ฮอนดา ซีวิค ไฮบริด เนวี

เดิมที ฮอนดา ซีวิค (HONDA CIVIC) มีทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร กำลัง 140 แรงม้า และ 2.0 ลิตร กำลัง 155 แรงม้า แต่ล่าสุด ได้เพิ่มความหลากหลายมากขึ้นด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด เบนซิน 1.5 ลิตร 111 แรงม้า ขับเคลื่อนร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 23 แรงม้า เราได้มีโอกาสร่วมทริพทดลองขับ เพื่อสัมผัสจุดเด่นของ ซีวิค ไฮบริด คันนี้

เดิมที ฮอนดา ซีวิค (HONDA CIVIC) มีทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร กำลัง 140 แรงม้า และ 2.0 ลิตร กำลัง 155 แรงม้า แต่ล่าสุด ได้เพิ่มความหลากหลายมากขึ้นด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด เบนซิน 1.5 ลิตร 111 แรงม้า ขับเคลื่อนร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 23 แรงม้า เราได้มีโอกาสร่วมทริพทดลองขับ เพื่อสัมผัสจุดเด่นของ ซีวิค ไฮบริด คันนี้ ภายนอก ทรงคุ้นตา เรียบง่าย รูปทรงภายนอกของ ซีวิค ไฮบริด อิงจากรุ่นปกติเกือบทุกสัดส่วน แต่มีการปรับปรุงรายละเอียดบางจุด เพื่อผลทางสัมประสิทธิ์แรงต้านทานอากาศที่ดีขึ้น และลดค่าความสิ้นเปลืองไปในตัว เช่น กระจังหน้าแนวนอน ทรงหนา ลดช่องว่างระหว่างซี่กระจังเพื่อลดอากาศหมุนวนในห้องเครื่อง ล้อแมกขนาด 15 นิ้ว ลายพิเศษสำหรับรุ่น ไฮบริด โดยเฉพาะ ทรงทึบ หนา ลดอากาศหมุนวนบริเวณล้อขณะแล่น ส่วนยางใช้ ดันลอพ เอสพี สปอร์ท 300 ขนาด 195/65 R15 ขณะที่ความแตกต่างทางสายตาที่ชัดเจน คือ ขอบด้านบนของกระจังหน้า และกรอบไฟหน้า/ไฟท้ายจะใช้สีฟ้าอ่อน (CLEAR BLUE) ติดตั้งครีบสปอยเลอร์ท้ายมาเรียบร้อย ภายใน โทนสีเทา กว้างพอเพียง เช่นเดียวกับภายนอก ห้องโดยสารของ ซีวิค ไฮบริด ใกล้เคียงรุ่นปกติ พื้นที่โดยสารกว้างขวางพอเพียง ผลดีจากการแบทเตอรีแบบลิเธียม-ไออน มีขนาดเล็ก ไม่กินเนื้อที่ภายในแต่อย่างใด บริเวณด้านซ้ายของเบาะแถวหลัง จะมีช่องรับอากาศสำหรับระบายความร้อนของชุดแบทเตอรี รวมไปถึงพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระท้าย ยังคงใกล้เคียงกับรุ่นปกติเช่นกัน การตกแต่งภายในเน้นโทนสีเทา ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สบายตา โดยรุ่นทอพ ไฮบริด เนวี ใช้วัสดุหุ้มเบาะเป็นหนังแท้ ผสมวัสดุสังเคราะห์ สิ่งที่แตกต่างชัดเจน คือ จอแสดงผลข้อมูลแบบหลากหลาย (I-MID) เพิ่มการแสดงผลการทำงานของระบบไฮบริด ผ่านจอภาพที่ติดตั้งในระดับสายตาเอียงมาด้านซ้ายของผู้ขับเล็กน้อย ที่หน้าจอบ่งบอกระดับความประหยัด (ECO SCORE) โดยจะแสดงผลเป็นรูปต้นไม้สีเชียว หลังจากดับเครื่องยนต์เป็นเวลา 6 วินาที หากสามารถขับแบบเน้นประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ ไหลลื่น ประหยัดน่าพอใจ ขุมกำลังของ ซีวิค ไฮบริด ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลัง 91 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน กำลัง 23 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติซีวีที (รุ่นปกติใช้เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ) โดยแบทเตอรีที่ใช้เป็นแบบลิเธียม-ไอออน ซึ่งทางผู้ผลิตระบุว่านอกจากมีขนาดกะทัดรัดแล้ว ยังสามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้มากกว่าแบทเตอรีแบบนิคเคิล เมทัลไฮดไรด์ ที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้านี้ด้วย จากการขับไปตามเส้นทางวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก มุ่งหน้าสู่ ถ. พระราม 2 สภาพจราจรติดขัดเป็นบางช่วง เคลื่อนตัวได้ช้า การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนควบคู่ไปกับเครื่องยนต์เบนซินเกือบตลอดเวลา ขณะที่การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ (EV MODE) สามารถทำได้ที่ความเร็วต่ำและคงที่เท่านั้น (ขึ้นอยู่กับระดับของแบทเตอรีด้วย) ในช่วงที่ใช้ความเร็วสูง มอเตอร์ไฟฟ้าจะเข้ามาช่วยอีกแรงเมื่อกดคันเร่งเพิ่มความเร็ว เราสังเกตอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงบนหน้าจอแบบเรียลไทม์ ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. คงที่ จะอยู่ที่ประมาณ 20 กม./ลิตร ถือว่าน่าพอใจพอสมควร ส่วนอัตราเร่งโดยรวมทำได้ดี ไม่รู้สึกอืด ใกล้เคียงกับรุ่นปกติ 1.8 ลิตร แต่ไม่ฉับไวเหมือนรุ่น 2.0 ลิตร นอกจากนี้ยังรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงแกสโซฮอล อี 20 เท่านั้น ต่างจากรุ่นปกติ ที่รองรับถึง อี 85 ระบบรองรับ เบามือ นุ่มนวล ช่วงล่างของรถไฮบริดรุ่นนี้ ยังคงใช้พื้นฐานร่วมกับรุ่นปกติ จุดแตกต่าง คือ ใช้ยางขนาด 15 นิ้ว และมีแก้มยางค่อนข้างมาก ทำให้การตอบสนองของระบบรองรับมีความนุ่มนวลมากกว่ารุ่นปกติเล็กน้อย แต่ยังขับสบายแม้บนทางหลวงที่ความเร็วสูง ส่วนการบังคับควบคุมให้ความรู้สึกที่เบาแรง เหมาะกับการขับขี่แบบประหยัดเชื้อเพลิงระยะทางไกล การเบรคทั่วไปไม่ต่างจากรุ่นปกติมากนัก แต่ ซีวิค ไฮบริด ใช้ระบบเบรคแบบหน้าจาน หลังดุม ต่างจากรุ่นปกติที่ใช้แบบจานทั้ง 4 ล้อ สรุป ซีดานขับสบาย ประหยัดกว่าเคย สนนราคาของ ซีวิค ไฮบริด อยู่ที่ 1,035,000-1,095,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เทียบเท่ากับซีดานขนาดเดียวกัน เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เน้นความสปอร์ท รถไฮบริดรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ มีการประหยัดเชื้อเพลิงซึ่งดีกว่ารุ่นปกติอย่างเห็นได้ชัด ด้วยระบบไฮบริดที่ทันสมัย พัฒนาสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณมากพอ มองหาซีดานที่กว้างขวางอย่างพอเพียง แต่ประหยัดเหนือกว่ารถระดับเดียวกัน ซีวิค ไฮบริด รุ่นนี้ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ข้อมูลจำเพาะ ฮอนดา ซีวิค ไฮบริด เนวี ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โทร 0-2341-7888� มิติ และน้ำหนัก� ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,524/1,753/1,429 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,500/1,532 ฐานล้อ (มม.) 2,670 น้ำหนัก (กก.) 1,296 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 50� เครื่องยนต์ แบบ เบนซิน 4 สูบ (มอเตอร์ไฟฟ้า) ความจุ (ซีซี) 1,497� กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 73.0/89.4� อัตราส่วนกำลังอัด 10.8:1� กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 91/5,500 (23/1,546-3,000) แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 13.5/2,800 (10.8/500-1,546) ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง� เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติแปรผัน ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง อิสระ มิลทิลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ไฟฟ้าแปรผัน ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส วีเอสเอ หน้า จาน พร้อมช่องระบายอากาศ หลัง ดุม ราคา (บาท) 1,095,000

