ธุรกิจ
ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์
รีวิว New Isuzu MU-X 2024 ปรับหน้าใหม่ เพิ่มรุ่นพิเศษ เริ่มต้น 1,184,000 บาท
หลังได้เห็นภาพทีเซอร์ พร้อมสโลแกนของ Isuzu MU-X Minor Change 2024 ไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน ก็ถึงเวลาเปิดตัวเสียที
Isuzu MU-X รุ่น RS ราคาเริ่มต้น 1,659,000 บาท
Isuzu MU-X รุ่น Ultimate ราคาเริ่มต้น 1,544,000 บาท
Isuzu MU-X รุ่น Elegant ราคาเริ่มต้น 1,419,000 บาท
Isuzu MU-X รุ่น Active ราคาเริ่มต้น 1,184,000 บาท
"Isuzu MU-X 2024" รุ่นปรับโฉมใหม่ มาพร้อมสโลแกน “จุดสูงสุดใหม่...กับชีวิตที่เหนือกว่า” (MU-X "The Next Peak") ที่สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ ด้วยรุ่นตกแต่งพิเศษ RS พร้อมสีเทาใหม่ (Eiger Gray Opaque) และกันชนหน้าแบบ Fighter Jet โดยเพิ่มกล้อง 360 องศา และพวงมาลัยไฟฟ้า รวมถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS Generation รุ่นล่าสุด มาให้แล้ว
Isuzu MU-X 2024 ได้รับการพัฒนาให้ดีกว่ารุ่นเดิม ด้วยการเพิ่มรุ่นตกแต่งพิเศษ RS เป็นตัวทอพใหม่ โดยยังมีรุ่น Ultimate, Elegant และ Active ที่มีออพชันลดหลั่นกันไปอยู่เหมือนเดิม โดยทั้ง 4 รุ่น มีทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร DDI Blue Power ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.9 ลิตร DDI Blue Power กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมด Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ พร้อมระ บบ Rough Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
มีอะไรบ้าง ? ใน Isuzu MU-X รุ่น RS ราคาเริ่มต้น 1,659,000 บาท
ภายนอก (Exterior)
- เพิ่มกระจังหน้าใหม่แบบ Black Diamond Grille พร้อมสัญลักษณ์ RS ด้วยวัสดุ Black Chrome
- ไฟหน้า และไฟท้ายใหม่ Dynamic Blade แบบ Full LED พร้อมดีไซจ์นสปอร์ทด้วยเส้น Embrace Line
- ล้ออัลลอยใหม่ RS Design ขนาด 20 นิ้ว เพิ่ม Fender Garnish สีดำ และ Side Garnish สัญลักษณ์ RS
- กันชนหน้าใหม่ แบบ Fighter Jet ทรงดุดัน พร้อม Air Curtain เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์
- สีเทาใหม่ Eiger Gray Opaque และหลังคาดำ Black Roof พร้อมสัญลักษณ์ RS ด้วยสี Lime Green
ภายใน (Interior)
- เบาะนั่งดีไซจ์นใหม่ โอบรับสรีระ พร้อมเดินด้ายสี Lime Green และสัญลักษณ์ RS บนหัวเบาะ
- มีไฟสีแดง สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Red Ambient Light
- คอนโซลสีดำดีไซจ์นใหม่ ตกแต่งด้วย Matte Silver
เทคโนโลยี และความสะดวกสะบาย
- กล้องรอบคัน 360 องศา Surround View Camera ภาพคมชัดแบบ 3D พร้อมมุมมองใต้ท้องรถ เฉพาะรุ่น RS
- พวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering) ขับสบายคล่องตัว ทั้งในเมือง และนอกเมือง
- ระบบ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto แบบไร้สาย สามารถแสดงผลได้หลากหลาย เช่น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS การแสดงสถานะของระบบขับเคลื่อน ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ
- ฝาท้ายเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวาง Jam Protection
- เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง เบาะตอน 2 และ 3 ปรับเอนได้ พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของเข้า-ออกแบบ One Touch
ความปลอดภัย ADAS Generation ล่าสุด (Advanced Driver Assistance System)
- ADAS Generation ล่าสุด เพิ่มเติมใหม่ 5 ระบบ กล้องคู่หน้า พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System)
- ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามคันหน้า TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยให้รถอยู่ในเลน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ELK (Emergency Lane Keeping)
- ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อม LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) พร้อมระบบช่วยเตือนขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังค์ชัน Stop and Go ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control)
- ระบบช่วยแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) พร้อมระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบช่วยแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monotoring)
- ระบบเซนเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System
- ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking)
- ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (AUtomatic Hight Beam)
- ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedel Misapplication Mitigation)
- ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ MCB (Multi-Collision Brake)
- ระบบช่วยตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยก่อน และหลังการชน (Active and Passive Safety)
- ระบบป้องกันล้อลอคขณะเบรค ABS (Anti-Lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรค EBD (Electronic Brake-Force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรค BA (Brake Assist) และระ บบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรค BOS (Brake Override System)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS (Traction Control System)
- ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control)
- ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control)
- โครงสร้างห้องโดยสาร Ultra-High Tensile แกร่ง และทนทาน
เครื่องยนต์ (Engine)
Isuzu MU-X รุ่น RS มีเครื่องยนต์ให้เลือกรุ่นเดียว คือ ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร Ddi Blue Power ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมด Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Rough Terrain Mode โดยมีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทาใหม่ Eiger Gray Opaque หลังคาดำ สีขาวมุก Dolomite White Pearl และสีดำ Bavarian Black Mica
รุ่น ULTIMATE มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ? ราคาเริ่มต้น 1,544,000 บาท
ภายนอก (Exterior)
- เพิ่มกระจังหน้าใหม่ Diamond Grille หรูหราด้วยวัสดุสีดำ Titanium Carbide
- ไฟหน้า และไฟท้ายใหม่ Dynamic Blade แบบ Full LED พร้อมดีไซจ์นสปอร์ทด้วยเส้น Embrace Line
- ล้ออัลลอยใหม่ Dynamic Turbine ขนาด 20 นิ้ว สี Magnetite II พร้อมดีเทลก้านล้อแมกแบบ 3D
ภายใน (Interior)
- Modern Luxe ปรับเบาะนั่งให้หรูยิ่งขึ้นด้วยโทนสี Truffle Brown-Black ให้ความรู้สึกอบอุ่น High Class
- เบาะ 7 ที่นั่ง ดีไซจ์นใหม่ สี Truffle Brown ที่โอบรับสรีระด้วยวัสดุ Cool Max ลดการสะสมความร้อน
- คอนโซลหน้าดีไซจ์นใหม่ สี Truffle Brown ตกแต่งด้วยวัสดุ Piano Black-Satin Silver
- มีไฟขาว สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร White Ambient Light
เทคโนโลยี และความสะดวกสะบาย
- พวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering) ขับสบายคล่องตัว ทั้งในเมือง และนอกเมือง
- ระบบ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto แบบไร้สาย สามารถแสดงผลได้หลากหลาย เช่น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS การแสดงสถานะของระบบขับเคลื่อน ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ
- ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวาง Jam Protection
- เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง เบาะตอน 2 และ 3 ปรับเอนได้ พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของเข้า-ออกแบบ One Touch
- สีใหม่ล่าสุด Eiger Gray Opaque
ความปลอดภัย ADAS Generation ล่าสุด (Advanced Driver Assistance System)
- ADAS Generation ล่าสุด เพิ่มเติมใหม่ 5 ระบบ กล้องคู่หน้า พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System)
- ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามคันหน้า TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยให้รถอยู่ในเลน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ELK (Emergency Lane Keeping)
- ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อม LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) พร้อมระบบช่วยเตือนขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังค์ชัน Stop and Go ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control)
- ระบบช่วยแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) พร้อมระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบช่วยแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monotoring)
- ระบบเซนเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System
- ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking)
- ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic Hight Beam)
- ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedel Misapplication Mitigation)
- ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ MCB (Multi-Collision Brake)
- ระบบช่วยตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยก่อน และหลังการชน (Active and Passive Safety)
- ระบบป้องกันล้อลอคขณะเบรค ABS (Anti-Lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรค EBD (Electronic Brake-Force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรค BA (Brake Assist) และระ บบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรค BOS (Brake Override System)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS (Traction Control System)
- ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control)
- ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control)
- โครงสร้างห้องโดยสาร Ultra-High Tensile แกร่ง และทนทาน
เครื่องยนต์ (Engine)
Isuzu MU-X รุ่น Ultimate มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น คือ ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร DDI Blue Power ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 1.9 ลิตร DDI Blue Power กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมด Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย มีเฉพาะระ บบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง โดยมีสีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเทาใหม่ Eiger Gray Opaque, สีขาวมุก Dolomite White Pearl, สีดำ Bavarian Black Mica, สีแดง Etna Mica, และสีเงิน Iceberg Silver Mica
