midnight Black II

หลังจากที่ได้ขับ MINI John Cooper Works Aceman และ John Cooper Works Electric แบบจัดหนักในภาคสนาม เส้นทางเดียวกัน ใช้ความเร็วใกล้เคียงกัน

MINI John Cooper Works Aceman รถ 5 ประตู ครอสส์โอเวอร์ ที่ตัวใหญ่กว่า MINI John Cooper Works Electric รถ 3 ประตูแฮทช์แบค กับมอเตอร์ 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า เท่ากัน แต่มีขนาดล้อ 19 นิ้ว ที่ใหญ่กว่า ก็ออกตัวช้ากว่าเล็กน้อย

ช่วงล่างในตัวนี้ แน่นกว่าที่คิดเอาไว้ แน่นกว่า MINI John Cooper Works Electric ลดการโยนตัวและโคลงตัวเมื่อเข้าโค้งหรือเปลี่ยนช่องทางกระทันหัน สะท้อนผิวถนนขึ้นมาชัดเจน อารมณ์ได้ แต่ความนุ่มสบายลดลง

MINI John Cooper Works Electric เป็นความลงตัวระหว่างความสนุกกับความสบาย แรงกว่า...ควบคุมง่าย นิ่ง และนุ่มหนึบกว่าที่คาด รู้สึกดีกว่าตอนที่ลองขับ MINI Cooper SE ใหม่

MINI John Cooper Works Electric นั่งสบายกว่า ขับสนุกกว่า

นอกจากนี้ ทาง มินิ ประเทศไทย ยังนำ MINI John Cooper Works ใหม่ และ MINI John Cooper Works Convertible ใหม่ ให้ได้ยลโฉมก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 กับเครื่องยนต์เบนซิน ภายใต้แนวทางการออกแบบของ New MINI Family เจเนอเรชันปัจจุบัน พร้อมมอบประสบการณ์ความสนุกแบบเพียว ๆ บนท้องถนนในสไตล์เฉพาะตัวของมินิ และเพิ่มความพิเศษด้วยรุ่นเปิดประทุนที่เติมสีสันให้ทุกการเดินทาง

ทั้ง MINI John Cooper Works และรุ่น Convertible ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ TwinPower Turbo 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ที่ปรับจูน ทำให้ MINI รุ่น JCW เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.1 วินาที ส่วนรุ่น JCW Convertible ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.4 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 และ 245 กม./ชม. ตามลำดับ

เมื่อต้องการโลดแล่นแบบรับลมด้วยการเปิดประทุน หลังคาผ้าของรุ่น JCW Convertible ก็สามารถเปิดออกได้ในเวลาเพียง 18 วินาที ขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม.

ทั้ง 2 รุ่นใช้โลโก้ JCW แบบใหม่ที่ด้านหน้า พร้อมกระจังหน้าทรง 8 เหลี่ยมสีดำเงาและช่องรับอากาศขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ ส่วนท้ายรถก็เน้นความสปอร์ทด้วยดิฟฟิวเซอร์

สีดำและชุดท่อไอเสียที่ติดตั้งตรงกลาง พร้อมล้ออัลลอย John Cooper Works ขนาด 18 นิ้ว แบบ Lap Spoke ทูโทน

ทั้ง MINI John Cooper Works และ John Cooper Works Convertible ใหม่ มาพร้อมโหมด Go-Kart ที่ใช้งานได้ผ่าน MINI Experience Modes โดยโหมดนี้จะปรับพวงมาลัยและคันเร่งให้ตอบสนองไวขึ้น และแสดงข้อมูลสมรรถนะเพิ่มเติมบนหน้าจอ OLED ทรงกลม นอกจากนี้ ทั้ง 2 รุ่นยังรองรับการเข้าถึงตัวรถด้วยระบบ MINI Digital Key Plus เช่นกัน

MINI John Cooper Works Electric VS MINI John Cooper Works Aceman