Great Wall Motor หรือ GWM กลับมาสร้างความเร้าใจให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ประเทศไทย อีกครั้งด้วย ORA 07 รถพลังไฟฟ้าทรงสปอร์ทคูเป สมรรถนะสูง
ORA 07 รถพลังไฟฟ้าทรงสปอร์ทคูเป สมรรถนะสูง เรือธงรุ่นล่าสุด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Long Range และรุ่น Performance แบทเตอรีความจุ 83.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย
รุ่น Long Range มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 34.7 กก.-ม. (340 นิวตัน-เมตร) วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 640 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC Standard)
รุ่น Performance มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า (300 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 69.4 กก.-ม. (680 นิวตัน-เมตร) วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 550 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC Standard) พร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที
ยิ่งไปกว่านั้น ORA 07 มาพร้อมโหมดการขับขี่ให้ผู้ขับขี่ได้เลือกใช้งานถึง 6 โหมด ได้แก่ โหมดประหยัด โหมด Well Being โหมดปกติ โหมดสปอร์ท โหมดสปอร์ทพลัส และโหมดส่วนบุคคล
ORA 07 มาด้วยรูปร่างซูเปอร์สตรีมไลน์ ลายเส้นโค้งพลิ้วไหวผสานความหรูหราและความสปอร์ท โดยมีมิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,871/1,862/1,500 มม. ระยะฐานล้อ 2,870 มม. ระยะความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) 125 มม. น้ำหนักรถ 2,115 กก.
ดีไซน์ด้านหน้าของตัวรถถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ของรถซูเพอร์คาร์เพื่อเพิ่มแรงกด ด้วยกระจังหน้าที่ถูกออกแบบตามประกายแสงบนผิวน้ำยามแสงแดดสะท้อนลงมา รับฝากระโปรงหน้าทรงหยดน้ำที่เว้าลงและนูนขึ้นทั้งสองด้าน ไฟหน้า Intelligent LED ทรงกลมแบบเรโทรเพื่อเพิ่มความสปอร์ทอย่างเต็มพิกัด มอบทั้งความสว่างและความปลอดภัยด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง/ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกด้านหน้าแบบ LED หน้าต่างไร้กรอบที่เป็นกระจกแบบ 2 ชั้น เพื่อช่วยดูดซับเสียง โดยจะเลื่อนลงเมื่อเปิดประตู และเลื่อนปิดโดยอัตโนมัติเมื่อปิดประตู
ส่วนด้านหลังของรถถูกออกแบบด้วยดีไซน์ Fast-Back ไฟท้ายรูปทรงวงรีแบบ LED และหลังคาแก้วแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ (Panoramic Glass Roof) ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายที่มีคุณสมบัติช่วยเก็บเสียง กรองแสง และลดความร้อน รวมถึงช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูโปร่งมากขึ้น ซึ่งในรุ่น Performance ฝาท้ายเปิด/ปิดไฟฟ้าระบบแฮนด์ฟรี และสปอยเลอร์ไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน เปิด/ปิดอัตโนมัติที่เลือกได้ว่า จะให้เปิดเมื่อปลดลอครถ หรือเมื่อความเร็วถึง 70 กม./ชม.
นอกเหนือจากนี้ ORA 07 ยังยกระดับภาพลักษณ์การขับขี่ให้หรูหราและมั่นใจด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/50 R18
ในรุ่น Long Range และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วที่มีลักษณะคล้ายอุ้งแมว พร้อมยางขนาด 235/45 R19 ในรุ่น Performance
สีรถภายนอกในรุ่น Long Range มีสี ขาว และเทา ภายในสีดำ
ส่วนรุ่น Performance มี 3 สี คือ ขาว เทา และเพิ่มสีม่วง สีพิเศษเฉพาะรุ่น สีภายในมีให้เลือก 2 สี คือ ดำ และน้ำตาล
การตกแต่งภายในเป็นแบบเรโทรแฝงความหรูหรา ผสมผสานระหว่างเส้นโค้งและเหลี่ยมมุมได้อย่างลงตัว
ด้วยห้องโดยสารแบบซุปเปอร์คาร์ พร้อมกับคอนโซลกลางรูปตัว T ลำโพง 11 ตัว (ลำโพง Infinity® ในรุ่น Performance) ที่ทำงานร่วมกับระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระและระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ ฟังก์ชันไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบหลากสีและเป็นจังหวะ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อม PM2.5 filter และระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
ลำโพง Infinity® ในรุ่น Performance
ORA 07 มาพร้อมกับที่จับประตูเปิดอัตโนมัติแบบไฟฟ้า เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับแบบไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง และระบบดันหลังปรับไฟฟ้า ซึ่งเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 มีที่พักแขนตอนกลาง และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมช่องเสียบ USB A และ USB C
สำหรับรุ่น Performance จะมีระบบ Memory Seat ระบบ Welcome Seat ระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ เพิ่มเข้ามาเป็นพิเศษเพื่อมอบความสะดวกสบายอีกขั้นให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับเบาะแยกได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ โดยหน้าจอกลางอัจฉริยะนี้สามารถเชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า (รุ่น Performance)
พวงมาลัยปรับแบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิทช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ เกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้าแบบก้านด้านหลังพวงมาลัย และระบบ Intelligent Quick Start System ที่พร้อมออกเดินทางได้ทันทีเมื่อนั่งบนเบาะคนขับและเหยียบเบรก
ยิ่งไปกว่านั้น ORA 07 ยังเพียบพร้อมไปด้วยระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย เพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับทุกขณะของการเดินทาง ประกอบด้วย
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA&RCTB)
เซนเซอร์กะระยะ 4 จุดด้านหน้า และ 4 จุดด้านหลัง สำหรับรุ่น Long Range และ 6 จุดด้านหน้า และ 6 จุดด้านหลัง สำหรับรุ่น Performance
คันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent One Pedal) สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว
ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)
ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)
ระบบจ่ายกระแสไฟ (V2L) เทคโนโลยีที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นแหล่งไฟฟ้าที่สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ได้ในยามจำเป็น
ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) และระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) เฉพาะรุ่น PERFORMANCE เท่านั้น
สำหรับสาวกแบรนด์ ORA เตรียมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบฉบับยนตรกรรมไฟฟ้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ ORA 07 ได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.gwm.co.th แอปพลิเคชัน GWM และช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook, YouTube และ TikTok ของ GWM Thailand และ GWM ORA Thailand