รุ่น ELEGANT มีอะไรเปลี่ยนบ้าง ? ราคาเริ่มต้น 1,419,000 บาท
ภายนอก (Exterior)
- เพิ่มกระจังหน้าใหม่ Diamond Grille หรูหราด้วยวัสดุสีดำ Titanium Carbide
- ไฟหน้า และไฟท้ายใหม่ Dynamic Blade แบบ Full LED พร้อมดีไซจ์นสปอร์ทด้วยเส้น Embrace Line
- ล้ออัลลอยใหม่ ขนาด 18 นิ้ว
ภายใน (Interior)
- Modern Luxe ปรับเบาะนั่งให้หรูยิ่งขึ้นด้วยโทนสี Truffle Brown-Black ให้ความรู้สึกอบอุ่น High Class
- เบาะ 7 ที่นั่ง ดีไซจ์นใหม่ สี Truffle Brown ที่โอบรับสรีระด้วยวัสดุ Cool Max ลดการสะสมความร้อน
- คอนโซลหน้าดีไซจ์นใหม่ สี Truffle Brown ตกแต่งด้วยวัสดุ Piano Black-Satin Silver
เทคโนโลยี และความสะดวกสะบาย
- ระบบ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto แบบไร้สาย
- ฝาท้ายเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวาง Jam Protection
- เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง เบาะตอน 2 และ 3 ปรับเอนได้ พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของเข้า-ออกแบบ One Touch
เครื่องยนต์ (Engine)
Isuzu MU-X รุ่น Elegant มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น คือ ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร DDI Blue Power ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 1.9 ลิตร DDI Blue Power กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีเฉพาะระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง โดยมีสีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเทาใหม่ Eiger Gray Opaque, สีขาวมุก Dolomite White Pearl, สีดำ Bavarian Black Mica, สีแดง Etna Mica, และสีเงิน Iceberg Silver Mica
รุ่น ACTIVE มีอะไรเปลี่ยนบ้าง ? ราคาเริ่มต้นเพียง 1,184,000 บาท
ภายนอก (Exterior)
- เพิ่มกระจังหน้าใหม่ Diamond Grille ให้อารมณ์สปอร์ทด้วย Dark Gray
- ไฟหน้า และไฟท้ายใหม่ Dynamic Blade แบบ Full LED พร้อมดีไซจ์นสปอร์ทด้วยเส้น Embrace Line
- ล้ออัลลอยใหม่ ขนาด 17 นิ้ว
ภายใน (Interior)
- เบาะผ้าสีดำ 7 ที่นั่ง
เทคโนโลยี และความสะดวกสะบาย
- ระบบ Infotainment Display ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto แบบไร้สาย
เครื่องยนต์ (Engine)
Isuzu MU-X รุ่น Active มีเครื่องยนต์ให้เลือกรุ่นเดียว คือ ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 1.9 ลิตร DDI Blue Power กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีเฉพาะระ บบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง โดยมีสีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวมุก Dolomite White Pearl และสีเงิน Bohemian Silver Metallic
MG เดินหน้า MG EVolution Showroom ทั่วประเทศ
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายรถยนต์ MG ในประเทศไทย ย้ำภาพแบรนด์ผู้บุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยเปิดตัว MG EVolution Showroom หนึ่งในแผนงานพัฒนาศูนย์บริการให้ดูทันสมัย เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันที่รถไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในทางเลือกของลูกค้า เพื่อรองรับการขาย และการบริการหลังการขายสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ประเดิมเปิดตัว 3 โชว์รูมในพื้นที่กรุงเทพฯ ปทุมธานี และชลบุรี โดยมีแผนขยายครบ 10 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ ภายในสิ้นเดือนนี้
สถานการณ์ตลาดที่รถยนต์ไฟฟ้ามีอัตราการเจริญเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงปีที่ผ่านมา การพัฒนาภาพลักษณ์โชว์รูมเพื่อให้ตอบโจทย์กับรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นส่วนสำคัญในแผนงานของ MG ทั้งนี้ MG EVolution Showroom เป็นโชว์รูมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับการขาย และบริการหลังการขายสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และกลุ่มผลิตภัณฑ์อีวีในระดับพรีเมียม (EV Premium) ซึ่งรถในกลุ่มดังกล่าว นำโดย New MG Maxus 9 ลักชัวรี MPV ไฟฟ้า 100 % แบบ 7 ที่นั่งรุ่นแรกของ MG New MG Cyberster สปอร์ทโรดสเตอร์ไฟฟ้าแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง และล่าสุดที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ กับ New MG Maxus 7 รถ E-MPV ยุคใหม่สำหรับครอบครัวสมัยใหม่ โดย MG EVolution Showroom มีการแบ่งพื้นที่ภายในอย่างเป็นระบบ อาทิ โซนจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้า โซนต้อนรับ โซนห้องประชุมสำหรับการสาธิต และให้ความรู้ โซนซ่อมบำรุงรักษา ซึ่งจะมีอุปกรณ์ และเครื่องมือเฉพาะสำหรับการบำรุงดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ พร้อมช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญงาน รวมถึงสถานี MG Super Charge ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ ในส่วนของพนักงานขายที่ MG EVolution Showroom จะได้รับการอบ รมความรู้ด้านยานยนต์ไฟฟ้าเป็นการเฉพาะ เพื่อให้ข้อมูล และคำแนะนำได้อย่างแม่นยำ ทำให้ลูกค้าเข้าใจในผลิตภัณฑ์อย่างครบถ้วน
