พระราชพิธีฝังพระศพ เจ้าชายฟิลิพ ดยุคแห่งเอดินบะระ ซึ่งสิ้นพระชนม์อย่างสงบเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ขณะมีพระชนมายุ 99 พรรษา ที่โบสถ์เซนต์ จอร์จ ภายในพระราชวังวินด์เซอร์ พระศพเคลื่อนจากสถานที่ประดิษฐานภายในโบสถ์ส่วนพระองค์ ด้วยพระราชรถ Land Rover ซึ่งเจ้าชายฟิลิพ ทรงช่วยออกแบบดัดแปลงด้วยพระองค์เอง เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ภายในโบสถ์เซนต์ จอร์จก่อนการสิ้นพระชนม์ เจ้าชายฟิลิพ เคยกล่าวกับผู้ใกล้ชิดไว้ว่า หากพระองค์สิ้นพระชนม์ ทรงต้องการความเรียบง่ายในการจัดการพระศพของพระองค์ "Just stick me in the back of a Land Rover and drive me to Windsor." หรือ “นำฉันขึ้นวางท้ายรถ Land Rover แล้วขับไปยังพระราชวังวินด์เซอร์” และเพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ การเคลื่อนพระศพก็ได้นำขึ้นวางบนท้ายรถ Land Rover เพื่อขับไปสู่การประกอบพิธีทางศาสนาดังกล่าว เป็นที่ทราบกันดีว่า เจ้าชายฟิลิพ ทรงโปรด Land Rover Defender 130 ซึ่ง Foley Specialist Vehicles เป็นผู้จัดหานำมาถวาย เมื่อปี 2559 ด้วยจุดประสงค์เพื่อการล่าสัตว์ และเจ้าชายฟิลิพ ก็โปรดการขับรถด้วยพระองค์เอง ถึงแม้ว่าจะพระชนมายุ 99 พรรษา Land Rover Defender TD5 130 รูปลักษณ์รถ 2 ประตู ซึ่งผลิตเป็นพิเศษเมื่อปี 2546 ตามพระประสงค์ของ ดยุคแห่งเอดินบะระ ได้ติดตั้งจุดยึดพิเศษด้านหลัง เพื่อยึดหีบพระศพเจ้าชายฟิลิพ ซึ่งคลุมด้วยธงประจำพระองค์ ความสัมพันธ์ของพระราชวงศ์อังกฤษกับ Land Rover มีมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่การถือกำเนิดของ Brand Land Rover เลยทีเดียว โดย Land Rover คันที่ 100 จากสายการผลิตได้ทูลเกล้าฯ ถวาย King George VI เพื่อใช้ในกิจการของพระราชวัง จนกระทั่งในปี 2513 ได้มีการแนะนำ Range Rover ความสัมพันธ์ของ ดยุคแห่งเอดินบะระ เป็นที่ทราบกันดี โดยพระองค์ทั้งเป็นเจ้าของ, การเช่าใช้ของพระราชวัง หรือแม้แต่การทดลองขับ Range Rover แทบทุกรุ่นที่เปิดตัวสู่ตลาด ตามรายงานการใช้รถยนต์ของพระราชวัง รถรุ่น L322 ในเจเนอเรชันที่ 3 ยังคงเก็บรักษาอยู่ที่พระราชวังส่วนพระองค์ Balmoral ในสกอทแลนด์ ด้วยระยะทางบนหน้าปัด 81,000 ไมล์ ในระยะเวลา 11 ปี และยังคงขับขี่โดยเจ้าชายฟิลิพ อย่างสม่ำเสมอ Foley Specialist Vehicles บริษัทดัดแปลงรถในอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้จัดหา Defender 130 มาถวาย ระบุว่า รถคันพิเศษนี้ ติดตั้งไฟส่องสว่างแอลอีดี, ภายในตกแต่งเบาะหนังสีเขียว แผงภายในเป็นสี French Oak
บทความแนะนำ