ธุรกิจ
Nissan เปิดตัว Kicks e-POWER สีใหม่
Nissan เปิดตัว Kicks e-POWER สีพิเศษ ไททาเนียม กากี ครั้งแรกกับรถยนต์สีอินทเรนด์ ร่วมสร้างสีสันในงาน Big Motor Sale 2023 ระหว่าง 25 สิงหาคม-3 กันยายน 2566 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สนองความต้องการของลูกค้า พร้อมเติมแอคทีฟไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่รักการผจญภัย และการใช้ชีวิตกลางแจ้ง
มาซาโอะ สึสึมิ รองประธานสายงานการตลาด การขาย บริการหลังการขาย และพัฒนาเครือข่าย ผู้จำหน่าย Nissan ประเทศไทย กล่าวว่า Nissan รับฟังลูกค้าอยู่เสมอ และเพื่อสร้างสรรค์การเดินทางให้น่าประทับใจ สะท้อนตัวตนของลูกค้า สีไททาเนียม กากี ซึ่งเป็นสีพิเศษใน Nissan Kicks e-POWER และได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เปิดตัว โดยมีลูกค้าชาวไทยให้ความสนใจ เราจึงได้แนะนำสีไททาเนียม กากี กับรถเอสยูวียอดนิยม เป็นครั้งแรก ตอกย้ำจุดยืนของการเป็นรถยนต์ที่ใช่ ช่วยเพิ่มความสนุกในการขับขี่ และเติมเต็มความต้องการของลูกค้า ให้ได้รับประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้โดยที่ไม่ต้องชาร์จ
Nissan Kicks e-POWER สีไททาเนียม กากี ออกแบบมาสำหรับคนรุ่นใหม่ที่นิยมการใช้ชีวิตกึ่งผจญภัย และรักการเดินทาง สีภายนอกในโทนกากีเป็นสีที่สื่อถึงธรรมชาติ การผจญภัย ความอบอุ่น และการผ่อนคลาย รวมถึงสะท้อนบุคลิกแอคทีฟไลฟ์สไตล์ที่ชอบใช้ชีวิตกลางแจ้ง
Nissan Kicks e-POWER สีไททาเนียม กากี มีเฉพาะรุ่น VL และผลิตจำนวนจำกัด 100 คัน โดยมีราคาจำหน่ายที่ 920,000 บาท
นอกจากนี้ Nissan และ Thule ยังได้ร่วมกันมอบข้อเสนอพิเศษด้วยชุดตกแต่งราคาพิเศษเพื่อยกระดับประสบการณ์ในการทำกิจกรรมกลางแจ้งใกล้ชิดธรรมชาติ อาทิ สปอยเลอร์หลัง สเกิร์ทรอบคัน จาก Nissan รวมถึงแรคหลังคาบรรทุกสัมภาระ และกล่องเก็บสัมภาระจาก Thule
ขณะที่จุดเด่นของรถยังคงเป็นระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากเทคโนโลยี e-POWER อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจาก Nissan ขับสนุกพร้อมสัมผัสได้ถึงประสบการณ์การขับขี่เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า 100 % โดยไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถ ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาสถานีชาร์จ อัตราเร่งที่ทันใจจากแรงบิดสูงสุดถึง 280 นิวตันเมตร (Nm) แบทเตอรีแบบลิเธียม-ไอออนขนาด 2.06 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ให้ประสิทธิภาพ และกำลังมากขึ้น มาพร้อมอัตราประหยัดน้ำมันเมื่อขับขี่ในเมือง สูงสุด 26.3 กม./ลิตร*
คอมแพคท์เอสยูวีรุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์เด่นมากมาย อาทิ Wireless Charger** เอาใจลูกค้ายุคดิจิทอล พวงมาลัยเสริมวัสดุบุนุ่ม เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ e-Pedal Step ที่สามารถเร่ง และชะลอความเร็วได้ในคันเร่งเดียว และยังมั่นใจทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน 360 Safety Shield เพิ่มความสะดวกสบายด้วย NissanConnect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทั้ง Android Auto** และ Apple CarPlay
ในงานนี้ Nissan ยังยกขบวนรถยอดนิยมครบทุกรุ่นมาจัดแสดง ได้แก่ Nissan Almera ใหม่ คอมแพคท์ซีดานที่ “แรงจริง จัดให้” ด้วยเครื่องยนต์ HRA0 ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดถึง 100 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 152 นิวตันเมตร (Nm) ให้อัตราเร่งที่แรง และรวดเร็ว ให้ทุกการเดินทางสนุกเต็มพิกัด รูปลักษณ์ปราดเปรียวโดดเด่นสะดุดตามากขึ้น ด้วยกระจังหน้าคอนเซพท์ Next-generation V-motion มาพร้อมเทคโนโลยี NissanConnect Services เพื่อการเชื่อมต่อไร้สายระหว่างผู้ขับขี่ และรถ ผ่านสมาร์ทโฟน แอพพลิเคชัน เสริมด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย และความสะดวกสบายจากรถพรีเมียมสู่คอมแพคท์ซีดาน อาทิ เทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System-TPMS) เทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist-HBA) และเทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning-LDW) รวมถึงการติดตั้งฟังค์ชัน SOS เพื่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันทีผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ เมื่อเกิดเหตุต่างๆ