MG EVolution Showroom ได้ถูกออกแบบที่เน้นการสื่อสารถึงความทันสมัย และเข้าถึงง่ายสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ผ่านการเลือกใช้โทนสีเงิน และสีฟ้าเป็นสีหลัก ซึ่งสีเงินสื่อถึงความล้ำสมัย เทคโน โลยี และนวัตกรรม ในขณะที่สีฟ้าที่ใช้เป็นเส้นสายประกอบสื่อถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวคิดของรถยนต์ไฟฟ้า โดยกลุ่มแรกจะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายนนี้ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ?ฌ ฤิสำ ?นะนพ ปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เอมจี เบส ออโต้เซลส์ สาขาบายพาส ชลบุรี จังหวัดชลบุรี และเอมจี เบส ออโต้เซลส์ เพชรเกษม 65 กรุงเทพฯ และจะเปิดเพิ่มเติมอีก 7 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นเดือนมิถุนายน
พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่เติบโตสูงมาก โดย MG ยังคงให้ความสำคัญกับตลาดนี้เป็นหลัก นอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ MG มียอดขายสะสมตั้งแต่ปี คศ. 2019 จนถึงปัจจุบันกว่า 26,000 คันแล้วนั้น
ในช่วงทศวรรษที่ 2 MG ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่เพิ่มถึง 3 รุ่น โดยหนึ่งในรุ่นที่ถือเป็นความภูมิใจของ MG คือ New MG4 Electric ซึ่งเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกของ MG ที่ออกจากสายการผลิตภาย ในประเทศ โดยใช้ชิ้นส่วนจากประเทศไทยกว่า 17 บริษัท รวมถึงขยายพื้นที่เปิดโรงงานแบทเตอรีไฟฟ้า และพื้นที่สำหรับพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ MG ที่ร่วมกับพาร์ทเนอร์ การเปิดพื้นที่คลังอะไหล่แห่งใหม่รวมพื้นที่ทั้งสิ้นกว่า 25,000 ตรม. รองรับอะไหล่กว่า 30,000 รายการซึ่งทำให้ยอดลงทุนรวมของโรงงาน MG สูงถึง 30,000 ล้านบาท
ไม่เพียงเท่านั้น MG ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มรถบริการสาธารณะ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแนวทางที่ MG ดำเนินการมาโดยตลอด และเดินหน้าแผนงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่ศูนย์บริการของ MG ด้วยการเปิดตัว MG EVolution Showroom และการขยาย MG Supercharge Station กว่า 147 แห่ง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในระบบนิเวศยานยนต์ไฟ ฟ้าของ MG ซึ่งจะช่วยเติมเต็มการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของคนไทยให้มีความครอบคลุม และครบวงจรมากยิ่งขึ้น
Neta พร้อมส่งมอบ Neta V-II จากโรงงานในไทย
Neta พร้อมส่งมอบ Neta V-II รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % สไตล์ City Car มาพร้อมแนวคิด “Smart & Play สมาร์ทให้สุด สนุกให้เหนือใคร” ซึ่งผลิตจากฐานการผลิตในประเทศไทย โดยคนไทยให้แก่ลูกค้าคนไทยอย่างเป็นทางการพร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของ Neta เตรียมเดินหน้าจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย และสามารถเป็นเจ้าของได้
ชู กังจื้อ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า Neta ขอขอบคุณลูกค้าคนไทยสำหรับความไว้ใจในแบรนด์ Neta รวมทั้งภาครัฐที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของเรามาอย่างต่อเนื่อง และขอขอบคุณสำหรับความร่วมมือของ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเราในประเทศไทย ผมมั่นใจว่าด้วยเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าของ Neta ประกอบกับศักยภาพด้านการผลิตจากฝีมือคนไทยจะทำให้ลูกค้าทุกท่านชื่นชอบในผลิตภัณฑ์ของเรา ในขณะที่ผู้จำหน่าย Neta ทั่วประเทศพร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ มอบการบริการ และดูแลลูกค้าทุกท่านอย่างเต็มที่เช่นกันครับ”
มั่นใจคุณภาพจากฐานการผลิตในประเทศไทยโดยคนไทยเพื่อคนไทย
สำหรับ Neta V-II ผลิตจากโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งใหม่ของ Neta ในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง Neta กับ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด นับเป็นโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % แห่งแรกของ Neta ที่ตั้งอยู่นอกประเทศจีน และเป็นโรงงานผลิตเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งแรกในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในเขตปลอดอากร “พระนครฟรีโซน” นิคมอุตสาหกรรมบางชัน พื้นที่เขตกรุงเทพฯ โดยมีกำลังการผลิต 30,000 คัน/ปี ทั้งนี้จากความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าของ Neta ประกอบกับศักยภาพด้านการผลิตของ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด ที่มีประสบการณ์ในการประกอบรถยนต์ให้แก่แบรนด์ต่างๆ มานานกว่า 50 ปี ทำให้ Neta สามารถส่งมอบยานยนต์พลังงานไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ผลิตโดยคนไทยให้ผู้บริโภคชาวไทยภายใต้กลยุทธ์ “All in Thailand, All for Thailand”
Neta พร้อมให้บริการด้วยโชว์รูม และศูนย์บริการมาตรฐานกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ
ปัจจุบัน Neta มีโชว์รูม และศูนย์บริการเป็นทางการในประเทศไทยกว่า 50 แห่ง ครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองใหญ่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่พร้อมให้บริการลูกค้าอีกทั้งยังมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งการฝึกอบรมความพร้อมเจ้าหน้าที่สำหรับดูแลลูกค้าอย่างมืออาชีพ การจัดเตรียมอะไหล่สำรองให้สามารถรองรับกับความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที พร้อมบริการช่วยเหลือลูกค้ากรณีฉุกเฉินผ่าน Neta Call Center ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชม.
