BYD DOLPHIN

บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จํากัด จัด BYD DOLPHIN (บีวายดี ดอลฟิน) รถไฟฟ้า 100 % แบบ 5 ประตู จํานวน 30 คัน 2 รุ่นย่อย คือ EXTENDED RANGE และ STANDARD RANGE มาให้สื่อมวลชนสายรถยนต์กว่า 60 ชีวิต ได้ทดลองขับ 2 วัน  

ภายนอก ทันสมัย ลู่ลม เล่นสีแบบทูโทน

BYD DOLPHIN ได้รับแรงบันดาลใจจากปลาโลมาในมหาสมุทร ไฟหน้า LED ต่อเนื่องที่กระจังหน้าตรงกลาง และไฟท้ายแบบไดนามิค

 

รุ่น STANDARD RANGE มีให้เลือก 4 สี ประกอบด้วย ม่วง, ชมพู, เทา และครีม

 

รุ่น EXTENDED RANGE สีตัวรถแบบทูโทน 4 คู่สี คือ เทา/ดำ, ชมพู/ดำ, ฟ้า/เทา และขาว/เทา

 



 

มิติตัวรถ BYD DOLPHIN ทั้ง 2 รุ่นเท่ากัน ยาว/กว้าง/สูง 4,290/1,770/1,570 มม. ฐานล้อ 2,700 มม. เทียบกับ MG4 ELECTRIC (เอมจี 4 อีเลคทริค) 4,287/1,836/1,516 และ 2,705 มม. BYD DOLPHIN กว้างน้อยกว่า 66 มม. แต่สูงกว่า 54 มม. และ HONDA CITY HATCHBACK (ฮอนดา ซิที แฮทช์แบค) 4,349/1,748/1,488 และ 2,589 มม. BYD DOLPHIN สั้นกว่า 59 มม. แต่กว้างกว่า 22 มม. และสูงกว่า 82 มม. ที่สำคัญ คือ มีฐานล้อยาวกว่าถึง 111 มม. ทำให้มีห้องโดยสารที่กว้างสบาย

 

ภายใน หรูสบาย…อุปกรณ์ทันสมัยครบ

BYD DOLPHIN ทั้ง 2 รุ่นย่อย สามารถปลดลอครถผ่านระบบ NFC ที่ด้านบนกระจกมองข้าง

 



 

ห้องโดยสารออกแบบโดยมีโลมา และท้องทะเล เป็นแรงบันดาลใจลงตัว เส้นสายภายในที่ทันสมัย และจับคู่สีกับภายนอก

 

รุ่น STANDARD RANGE สีภายนอก ม่วง และครีม สีภายใน นํ้าตาล/ดํา ส่วนสีภายนอก ชมพู ภายใน ชมพู/เทา และสีภายนอก เทา ภายใน เทา/ดํา

 

รุ่น EXTENDED RANGE สีภายนอก เทา/ดํา สีภายใน ดํา/เทา, ชมพู ภายใน ชมพู/เทา, ฟ้า ภายใน ฟ้า/เทา และขาว/เทา ภายในดํา/เทา

 

หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ปรับหมุนด้วยไฟฟ้า พร้อมลําโพง 6 ตําแหน่ง นอกจากนั้น ยังมาพร้อมกับช่อง USB อีก 4 ตําแหน่ง ด้านหน้า 2 จุด TYPE A 7.5W กับ TYPE C 60W และด้านหลัง 2 จุด TYPE A 18W กับ TYPE C 60W

 

สำหรับรุ่น EXTENDED RANGE ยังมีแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายบนที่วางแขนคอนโซลกลางอีก 1 ตําแหน่ง

 

รุ่น STANDARD RANGE เบาะคู่หน้า คนขับ/ผู้โดยสาร 4 ทิศทาง รุ่น EXTENDED RANGE เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า คนขับ 6 ทิศทาง ผู้โดยสาร 4 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศ กระจกไฟฟ้าแบบ ONE-TOUCH

 

รุ่น EXTENDED RANGE หลังคากระจกแบบพาโนรามิค ที่มาพร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า ช่วยลดแสง และความร้อนในช่วงกลางวัน

 



 

พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถสามารถจัดเก็บกระเป๋าขนาด 20 นิ้ว ได้ 4 ใบ เบาะหลังพับแยกส่วนได้ 60:40 และขยายความจุจาก 345 ลิตร เป็น 1,310 ลิตร เมื่อพับเบาะทั้ง 2 ด้านราบลงไป และยังสามารถเปิดพื้นที่เก็บสัมภาระเพื่อใส่รองเท้า สายชาร์จ และของใช้อื่นๆ ด้านล่างได้อีกชั้น