Nissan Terra รถยนต์อเนกประสงค์พรีเมียมรุ่นล่าสุด มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอก และภายในที่สปอร์ทโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะรุ่นล่าสุด Nissan Terra Sport ที่เพิ่มความเท่มีสไตล์ด้วยชุดแต่งสีดำรอบคัน ครบครันทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัย และความบันเทิง รวมทั้งห้องโดยสารที่กว้างขวาง ทำให้ Nissan Terra Spor เป็นเอสยูวีที่ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว เครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ให้การขับขี่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน ทั้งยังสามารถรองรับน้ำมันดีเซลได้ทุกชนิดทั้ง B7, B10 และ B20 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ไปได้ทุกเส้นทาง อุ่นใจกับ “360 Degree Safety Shield” เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ระบบความบันเทิงระดับไฮเอนด์ด้วยเครื่องเสียงจาก Bose Premium Audio พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 8 ตัว จอสัมผัสขนาด 11 นิ้ว และการเชื่อมต่อสมาร์ททีวี หรือ HDMI เพิ่มความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสารด้านหลัง
Nissan Navara รถกระบะที่ทุกรุ่นทนถึงใจ ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการใช้งาน ทั้งการขับขี่แบบไลฟ์สไตล์ หรือการใช้งานที่ต้องการความทนทาน ไม่ว่าจะเป็น Nissan Navara รุ่น Single Cab ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่ต้องการรถกระบะใช้งานหนัก และวางไจได้ ด้วยโครงสร้างโมโนเฟรมแชสซีส์ทำจากเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน (Fully Boxed Frame) พร้อมรองรับทุกการบรรทุกหนัก ที่มีพื้นที่บรรทุกของได้อย่างจุใจ หรือ Nissan Navara PRO-4X และ Nissan Navara Calibre Black ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่สนุกกับทุกการเดินทาง การผจญภัย และการใช้งานทั่วไป
Nissan Navara มากับสมรรถนะทรงพลัง เครื่องยนต์ทรงพลัง YS23DDTT แบบ 4 สูบ DOHC เทอร์โบคู่ ความจุ 2.3 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 190 hp (Ps) และแรงบิดสูงสุดถึง 450 นิวตันเมตร (Nm) เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบแมนวล (M mode) ได้เพื่อความสนุกสนานในการขับขี่ที่ควบคุมได้ดังใจ รวมทั้งยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ในด้านประโยชน์การใช้งาน และความสะดวก เช่น ฝาท้ายที่ช่วยผ่อนแรงในการเปิด-ปิด และขนของที่กระบะได้สะดวก รวมถึงการปรับตำแหน่งตะขอยึดใหม่ เพื่อตอบโจทย์การบรรทุกสัมภาระทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก
พิเศษในงาน Big Motor Sale 2023 Nissan จัดโปรโมชันพิเศษ “โปรใหญ่ SAY YES!” ที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น กับข้อเสนอพิเศษหลากหลายที่จัดขึ้นให้ตรงตามความต้องการลูกค้าของรถแต่ละรุ่น โดยมีข้อเสนอตั้งแต่ดาวน์ต่ำ ผ่อนสบาย และผ่อนนาน ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยเริ่มต้น 0 % ไปจนถึงผ่อนนาน 84 เดือน
นอกจากนี้ ลูกค้ายังอุ่นใจได้กับข้อเสนอพิเศษอื่นๆ*** เช่น โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ Nissan Premium Warranty ค่าแรงเชคระยะ 5 ปี/100,000 กม. Roadside Service Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (5 ปี หรือ 150,000 กม.) ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อผู้จำหน่าย Nissan ในงาน และทั่วประเทศ หรือดูข้อมูลได้จากเวบไซท์ https://nissan.co.th
* สำหรับการขับขี่ในเมือง / ตามมาตรฐาน NEDC หรือ ป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (ECO sticker) ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีข้อมูลแตกต่างกันไป
** เฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับ
*** ข้อเสนอเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/463800