Nำta V-II รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้
“Nำta V-II” รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % สไตล์ City Car มาพร้อมแนวคิด “Smart & Play สมาร์ทให้สุด สนุกให้เหนือใคร” มีให้เลือก 2 รุ่น
• Neta V-II รุ่น Lite ราคาจำหน่าย 549,000 บาท
• Neta V-II รุ่น Smart ราคาจำหน่าย 569,000 บาท
Neta V-II ให้ความสะดวกสบาย และมั่นใจในการขับขี่ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน โดดเด่นด้วยหน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple Car Play พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทอล ขนาด 12 นิ้ว ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย และกุญแจแบบสมาร์ทคีย์พร้อมระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยฟังค์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่อุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์
Neta V-II ให้สมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานด้วยมอเตอร์ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร พร้อมแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุด 382 กม./การชาร์จไฟเต็มตามมาตร ฐาน NEDC
สำหรับ Neta V-II รุ่น Smart มาพร้อมระบบช่วยในการขับขี่ ADAS รวม 8 ระบบ ได้แก่ ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ รวมไปถึงระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
สำหรับผู้ที่จอง Neta V-II ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะได้รับพร้อมรับข้อเสนอพิเศษดังนี้
⦁ ฟรี ! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. คุ้มครอง 1 ปี
⦁ ฟรี ! เครื่องชาร์จ Neta Wallbox พร้อมค่าติดตั้ง จำนวน 1 ชุด
⦁ ฟรี ! รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
⦁ ฟรี ! รับประกันมอเตอร์ และแบทเตอรี 8 ปี หรือ 180,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
BYD เปิดโชว์รูมแห่งใหม่ ภาคอีสาน
บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจําหน่าย และให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุร กิจ Rever เปิดโชว์รูมแห่งใหม่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เดินหน้าเพิ่มจำนวนศูนย์บริการให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั่วประเทศเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ยู่ปิน เคอ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า อาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า[1] โดยประเทศไทยเป็นอีกตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมียอดจำหน่ายรถอีวีสูงถึง 2.5 ล้านคันภายในปี พศ. 2578 หรือกว่า 30 % ของทั้งภูมิภาคการเปิดโชว์รูม และศูนย์บริการแห่งนี้จะช่วยรองรับความต้อง การที่เพิ่มขึ้น รวมถึงตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ BYD ในฐานะผู้นำที่พร้อมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของประเทศไทยสู่สังคมแห่งยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม
ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Rever กล่าวว่า เรเว่ภาคภูมิใจที่ได้สานต่อความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มความสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าไทยด้วยการเดินหน้าขยายโชว์รูม และศูนย์บริการให้ครอบคลุม เราเชื่อว่าโชว์รูมแห่งใหม่ที่จังหวัดอุบลราชธานีจะช่วยให้ผู้บริโภคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสามารถเข้าถึง และเป็นเจ้าของยานยนต์ของ BYD ได้อย่างสะดวกสบายยิ่งกว่าที่เคย และเป็นส่วนหนึ่งที่จะได้ช่วยเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าออกสู่ท้องถนนพร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ NEV Nation ที่มีการปล่อยแกสเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้อย่างแท้จริงในอนาคตไปด้วยกัน
ประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Rever กล่าวว่า Rever ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าสู่ครอบครัวตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เพื่อร่วมส่งมอบบริการคุณภาพทั้งด้านการขาย และหลังการขายตลอดจนประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ผู้บริโภค เราเชื่อว่าโชว์รูม และศูนย์บริการแห่งนี้จะไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์ BYD แต่ยังเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ รวมถึงผู้ใช้รถ BYD ที่ต้องสัญจรไปมาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย
ดร. สมชาย เหล่าสายเชื้อ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทคนรักดี กล่าวว่า อุบลราชธานีเป็นจังหวัดใหญ่ที่ครองอันดับ 2[2] ทั้งในด้านขนาดพื้นที่ และจำนวนประชากรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงถือเป็นอีกศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญระดับภูมิภาคของไทย ในฐานะที่เป็นคนอุบลราชธานีโดยกำเนิด จึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้นำ BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกมาให้พี่น้องชาวอีสานได้สัมผัสนวัตกรรมยานยนต์ที่ล้ำสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เมืองดอกบัวงามแห่งนี้ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการลดการปล่อยคาร์บอน และสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป ตนมองว่าในอนาคตเรื่องของพลังงานทางเลือกใหม่ พลังงานสะอาดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีวิตที่โลกกำลังให้ความสำคัญ ในการช่วยแก้ปัญหาเรื่องสภาวะโลกร้อน Global Warming จึงได้ก่อตั้งบริษัท EV-D Group ขึ้น ซึ่งประกอบด้วย EV-D อุบลราชธานี, EV-D วารินชำราบ, EV-D อำนาจเจริญ, EV-D ศรีสะเกษ และ EV-D ยโสธร ภายใต้หลักคิดที่ว่า E-Environment สิ่งแวด ล้อม V-Value คุณค่า และ D-Do- ทำ "ต้องการสร้างสิ่งแวดล้อมให้ดี และมีคุณค่า"
ทั้งนี้ บริษัท EV-D อุบล จำกัด เริ่มก่อสร้างโชว์รูมชั่วคราว เพื่อจำหน่ายรถไฟฟ้า BYD เมื่อวันที่ 1 พย. 2565 จนในปี 2566 และมีส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า BYD 8.87 % เป็นอันดับ 1 ของประเทศ ด้วยจำนวน 828 คัน สำหรับ EV-D อุบลฯ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 15 ไร่ 2 งาน ออกแบบดำเนินการก่อสร้างด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 320 ล้านบาท โดยมุ่งมั่นตั้งใจให้เป็นโชว์รูมที่ดีที่สุด พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ไว้คอยต้อนรับลูกค้าทุกท่าน โดยลูกค้าชาวอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สนใจ สามารถเข้าใช้บริการได้ที่โชว์รูม EV-D อุบลเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:00-17:00 น.
นอกจากนี้ ทาง BYD และ Rever ยังได้ผนึกกำลังเสริมทัพการขาย และการบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ โดยเตรียมแต่งตั้งผู้จำหน่ายใหม่จากประเทศจีน (Dealers) ในเขตการขายกรุง เทพฯ อีก 3 ราย ได้แก่ Harmony Group และ อีก 2 กลุ่มทุนจากประเทศจีน ได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งทั้ง 3 ผู้จำหน่ายมีประสบการณ์ และความชำนาญในธุรกิจยานยนต์กับแบรนด์ระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการอย่างรอบด้านทั้งในประเทศ และต่างประเทศ พร้อมที่จะเข้ามาช่วยให้ลูกค้าในประเทศไทยได้เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้า BYD และการบริการอย่างครบวงจร ได้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
MotoGP สนามประเทศไทย กำหนดวันขายบัตร ส่วนลดสุดปัง
การกีฬาแห่งประเทศไทย เคาะวันแถลงข่าว และเปิดจำหน่ายบัตรชมการแข่งขัน “MotoGP” สนามประเทศไทย อย่างเป็นทางการในวันที่ 18 มิถุนายน 2567 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป คาดกระแสตอบรับท่วมท้น สามารถสร้างสถิติใหม่ ทำลายสถิติเดิมที่บัตร Grand Stand จำหน่ายหมดภายใน 2.29 นาที พร้อมเผยส่วนลดพิเศษสุดจากสปอนเซอร์ใหม่สุดปัง
ความเคลื่อนไหวการจัดการแข่งขัน “MotoGP” สนามประเทศไทย รายการ PT Grand Prix of Thailand ความภาคภูมิใจของคนไทยในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมพ์โลก ซีรีส์ศึก 2 ล้อสุดยิ่งใหญ่มีผู้ติดตามชมมากที่สุดของโลก ที่จะจัดในวันที่ 25-27 ตุลาคม 2567 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพปีที่ 5
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ สะเทือนวงการมอเตอร์สปอร์ท กับข่าวการผงาดคว้าสิทธิ์ “ไทเทิล สปอนเซอร์” ของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG รู้จักกันดีในฐานะเจ้าของสถานีบริการน้ำมัน PT ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ PT Maxnitron และยังมีธุรกิจอื่นในเครือ เช่น แบรนด์ร้านกาแฟพันธุ์ไทย Coffee World รวมถึงศูนย์บริการรถยนต์ Auto bacs กับการจรดปากกาเซ็นสัญญาในฐานะ ไทเทิล สปอนเซอร์ 3 ปีต่อเนื่อง มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
ล่าสุดได้มีการเผยจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะเจ้าภาพหลักฝ่ายจัดการแข่งขันว่า คณะทำงานได้กำหนดจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวการแข่งขัน MotoGP อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมเปิดตัวผู้สนับสนุนใหม่ ภายใต้ชื่อ “PT Grand Prix of Thailand” โดยมี Dorna Sports เจ้าของลิขสิทธิ์ นำโดย เฟร์ราน จุงกา ผู้อำนวยการอาวุโสด้านผู้สนับสนุนระดับโลก บินลัดฟ้าจากสำนักงานใหญ่ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน มาร่วมงาน และแสดงความยินดี ภายในงานยังมีพิธี “จำหน่ายบัตรชมการแข่งขัน MotoGP สนามประเทศไทย” อย่างเป็นทางการ โดยงานจัดขึ้นในวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ที่ห้องประชุมชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดจำหน่ายบัตร เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป
ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท สถานที่จัดการแข่งขัน สนามประเทศไทย เปิดเผยว่า “กระแสความนิยม MotoGP ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก มีกระแสเสียงเรียกร้องจากแฟนความเร็วในส่วนการเปิดจองบัตรแข่งขันในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง กกท. และคณะทำงาน ร่วมกับ “All Ticket” จึงได้กำหนดวันจำหน่ายบัตรเร็วขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมทั้งเตรียมการระบบต่างๆ เพื่อรองรับ และอำนวยความสะดวกให้แฟนๆ ที่จะจองบัตรในวันเวลาดังกล่าวอย่างดีที่สุด โดยในปีที่ผ่านมาบัตร Grand Stand จำหน่ายหมดภายใน 2.29 นาทีเท่า นั้น โดยในปีนี้คาดว่าจะมีกระแสตอบรับท่วมท้นเช่นเดิม ทำให้บัตรจำหน่ายหมดไว สามารถสร้างสถิติใหม่ขึ้นได้”
ทั้งนี้ ราคาจำหน่ายบัตรในประเทศไทย จัดว่าถูก และคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากทุกภาคส่วนจัดเต็มมหกรรมความบันเทิงทั้งใน และนอกสนาม รวมทั้งมีส่วนลดจากผู้สนับสนุนมากมาย อาทิ ลูกค้าที่เป็นสมา ชิกปั๊มน้ำมัน PT แสดงบัตร Max Card Plus บัตรสุดปังที่ให้คุณมากกว่าใคร รับส่วนลดทันที 25 % หรือรับส่วนลดทันที 20 % สำหรับสมาชิก Max Card
ผู้สนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ Chang International Circuit Friend Club, กุญแจรถจักรยานยนต์ Honda และกุญแจรถจักรยานยนต์ Yamaha รับส่วนลดทันที 20 % โดยเลือกใช้ส่วนลดได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
แฟนความเร็วหาซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ allticket.com เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2567 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป
Mitsubishi Triton คว้ารางวัล “รถกระบะยอดเยี่ยม”
All-New Mitsubishi Triton ตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นรถกระบะหนี่งเดียวที่คว้ารางวัล “รถกระบะยอดเยี่ยม” จาก ASEAN NCAP Grand Prix Awards 2024 จากการได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ดาว สำหรับ All-New Mitsubishi Triton ทุกรุ่นย่อย ภายใต้การทดสอบการชนของรถยนต์ใหม่ โดย ASEAN NCAP ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อประเมินสมรรถนะด้านความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ ที่วางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างปี 2564-2566
All-New Mitsubishi Triton ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด โดดเด่นด้วยแชสซีส์ใหม่ “Mega Frame" ที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE (Reinforced Impact Safety Evolution) ที่ช่วยรองรับแรงปะทะ และลดการยุบตัวของห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เสริมด้วยเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ และถุงลม SRS ทั้งหมด 7 ตำแหน่ง* ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC-Active Stability Control) ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL-Traction Control System) ระบบลิมิเทดสลิพแบบควบคุมด้วยเบรค (LSD-Active Limited Slip Differential Brake Con trol Type) และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ 360 องศา Diamond Sense ที่มีระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ที่มีการตรวจจับคนเดินถนน และผู้ขับขี่จักรยาน ยนต์ (FCM-Forward Collision Mitigation with Pedestrian Detection)
การประกาศรางวัล ASEAN NCAP Grand Prix Awards 2024 จัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปี โดยเริ่มจัดครั้งแรกในปี 2557 ด้วยเป้าหมายเพื่อยกระดับความปลอดภัยของยานยนต์ที่จำหน่ายในภูมิภาคอาเซียน โดยรางวัลนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบ ASEAN NCAP ซึ่งเป็นโครงการเพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ที่จำหน่ายใน 10 ประเทศของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งนอกจากมุ่งปกป้องผู้ขับขี่ และผู้โดยสารให้มีความปลอดภัยแล้ว ยังประเมินถึงสถานการณ์เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุให้แก่กลุ่มผู้มีความเสี่ยงบนท้องถนน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์อีกด้วย
