All-New Mitsubishi Outlander 2022 เปิดตัว​บนพแลทฟอร์มเดียวกับ Nissan Rogue

Mitsubishi เผยโฉม All-New Mitsubishi Outlander (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ใหม่) ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี รถยนต์เจเนอเรชันที่ 4 หลังจากเริ่มขายครั้งแรกเมื่อปี 2001 และสิ่งที่น่าสนใจ คือ ใช้พแลทฟอร์ม และเครื่องยนต์ร่วมกับ Nissan (นิสสัน) ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมกันของกลุ่ม Renault (เรอโนลต์)-Nissan-Mitsubishi Alliance

Mitsubishi Outlander เปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่นปี 2001 แต่ใช้ชื่อ Mitsubishi Airtrek (แอร์ทเรค) ที่มีความหมายว่า ความสนุกสนานในการขับขี่ ที่พร้อมผจญภัย มีอิสระทุกความเคลื่อนไหวเหมือนนก และรุ่นที่ 2 เปิดตัวในปี 2006 โดยทุกตลาดรวมถึงญี่ปุ่นใช้ชื่อ Outlander​ ถูกสร้างขึ้นบนพแลทฟอร์ม GS และเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนาจากความร่วมมือของ Mitsubishi Volkswagen (โฟลค์สวาเกน) และ PSA (Peugeot Citroen) (เปอโฌต์ ซีตรอง) ​ Mitsubishi เปิดตัว Outlander รุ่นที่ 3 ซึ่งทำตลาดมาจนถึงปัจจุบัน​ โดย Mitsubishi Outlander PHEV เผยโฉมในงาน 2012 Paris Motor Show เป็นครั้งแรก โดยเป็นครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีไฮบริดแบบเสียบปลั๊กชาร์จ ที่ขึ้นสายการผลิต และพร้อมจำหน่ายเป็นรุ่นแรกของโลก​ ถึงวันนี้ Outlander มียอดขายสะสมทั่วโลกไปแล้วถึง 2.6 ล้านคัน และเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไป เมื่อปลายปีที่ผ่านมา Mitsubishi Outlander 2022 ยังคงความเป็นรถ 7 ที่นั่ง 3 แถว ได้มีการปรับดีไซจ์นใหม่ ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ทั้งกระจังหน้า ไฟหน้า โคมไฟตัดหมอก และไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) ที่ขนาบข้างกระจังหน้าแบบ X-motif ทำให้ Outlander ใหม่ มีรูปทรงที่โฉบเฉี่ยวกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่มิติตัวรถก็ถูกปรับให้ใหญ่ขึ้น ฐานล้อถูกขยายขึ้นจากเดิม โดยมีดีไซจ์นไปในทิศทางเดียวกับ Mitsubishi Eclipse Cross 2022 (เอคลิพส์ ครอสส์ 2022) ที่มีการเผยโฉมไปแล้วก่อนหน้านี้ New Mitsubishi Outlander 2022 ยังใช้พแลทฟอร์ม CMF-CD ที่พัฒนาโดยกลุ่มพันธมิตร Mitsubishi, Renault และ Nissan ซึ่งเป็นพแลทฟอร์มเดียวกับที่ใช้บน Nissan X-Trail 2021 (เอกซ์-ทเรล) หรือที่เรียกว่า Nissan Rogue (รก) ในตลาดอเมริกาเหนือ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้   พแลทฟอร์มที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยในการชนได้อย่างมาก เพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับเลี้ยว และการทรงตัวได้ดีมากขึ้น เป็นครั้งแรกที่ Mitsubishi Motors ใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูงพิเศษรอบคัน เพื่อสร้างโครงสร้างห้องโดยสารที่มีความแข็งแรงสูงสุด สามารถทนการบิดงอได้มากกว่ารุ่นก่อน ในขณะเดียวกันยังสามารถลดน้ำหนักของตัวรถได้ ด้วยระบบกันสะเทือนแบบปีกนก และมัลทิลิงค์​บวกกับพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ทำให้มีความสบายในทุกการขับขี่ เบาะนั่งมีโครงสร้างยูรีเธน 2 ชั้น​ เพิ่มความสบาย ลดความเมื่อยล้าในระหว่างการเดินทางไกลได้ ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความรู้สึกที่เรียบหรู ตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียม รวมถึงเบาะหนังคุณภาพดี