 

เครื่องยนต์ ความแรงพอตัว ความประหยัดถูกใจ

รุ่น STANDARD RANGE ต่างกับรุ่น EXTENDED RANGE

 



 

กําลังมอเตอร์สูงสุด 95 (70) กับ 204 (150) แรงม้า (กิโลวัตต์) น้อยกว่า 108 แรงม้า (PS) หรือ 80 กิโลวัตต์ (KW)

 

แรงบิดสูงสุด 18.4 (180) กับ 31.6 (310) กก.-ม. (นิวตันเมตร) ต่างกัน 13.3 กก.-ม. หรือ 130 นิวตันเมตร (NM)

 

ขนาดความจุแบทเตอรี (LFP) 44.9 กับ 60.48 กิโลวัตต์ชั่วโมง น้อยกว่า 15.58 กิโลวัตต์ชั่วโมง

 

อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. รุ่น STANDARD RANGE 12.3 วินาที ขณะที่รุ่น EXTENDED RANGE ใช้เวลาเพียง 7.0 วินาที ตัวเลขนี้เร็วกว่า MG4 ELECTRIC ที่ทำได้ 8.4 วินาที และ HONDA CITY TURBO RS ที่ทำได้ 10.5 วินาที

 

ส่วนความเร็วสูงสุด (ไม่ต่ำกว่า) 150 กับ 160 กม./ชม. ช้ากว่าแค่ 10 กม./ชม.

 

รองรับการชาร์จแบบ DC (CCS 2) 60 กับ 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง ต่างกัน 20 กิโลวัตต์ชั่วโมง

 

ส่วนระยะเวลาในการชาร์จ จาก 30-80 % ใช้เวลา 28 นาที กับ 29 นาที จาก 0-80 % ใช้เวลา 42 นาที กับ 43 นาที และจาก 0-100 % ใช้เวลา 67 นาที กับ 68 นาที ต่างกันแค่ 1 นาที

 

รองรับการชาร์จแบบ AC (TYPE 2) 7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จจาก 0-100 % ใช้เวลา 7.5 ชม. กับ 10 ชม. รุ่น STANDARD RANGE เร็วกว่า 2.5 ชม.

 

ระยะทางการวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม (มาตรฐาน NEDC) 410 กับ 490 กม. รุ่น EXTENDED RANGE ไปได้ไกลกว่า 80 กม.

 

ระบบรองรับ นุ่มหนึบ และระบบความปลอดภัยเพียบ

ระบบกันสะเทือนด้านหน้า BYD DOLPHIN ทั้ง 2 รุ่น เป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังต่างกัน ในรุ่น STANDARD RANGE ด้านหลังทอร์ชันบีม รุ่น EXTENDED RANGE ด้านหลังมัลทิลิงค์บีม

 

ขนาดล้อ และยาง รุ่น STANDARD RANGE ใช้ล้อขนาด 16 นิ้ว 4 รู ยางขนาด 195/60 R16 รุ่น EXTENDED RANGE ใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว 5 รู ยางขนาด 205/50 R17

 



 

ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม ลดอาการโยนตัว ควบคุมง่ายในจังหวะเข้าโค้ง ชอคอับดูดซับเก็บแรงกระแทก แม้จะเป็นช่วงคอสะพาน ส่วนระบบมัลทิลิงค์บีม ให้ความนุ่มนวลในทุกสภาพถนน แม้ว่าถนนฝั่งซ้ายจะต่างจากฝั่งขวา

 

มั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ทั้ง 2 รุ่นยังมีเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่หลายรายการ ทั้งระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถแบบฉุกเฉิน (ELKA), ระบบเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนเลน (LCW) และระบบช่วยเบรคเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) และกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา

 

สรุป ไม่ควรมองข้าม สำหรับรถแบบ 5 ประตู

BYD DOLPHIN ตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม รุ่น STANDARD RANGE ครบเครื่อง ทั้งการขับขี่ ความสบาย และระบบความปลอดภัย มากกว่ารถ 699,999 บาท ส่วนรุ่น EXTENDED RANGE ราคา 859,999 บาท แลกกับ 204 แรงม้า 0-100 กม./ชม. ใน 7 วินาที ทั้งคู่ยังลดค่าใช้จ่ายด้วยการชาร์จไฟแทนการเติมน้ำมันที่นับวันจะมีราคาต่อลิตรแพงขึ้น