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ All-New Mitsubishi Triton ยังได้รับการการันตีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ดาว จาก ANCAP (Australasian New Car Assessment Program) ปี 2567 ซึ่งเป็นการทด สอบเพื่อประเมินสมรรถนะด้านความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ ที่จำหน่ายในประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดย All-New Mitsubishi Triton เป็นรถกระบะดับเบิลแคบ 4 ประตูรุ่นแรก ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในการทดสอบประจำปี 2566-2568
ความสำเร็จทั้งหมดนี้เป็นการการันตีอย่างต่อเนื่องถึงคุณภาพเหนือระดับแห่งมาตรฐานด้านความปลอดภัย ของ All-New Mitsubishi Triton ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้ดีเอนเอของ Mitsubishi Motors เพื่อเติมเต็ม และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนไปข้างหน้า ด้วยจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย พร้อมมอบความปลอดภัย และอุ่นใจได้ในทุกเส้นทาง พร้อมด้วยความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นจากเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ความสงบเงียบ และสะดวกสบายตลอดการเดินทาง
* การติดตั้งถุงลม SRS 7 ตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับรูปแบบตัวถัง และรุ่นย่อย
Peugeot เปิดตัว Peugeot Approved & Certifies Used Car
Peugeot ประเทศไทย ภายใต้บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายแบรนด์รถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส Peugeot อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ตอกย้ำแบรนด์รถยนต์ยุโรประดับพรีเมียม จับมือ Master Certified Used Car ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์มือสองชั้นแนวหน้า เปิดเกมรุกด้วยโปรแกรม Peugeot Approved & Certifies Used Car ยกระดับราคาขายต่อรถยนต์ Peugeot ให้เป็นมาตรฐาน พร้อมสร้างความอุ่นใจ ไร้กังวล สำหรับผู้ใช้รถยนต์ Peugeot ทุกรุ่น
สุนทรพันธ์ เดชะเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Peugeot ประเทศไทย เผยว่า จากความนิยมในรถยนต์ Peugeot รุ่นต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น จึงมีการเปิดตัวโปรแกรมพิเศษ เพื่อตอบสนองความต้องการอย่างครบวงจร โดยโปรแกรมนี้มุ่งเน้นยกระดับราคาขายต่อรถยนต์ Peugeot ให้ได้มาตรฐาน และเพื่อให้ลูกค้าได้อุ่นใจ ไร้กังวล สร้างความมั่นใจสำหรับผู้ที่ประสงค์จะซื้อรถยนต์ Peugeot มือสอง ภายใต้การบริหารจัดการของผู้จัดจำหน่ายรถยนต์มือสองชั้นแนวหน้า อย่าง Master Certified Used Car ขอเชิญชวนผู้สนใจ เลือกสรร Peugeot รุ่นที่ใช่ ได้แล้ววันนี้ ที่ Peugeot Approve & Certified Used Car สาขาเกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ โดยจะมีการขยายการให้บริการในสาขาอื่นๆ ต่อไป
สมชาย ตระกูลภิรมย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจรถยนต์มือสอง บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า Master Certified Used Car คัดสรรยนตรกรรมคุณภาพหลากหลายเพื่อผู้บริโภค นับเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ชื่นชอบแบรนด์รถยนต์ยุโรปอย่าง Peugeot จะได้เลือกสรรยนตรกรรมที่โดดเด่น ด้วยดีไซจ์น และสมรรถนะ โดยเฉพาะเอสยูวีหลากรุ่น สภาพดี การันตีคุณภาพตามมาตรฐาน Peugeot มาพร้อมบริการอุ่นใจ ที่ช่วยให้คุณตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น
มั่นใจคุณภาพรถยนต์ Peugeot มาตรฐาน Peugeot Approved & Certified Used Car ทุกคันผ่านการรับรองโดย Peugeot ประเทศไทย
อายุการใช้งานไม่เกิน 6 ปี นับจากวันเริ่มรับประกันคุณภาพของโรงงาน และระยะทางการใช้งานไม่เกิน 120,000 กม.*
ไม่ได้รับความเสียหายจากอุบัติภัยต่างๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม และอุบัติเหตุชนหนัก*
ผ่านระบบการตรวจสอบรอบคัน 360 องศา มากถึง 258 รายการ ด้วยเครื่องมือตรวจวิเคราะห์เฉพาะ สำหรับรถยนต์ Peugeot*
ไม่มีการปรับแต่งเลขไมล์ พร้อมผ่านการตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษาตามระยะ โดยศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ*
ผ่านการตรวจสภาพสี และตัวถัง โดยการซ่อม และเปลี่ยนอะไหล่แท้ พร้อมปรับสภาพทั่วไป ที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน Peugeot*
ที่สำคัญ รถยนต์คุณภาพมาตรฐาน Peugeot Approved & Certified Used Car ยังมาพร้อมการขยายเวลารับประกันคุณภาพนานถึง 2 ปี หรือ 60,000 กม.* ให้คุณอุ่นใจสูงสุดด้วยมาตรฐาน
การบริการคุณภาพและอะไหล่แท้ 100 % และการดูแลจากทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ โดยศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ Peugeot พร้อมอุ่นใจด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. นาน 2 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด