ธุรกิจ
“ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ฯ” จัดทัพใหญ่เขย่าเวที “มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44”
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จัดทัพยนตกรรมอันทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ครบครันในงานบางกอก อิน เตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ภายใต้แนวคิด Yamaha Community of Pride-Community ที่สะท้อนความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์แห่งตัวตนของลูกค้า Yamaha พร้อมโชว์ยานยนต์ต้นแบบสุดล้ำรวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอกย้ำทิศทางสู่ความเป็น กลางทางคาร์บอน มาพร้อมแคมเปญพิเศษระหว่างวันที่ 22 มีนาคม-2 เมษายน นี้ ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 1 - 3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี
ทัตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับการออกแบบบูธ และการนำเสนอของ Yamaha ในปีนี้มีชื่อคอนเซพท์ว่า “Yamaha Community of Pride” ซึ่งเป็น Community ที่สะท้อนความภาคภูมิใจ ในเอกลักษณ์แห่งตัวตนของลูกค้า Yamaha ผสมผสานนวัตกรรมที่พร้อมก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน เสริมสร้างแบรนด์ตามปรัชญา “คันโด” และ “5 Unique Styles” วิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของ Yamaha และต่อยอดทิศทางของแบรนด์คอนเซพท์ในปีนี้ คือ “Restart & Revs Up” เพื่อให้ลูกค้าได้เริ่มต้นใช้ชีวิต และสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เร้าใจให้เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์ COVID-19 ได้คลี่คลายลง ซึ่ง Yamaha ยังคงมุ่งเน้นที่จะพัฒนานวัตกรรมอันทันสมัย และส่งต่อคุณค่าแห่งสินค้ามาให้แก่ลูกค้าทุกท่าน โดยเราได้นำยนตรกรรมต้นแบบที่ถูกพัฒนา และพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อผลิตเป็นสินค้าในอนาคตมาโชว์ที่โซน Zero Carbon Community ตามวิสัยทัศน์ของ บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้ให้ความสำคัญ และดำเนินการเกี่ยวกับ Carbon Neutrality การลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ หรือแกสเรือนกระจกให้เป็น 0 และโซนอื่นๆ ที่ Yamaha นำเสนอสินค้า และบริการที่ส่งมอบทั้งความมั่นใจ และสร้างประสบการณ์ความตื่นเต้นเร้าใจ และตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าอย่างแน่นอน
โคมัสซึ เคนจิ Chief General Manager of Technical Research & Development Center บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึง Zero Carbon Community Zone ว่า “ยามาฮ่ามอเตอร์ฯ กำลังดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งการซึ่งความเป็นกลางทางแกสคาร์บอน ไดออกไซด์ภายในปี 2050 ซึ่งเราเชื่อว่ามีหลากหลายวิธีการที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ ที่สำนักงานใหญ่ Yamaha Motor ประเทศญี่ปุ่น เราได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์แบบใหม่เพิ่มขึ้นหลายอย่าง ซึ่งรวมไปถึงอุปกรณ์ตรวจวัด และทดสอบมอเตอร์ไฟฟ้า, อุปกรณ์จ่ายแกส ไฮโดเจน และถังเก็บเชื้อเพลิง Carbon-Neutral โดยทั้งหมดได้ทำการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยไปเมื่อปีที่แล้ว และเมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว โรงงานแห่งนี้จะมีบทบาทที่สำคัญในการดำเนินกิจการตามมาตรฐานทางด้านเทคโนโลยีสีเขียวสำหรับผลิต ภัณฑ์ของ Yamaha ที่ส่งออกไปทั่วโลก โดยในขณะนี้เราได้ทำการวิจัยเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง และทำการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเกี่ยวกับในการลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ อาทิ การพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ไฮโดร เจน ในวันนี้ เมื่อความร่วมมือกันระหว่างสายการผลิตในปัจจุบัน และเทคโนโลยี Blue Core ที่มีอยู่ในรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กของ Yamaha ทำให้วันนี้เราจะได้เห็น Product Concept อย่างเช่น เครื่องยนต์พลังงานไฮโดรเจน และแบทเตอรี EV ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะได้รับความสนุกสนานจากผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีใหม่จากบูธรถจักรยานยนต์ Yamaha
พงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับบูธรถจักรยานยนต์ Yamaha ในปีนี้ เราออกแบบ และดีไซจ์นภายใต้คอนเซพท์ “Yamaha Community of Pride” Community ที่สะท้อนความภาคภูมิใจในเอก ลักษณ์แห่งตัวตนของลูกค้า Yamaha ที่ผสมผสานนวัตกรรมที่พร้อมก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน เพื่อลูกค้า Yamaha ซึ่งเราก็ได้แบ่งโซนต่างๆ ถึง 7 โซนดังนี้
1. Zero Carbon Community Zone ตามที่ มร. โคมัสซึ ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ โดยในปีนี้ทาง Yamaha Motor ประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญกับ "Carbon Neutrality" หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่ Yamaha มีเจตนารมย์ในการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็น 0 ภายในปี 2050 โดยในปีที่ผ่านมา Yamaha ได้คิดค้น และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ที่นำมาจัดแสดงในวันนี้ เราได้นำรถคอนเซพท์ ROV หรือเรียกว่า (Recreational Off-Highway Vehicles) รถต้นแบบที่ใช้พลังไฮโดรเจนขับเคลื่อน ซึ่งเป็นความร่วมมือในการสร้างนวัตกรรมร่วมกันระหว่าง Lexus International ถือเป็นครั้งแรกของโลก ในการนำมาจัดแสดงนอกประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน 100 % ซึ่งเริ่มต้นพัฒนามาตั้ง แต่ปี 2015 นอกจากนี้ ยังมีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่าง E01 และ Neo ที่จำหน่าย และได้รับความนิยมในยุโรป รวมถึงรถจักรยานเสือภูเขาแบบใช้แบทเตอรีอย่าง YPJ-MT Pro และ Tri Town Scooter ไฟฟ้าส่วนบุคคลที่ใช้เทคโนโลยี LMW มาจัดแสดงในโซนนวัตกรรมด้วย จะเห็นได้ว่า ทางยามาฮ่ามอเตอร์ฯ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ให้สำเร็จ และยั่ง ยืน
2. Commuter Community Zone สังคมของผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันที่เป็นรุ่นยอดนิยม อย่าง Grand Filano Hybrid Connected, Aerox, Fazzio และ Finn ซึ่งเป็นรถครอบครัวรุ่นเดียวที่กล้ารับประกัน 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง พร้อมด้วย Yamaha Exciter สีใหม่ Ride The Next Level ตอกย้ำบทบาทผู้นำรถ Automatic และรถครอบครัว
3. Max Series Community Zone เป็นโซนของรถ Automatic ยอดนิยมในตระกูล Max-Series อย่าง Tmax Sport Scooter ที่ประสบความสำเร็จ และขายดีที่สุดในยุโรป รวมถึง Xmax Connected ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในหลากหลายประเทศ และโม เดลที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายเป็นอันดับ 1 ของโลก พร้อมด้วยรถในตระกูล Max-Series อย่าง Nmax Connected ขนาด 155 ซีซี ที่มาพร้อมสีใหม่ Dull Blue
4. R-Series Community Zone ครบครันด้วยรถในตระกูล R-Series นำโดยรุ่นใหญ่อย่าง YZF-R1M รถจักรยานยนต์สไตล์สปอร์ทที่ครองใจชาว Sport มาอย่างยาวนาน รวมถึง YZF-R7 ที่โดดเด่นด้วยดีไซจ์นของ R-Series ออกแบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ ไซค์ทรงสปอร์ทที่เน้นขับขี่ในชีวิตประจำวัน รวมถึง New R15 Connected และ R15M Connected-ABS ทอพคลาสส์รถสปอร์ทพิกัด 155 ซีซี
5. Adventure Touring & Sport Heritage Community Zone นำโดย Tenere700 ที่พัฒนา ต่อยอดเทคโนโลยีจากสังเวียนหฤ โหดดาการ์ แรลลี พร้อมด้วย Tracer9 GT บิกไบค์สาย Adventure และกลุ่มรถ Sport Heritage นำโดย XSR900, XSR700, XSR 155 ผสมผสานดีไซจ์นคลาสสิคกับสมรรถนะ และเทคโนโลยีของ Sport Naked ซึ่ง XSR155 มาพร้อมกับสีใหม่ล่าสุด และรุ่นพิเศษแต่งในสไตล์ Yard Built by K-Speed จำนวนจำกัดเพียง 200 คันในประเทศไทย
6. MT-Series Community Zone รถจักรยานยนต์ในตระกูล MT-Series Master of Torque ที่สร้างชื่อเสียงให้ Yamaha ไปทั่วโลก ใน Torque & Agile Concept ภายใต้แคมเปญ The Darkside of Japan นำโดย MT-09 และ MT-15 พร้อมด้วย MT-07 สีใหม่ สไตล์ Hyper Naked ที่มาพร้อมกับเรือนไมล์ TFT สีเต็มรูปแบบ ขนาด 5 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ตอกย้ำความนิยมในทวีปยุโรปด้วยยอดจำหน่ายมากกว่า 160,000 คัน
7. Leisure Community Zone นำโดย Yamaha Wave Runner รุ่น Super Jet ยานยนต์ที่จะสร้างความเร้าใจให้แก่ลูกค้าที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำ รวมถึงเครื่องยนต์ติดท้ายเรือ และรถกอล์ฟ มาให้แฟนๆ Yamaha ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด เติมเต็มบรรยากาศให้แก่บูธ Yamaha ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44
และที่ขาดไม่ได้ในครั้งนี้ Yamaha ได้จัดโปรโมชันสุดพิเศษ สำหรับรถจักรยานยนต์ขนาด 115-155 ซีซี รับ Gift Voucher สูงสุด 15,000 บาท และรถจักรยานยนต์ขนาด 400-1,000 ซีซี รับ Gift Voucher สูงสุด 40,500 พร้อมประกันภัยชั้น 1
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/445886