รายงานข่าวจากกรุงปักกิ่ง นำเสนอข่าว ค่ายรถยนต์หลายค่าย พากันเริ่มทำการทดลองยานยนต์ไร้คนขับ ในประเทศจีน เริ่มจาก Alliance Ventures ในเครือ Renault-Nissan-Mitsubishi เข้าเป็นพันธมิตรกับ WeRide.ai ซึ่งในอดีต คือ JingChi.ai ผู้พัฒนายานยนต์ไร้คนขับของจีน ตั้งเป้าพัฒนาการขับเคลื่อนด้วยตนเอง ระดับ 4การลงทุนใน WeRide.ai ครั้งนี้ ทำให้กลายเป็นบริษัทรายใหม่ ที่มีความเชี่ยวชาญในการทดสอบยานยนต์ไร้คนขับ ระดับ 4 บริษัทแรกของประเทศจีน ที่ร่วมมือกับบริษัทข้ามชาติครั้งแรก François Dossa รองประธาน Alliance Ventures กล่าวว่า “ระบบการขับเคลื่อนยานยนต์ด้วยตนเอง เป็นกุญแจสำคัญของกลุ่ม เพื่อการพัฒนาการขนส่งในรูปแบบใหม่ โดยค่ายรถยนต์ในเครือ ยืนยันว่าจะแนะนำเทคโนโลยีใหม่นี้ สำหรับตลาดรถยนต์อย่างจีน เป็นแห่งแรก เรายินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ WeRide.ai เพื่อพัฒนาระบบยานยนต์ไร้คนขับอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับตลาดประเทศจีน” จากการลงทุนในครั้งนี้ มีการวางแผนงานที่จะปล่อยรถที่พร้อมติดตั้งระบบยานยนต์ไร้คนขับ จำนวน 500 คัน ออกทดลองวิ่งบนท้องถนนในปี 2561 คำนวณไว้ว่าจะสามารถเดินทางบนถนนจริงได้ราว 5 ล้าน กม. โดยทำการทดลองในมณฑล Guangzhou และ Anqing ส่วนทางด้านของ Ford ได้จับมือกับ Baidu เตรียมที่จะทดลองยานยนต์ไร้คนขับ เป็นเวลา 2 ปี โดยทำการทดลองบนท้องถนนปกติ Sherif Marakby ประธานและซีอีโอ ยานยนต์ไร้คนขับ Ford กล่าวว่า “โครงการนี้เป็นความร่วมมือของ Ford และ Baidu ซึ่งจะช่วยสนับสนุนแผนงานยานยนต์ในอนาคตก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว” การทดลองวิ่งบนท้องถนนจริง จะเริ่มปลายปีนี้ ด้วยยานยนต์ไร้คนขับ ในระดับ 4 เป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้ได้ตามมาตรฐานของ SAE International ซึ่งยานยนต์เหล่านั้น จะสามารถทำงานได้ในสถานที่ที่กำหนด และภายใต้สภาพอากาศจริงในพื้นที่ ทีมวิศวกรของ Ford ร่วมกับ Nanjing Research and Engineering Center ทำการติดตั้งระบบต่างๆ บนตัวรถ เพื่อให้พร้อมสำหรับระบบปฏิบัติการ Apollo Virtual Driver System และจะทำการวิ่งทดลองในกรุงปักกิ่ง บนถนนเส้นที่ได้กำหนดเอาไว้ล่วงหน้า ขณะเดียวกัน ค่าย Volvo ก็มีข้อตกลงกับ Baidu ผู้ให้บริการอินเตอร์เนทในประเทศจีน ที่จะร่วมกันพัฒนารถไฟฟ้า และระบบยานยนต์ไร้คนขับแบบเต็มรูปแบบ โดยจะร่วมกันในการพัฒนาและการผลิตดังกล่าว ด้วยอีกรายหนึ่ง