ภายนอก ทรงคุ้นตา เรียบง่าย

รูปทรงภายนอกของ ซีวิค ไฮบริด อิงจากรุ่นปกติเกือบทุกสัดส่วน แต่มีการปรับปรุงรายละเอียดบางจุด เพื่อผลทางสัมประสิทธิ์แรงต้านทานอากาศที่ดีขึ้น และลดค่าความสิ้นเปลืองไปในตัว เช่น กระจังหน้าแนวนอน ทรงหนา ลดช่องว่างระหว่างซี่กระจังเพื่อลดอากาศหมุนวนในห้องเครื่อง ล้อแมกขนาด 15 นิ้ว ลายพิเศษสำหรับรุ่น ไฮบริด โดยเฉพาะ ทรงทึบ หนา ลดอากาศหมุนวนบริเวณล้อขณะแล่น ส่วนยางใช้ ดันลอพ เอสพี สปอร์ท 300 ขนาด 195/65 R15  ขณะที่ความแตกต่างทางสายตาที่ชัดเจน คือ ขอบด้านบนของกระจังหน้า และกรอบไฟหน้า/ไฟท้ายจะใช้สีฟ้าอ่อน (CLEAR BLUE) ติดตั้งครีบสปอยเลอร์ท้ายมาเรียบร้อย

ภายใน โทนสีเทา กว้างพอเพียง

เช่นเดียวกับภายนอก ห้องโดยสารของ ซีวิค ไฮบริด ใกล้เคียงรุ่นปกติ พื้นที่โดยสารกว้างขวางพอเพียง ผลดีจากการแบทเตอรีแบบลิเธียม-ไออน มีขนาดเล็ก ไม่กินเนื้อที่ภายในแต่อย่างใด บริเวณด้านซ้ายของเบาะแถวหลัง จะมีช่องรับอากาศสำหรับระบายความร้อนของชุดแบทเตอรี รวมไปถึงพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระท้าย ยังคงใกล้เคียงกับรุ่นปกติเช่นกัน การตกแต่งภายในเน้นโทนสีเทา ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สบายตา โดยรุ่นทอพ ไฮบริด เนวี ใช้วัสดุหุ้มเบาะเป็นหนังแท้ ผสมวัสดุสังเคราะห์

สิ่งที่แตกต่างชัดเจน คือ จอแสดงผลข้อมูลแบบหลากหลาย (I-MID) เพิ่มการแสดงผลการทำงานของระบบไฮบริด ผ่านจอภาพที่ติดตั้งในระดับสายตาเอียงมาด้านซ้ายของผู้ขับเล็กน้อย ที่หน้าจอบ่งบอกระดับความประหยัด (ECO SCORE) โดยจะแสดงผลเป็นรูปต้นไม้สีเชียว หลังจากดับเครื่องยนต์เป็นเวลา 6 วินาที หากสามารถขับแบบเน้นประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง

เครื่องยนต์ ไหลลื่น ประหยัดน่าพอใจ

ขุมกำลังของ ซีวิค ไฮบริด ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลัง 91 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน กำลัง 23 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติซีวีที (รุ่นปกติใช้เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ) โดยแบทเตอรีที่ใช้เป็นแบบลิเธียม-ไอออน ซึ่งทางผู้ผลิตระบุว่านอกจากมีขนาดกะทัดรัดแล้ว ยังสามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้มากกว่าแบทเตอรีแบบนิคเคิล เมทัลไฮดไรด์ ที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้านี้ด้วย

จากการขับไปตามเส้นทางวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก มุ่งหน้าสู่ ถ. พระราม 2 สภาพจราจรติดขัดเป็นบางช่วง เคลื่อนตัวได้ช้า การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนควบคู่ไปกับเครื่องยนต์เบนซินเกือบตลอดเวลา ขณะที่การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ (EV MODE) สามารถทำได้ที่ความเร็วต่ำและคงที่เท่านั้น (ขึ้นอยู่กับระดับของแบทเตอรีด้วย)

ในช่วงที่ใช้ความเร็วสูง มอเตอร์ไฟฟ้าจะเข้ามาช่วยอีกแรงเมื่อกดคันเร่งเพิ่มความเร็ว เราสังเกตอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงบนหน้าจอแบบเรียลไทม์ ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. คงที่ จะอยู่ที่ประมาณ 20 กม./ลิตร ถือว่าน่าพอใจพอสมควร ส่วนอัตราเร่งโดยรวมทำได้ดี ไม่รู้สึกอืด ใกล้เคียงกับรุ่นปกติ 1.8 ลิตร แต่ไม่ฉับไวเหมือนรุ่น 2.0 ลิตร นอกจากนี้ยังรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงแกสโซฮอล อี 20 เท่านั้น ต่างจากรุ่นปกติ ที่รองรับถึง อี 85

ระบบรองรับ เบามือ นุ่มนวล

ช่วงล่างของรถไฮบริดรุ่นนี้ ยังคงใช้พื้นฐานร่วมกับรุ่นปกติ จุดแตกต่าง คือ ใช้ยางขนาด 15 นิ้ว และมีแก้มยางค่อนข้างมาก ทำให้การตอบสนองของระบบรองรับมีความนุ่มนวลมากกว่ารุ่นปกติเล็กน้อย แต่ยังขับสบายแม้บนทางหลวงที่ความเร็วสูง ส่วนการบังคับควบคุมให้ความรู้สึกที่เบาแรง เหมาะกับการขับขี่แบบประหยัดเชื้อเพลิงระยะทางไกล การเบรคทั่วไปไม่ต่างจากรุ่นปกติมากนัก แต่ ซีวิค ไฮบริด ใช้ระบบเบรคแบบหน้าจาน หลังดุม ต่างจากรุ่นปกติที่ใช้แบบจานทั้ง 4 ล้อ

สรุป ซีดานขับสบาย ประหยัดกว่าเคย

สนนราคาของ ซีวิค ไฮบริด อยู่ที่ 1,035,000-1,095,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เทียบเท่ากับซีดานขนาดเดียวกัน เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เน้นความสปอร์ท รถไฮบริดรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ มีการประหยัดเชื้อเพลิงซึ่งดีกว่ารุ่นปกติอย่างเห็นได้ชัด ด้วยระบบไฮบริดที่ทันสมัย พัฒนาสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณมากพอ มองหาซีดานที่กว้างขวางอย่างพอเพียง แต่ประหยัดเหนือกว่ารถระดับเดียวกัน ซีวิค ไฮบริด รุ่นนี้ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย