ธุรกิจ
ฟอร์ด บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ ในกระบวนการผลิตก่อนกำหนด 8 ปี
ฟอร์ด มอเตอร์ คัมพานี ได้ประกาศส่วนหนึ่งของรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนประจำปีครั้งที่ 19 ว่าบริษัทฯ ได้บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยมลพิษในกระบวนการผลิตรถยนต์ก่อนกำหนดล่วงหน้าถึง 8 ปี
เมื่อปี 2553 สำนักงานคุณภาพสิ่งแวดล้อมของ ฟอร์ด ได้ประกาศเป้าหมายที่จะลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตรถยนต์ของบริษัทลง 30 % ต่อรถยนต์ 1 คันที่ผลิต ให้ได้ภายในปี 2568
และฟอร์ด ก็สามารถบรรลุเป้าหมายเร็วกว่าที่คาดไว้ถึง 2 เท่า ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจนี้ คือ ฟอร์ด สามารถลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตทั้งหมดได้มากกว่า 3.4 เมทริคตันในช่วงปี 2553 ถึงปี 2560 ซึ่งเทียบเท่ากับการปล่อยแกสเรือนกระจกที่มาจากการขับขี่ยานพาหนะโดยสารมากกว่า 728,000 คัน/ปี
“พวกเรามีความภาคภูมิใจในการทำงานร่วมกันของทีมเอเชียแปซิฟิค เพื่อให้เราได้บรรลุเป้าหมายนี้” ซินเธีย วิลเลียมส์ ผู้อำนวยการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า “พวกเราได้ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการผลิตของเราทั่วภูมิภาค ตั้งแต่การเลือกใช้หลอดไฟ ไปจนถึงการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ล้วนมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ลงอย่างมากมาย”
ฟอร์ด ได้ลดการปล่อยแกสพิษผ่านการอนุรักษ์พลังงานและการปรับเปลี่ยนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ณ โรงงานผลิตรถยนต์ของ ฟอร์ด ตัวอย่างเช่น เมื่อปี 2560 โรงงาน ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริง หรือ เอฟทีเอม ที่จังหวัดระยอง ได้ติดตั้งหลอดไฟ LED มากกว่า 1,000 ดวง ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานในอาคารลงได้ถึง 630,000 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ใน 1 ปี พร้อมตั้งเป้าหมายเปลี่ยนหลอดไฟแบบเดิมในอาคารเป็นหลอดไฟ LED ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งหมดภายในอีก 5 ปีข้างหน้า
การทำสี เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก และการเปิดตัวเทคโนโลยีการทำสีแบบใหม่ของ ฟอร์ด ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ก็ได้สร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
โรงงานผลิตรถยนต์ของ ฟอร์ดในเมืองฉางอาน ประเทศจีน ได้ดำเนินระบบการลดมลพิษเพื่อรักษาการระบายอากาศ ทำให้สามารถลดการปล่อยสารอินทรีย์ระเหย (VOC) ได้ในที่ระดับยอดเยี่ยม โรงงานประกอบรถยนต์ในเมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ได้ติดตั้ง Oxider เพื่อควบคุมการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยจากแผนกทำสีรถ และสำหรับในประเทศไทย การติดตั้งและพัฒนาระบบพโรแกรมนวัตกรรมการทำสี ทำให้ ฟอร์ด สามารถลดการใช้สารละลายได้ถึง 70 % ต่อรถยนต์ 1 คัน
ฟอร์ด ยังคงมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยแกสมลพิษ และได้ร่วมลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ ตามข้อตกลงสนธิสัญญาปารีสว่าด้วยการลดแกสเรือนกระจก ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้วางแผนการลงทุนมูลค่า 1.1 พันล้านบาท เพื่อการพัฒนารถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ 40 รุ่น ภายในปี 2565