การเก็บเสียงที่เงียบขึ้นกว่ารุ่นเดิม ซึ่งหลายส่วนก็เป็นดีไซจ์นเดียวกับ Nissan Rogue หน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว และ 9 นิ้ว ขณะที่พแลทฟอร์มใหม่ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 ได้มากขึ้น โดย Mitsubishi ยังยืนยันว่า​ได้รับการออกแบบภายนอก และภายในใหม่ทั้งหมดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Mitsubishi ​ในอนาคต Nissan Rogue อาจเปิดตัวรุ่น​ PHEV โดยใช้ระบบส่งกำลังของ​ Outlander PHEV มาทำตลาดด้วย​ ทั้ง 2 รุ่น มีการใช้ชิ้นส่วนทางเทคนิคมากมาย​ เช่น​ ช่วงล่างมีฐานล้อยาว 2,700 มม. เท่ากัน ขุมพลังงาน เครื่องยนต์สันดาปนี้ คาดว่าจะหยิบยืมมาจาก Nissan คือ เครื่องยนต์เบนซินขนาด​ 2.5 ลิตร ที่ให้กำลังมากถึง 184 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิด 245 นิวตัน-เมตรที่ 3,600 รตน. และเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ที่พัฒนาขึ้นใหม่ช่วยเพิ่มกำลังได้มากขึ้น 8.9 % และประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง (WLTC) เพิ่มขึ้น 2.6 % (ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ plug-in hybrid จะตามมาในภายหลัง) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super All-Wheel Control 4WD ทำให้สามารถควบคุมการกระจายกำลังไปยังล้อหน้า และล้อหลังได้ตามสถานการณ์ และสภาพพื้นผิวถนน โดยเซนเซอร์จะตรวจจับองศาของพวงมาลัยกำลังของเครื่องยนต์ขณะขับขี่,  แรงดันเบรค, ความเร็วล้อ และปัจจัยอื่นๆ เพื่อระบุการทำงานของคนขับ และสถานะของรถอย่างต่อเนื่องแม่นยำ โดยจะมีโหมดการขับเคลื่อนที่เหมาะสมกับสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลายมากถึง 6 โหมด ได้แก่ Eco, Normal, Tarmac (ทางลาดยางใช้ความเร็ว)​, Gravel (ทางกรวดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ และความมั่นคงในการขับขี่)​, Snow (หรือถนนลื่น)​, Mud (ทางโคลน)​ และยังมีรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 5 โหมด โหมดการขับขี่ต่างๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่บนท้องถนน เพื่อให้ความรู้สึกปลอดภัย และมั่นใจได้ในขณะขับขี่ พร้อมระบบความปลอดภัยรอบคัน โดยติดตั้งถุงลมนิรภัยทั้งหมด 11 จุด ในกรณีที่มีการชนด้านข้าง ถุงลมนิรภัยตรงกลางด้านหน้าที่ติดตั้งระหว่างที่นั่งคนขับ และที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าด้านจะทำงานด้วย ระบบ MI-PILOT Assist ประกอบด้วย ระบบลอคความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Integrated Adaptive Cruise Control (ACC) กับระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist (LKA), ระบบแจ้งเตือนรถออกนอกเลน, ระบบตรวจจับสิ่งกีดขวาง, ระบบช่วยอ่านสัญญาณจราจร และระบบเบรคฉุกเฉินจากรุ่นก่อนหน้า มาถึงเทคโนโลยีความปลอดภัย Mitsubishi Outlander 2022 มาพร้อมกับ MI Pilot Assist ซึ่งมีระบบอย่าง Adaptive cruise control, ราคาจำหน่ายของ Mitsubishi Outlander 2022 เริ่มต้นที่​ 26,990 เหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 8.15 แสนบาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาที่ถูกกว่า Nissan Rogue ซึ่งเปิดตัวขายไปก่อนนี้   Outlander 2022 พร้อมจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา เดือนเมษายน 2564 ราคาสำหรับ Mitsubishi Outlander ใหม่ เริ่มต้นที่ 26,990 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 815,000 บาท