Volvo ซุ่มพัฒนาความรู้เรื่องยานยนต์ไร้คนขับมาหลายปี และในปี 2558 ก็ร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย Autoliv สัญชาติสวีเดน เช่นเดียวกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาค้นคว้าในเทคโนโลยีนี้
และเมื่อเร็วๆ นี้ Volvo และ Autoliv ก็ประกาศอย่างเป็นทางการถึงความร่วมมือในชื่อ Zenuity เพื่อพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ โดยเฉพาะซอฟท์แวร์ที่ใช้ควบคุมรถยนต์ เมื่ออยู่ในโหมดการทำงานขับเคลื่อนด้วยตนเอง โดย Zenuity จะพัฒนาระบบเพื่อช่วยในการขับขี่ รวมทั้งระบบเพื่อยานยนต์ไร้คนขับโดยเฉพาะ
ความร่วมมือนี้ นำโดย Dennis Nobelius มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่โกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ปัจจุบันมีพนักงานราว 200 คน แต่คาดหมายว่าจะเพิ่มเป็น 600 คนในอนาคต โดยมีห้องทดลองและวิจัยย่อยอยู่ใน มิวนิค ประเทศเยอรมนี และ ดีทรอยท์ มิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา
 
 
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ชุดแรก Zenuity จะสามารถส่งออกสู่ตลาดได้ในปี 2562 โดย Volvo และ Autoliv ประเมินว่าระบบทั้งหมด อาทิ การขับขี่บนถนนหลวง จะสามารถแล้วเสร็จตามมา เพราะปัจจุบันรถยนต์ Volvo บางรุ่น ติดตั้งระบบเพื่อช่วยในการขับขี่อยู่แล้ว แต่ยังคงต้องการผู้ขับขี่เพื่อคอยตรวจสอบ และเข้าควบคุมการขับขี่ทันทีที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
แม้ว่า Zenuity จะต้องพบกับการแข่งขันในแวดวงยานยนต์หลายยี่ห้อ อย่างเช่น BMW, Ford, GM, Honda, Mercedes-Benz, Nissan, Tesla, Toyota และ Volkswagen Group ซึ่งทั้งหมดต่างก็ประกาศอย่างเป็นทางการที่จะพัฒนาระบบเพื่อยานยนต์ไร้คนขับ รวมทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนเจ้าใหญ่ๆ ในวงการยานยนต์ อย่างเช่น Continental และ Delphi ก็กำลังพัฒนาอยู่เช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่ผู้พัฒนาด้านอินเตอร์เนท อย่าง Google, Nvidia, Uber รวมทั้ง Apple
จนถึงปัจจุบัน Volvo ใช้ชื่อโครงการ Drive Me ในการพัฒนาระบบ โดยใช้รถต้นแบบรุ่น XC90 จำนวน 100 คัน ติดตั้งระบบเพื่อให้เป็นยานยนต์ไร้คนขับ และจะให้ลูกค้าที่สมัครใจร่วมโครงการ ยืมใช้ในโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ในปีนี้ โดยลูกค้าจะนำไปใช้งานในชีวิตประจำวันตามปกติ รวมทั้งเส้นทางที่ Volvo เลือกใช้ในการทดลอง ยาวราว 50 กม. ที่จะสามารถใช้ระบบยานยนต์ไร้คนขับได้เต็มรูปแบบด้วย อันจะทำให้ Volvo สามารถเก็บข้อมูลการขับขี่เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาต่อไปได้
                     บทความแนะนำ