ไฮไลท์รายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
รายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ ฟอร์ด ประจำปี 2560-2561 เน้นการทำงานอย่างต่อเนื่องของผู้ผลิตรถยนต์ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ดังนี้
โซลูชันการขับเคลื่อนและการเดินทาง
ฟอร์ด ร่วมกับ พาร์ทเนอร์เชิงยุทธศาตร์ ในการพัฒนายานยนต์ที่มีความชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อการเดินทางอันชาญฉลาดในเมืองต่างๆ โดยจะมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์แบบไร้คนขับ และการเชื่อมต่อยานพาหนะเพื่อตอบสนองความต้องการในการเดินทางที่คล่องตัวสำหรับอนาคต ฟอร์ด มีแผนเปิดตัว Ford Co-Pilot 360
ชุดเทคโนโลยีช่วยผู้ขับขี่ชั้นสูงทั่วภูมิภาค โดย ฟอร์ด จะเริ่มนำเทคโนโลยีใหม่นี้มาใช้ใน ฟอร์ด โฟคัส รุ่นใหม่ เป็นรุ่นแรกในเอเชียแปซิฟิค และจะนำมาใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ต่อไปในอนาคต
รถยนต์ไฟฟ้า
ภายใต้แผนการอันมุ่งมั่นในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของ ฟอร์ด ในประเทศจีน ฟอร์ด ได้เปิดตัวโครงการ “Ford Mondeo Energi plug-in hybrid” ในเดือนมีนาคม ปี 2561 และคาดว่าภายในปี 2568 ฟอร์ด จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่อย่างน้อย 15 คัน ทั้งจาก ฟอร์ด และลินคอล์น นอกจากนี้ ฟอร์ด และโซทาย ออโท (Zotye Auto) ได้ตกลงร่วมมือและก่อตั้ง Zotye Ford Automobile Co. บริษัทร่วมทุนเพื่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับลูกค้าในจีน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการอนุมัติในข้อกฎหมาย และในประเทศอินเดีย ฟอร์ด ได้ร่วมหุ้นกับ Mahindra Group เพื่อร่วมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก
การดูแลแหล่งน้ำ
ในปี 2560 โรงงานผลิตรถยนต์ของ ฟอร์ดในภูมิภาคเเชียแปซิฟิค สามารถลดการใช้น้ำลงได้ 17 % ต่อรถยนต์ 1 คันที่ผลิตขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2558 อาทิ ในประเทศจีน โรงงานผลิตรถยนต์ของของ ฟอร์ด ที่เมืองฉางอาน ได้นำน้ำเสียจำนวน 300,000 ลูกบาศก์เมตร มาบำบัดใช้ใหม่ ในปี 2560 และโรงงานประกอบรถยนต์ที่เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย เป็นโรงงานที่ปล่อยน้ำเสียเป็นศูนย์ และได้นำน้ำกลับมาใช้ใหม่อีกในกระบวนการผลิตทั้ง 100 %
คงสถานภาพการกำจัดขยะได้เป็นศูนย์
ในปี 2560 โรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ทั้ง 14 แห่ง ยังสามารถรักษาสถานภาพการกำจัดของเสียและขยะจากการผลิตได้เป็นศูนย์ ผ่านกระบวนการแยกขยะ การรีไซเคิล การนำกลับมาใช้ใหม่ รวมไปถึงการเพิ่มการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้แก่สังคม
โครงการ “Ford’s Operation Better World” มุ่งให้ความช่วยเหลือชุมชนในท้องถิ่นและส่งเสริมให้พนักงานแบ่งเวลามาเป็นอาสาสมัคร โดยอาสาสมัครทั่วภูมิภาคหลายพันคนได้เข้าร่วมกิจกรรม Ford’s Global Caring Month และมีพนักงาน 803 คน สละเวลา 2,551 ชั่วโมง เพื่อร่วม 24 กิจกรรมในประเทศจีน และพนักงานมากกว่า 300 คน ของ ฟอร์ด สละเวลา 2,400 ชั่วโมง เพื่อร่วมกิจกรรมเพื่อชุมชนอีกด้วย
เรื่องโดย : ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/234265