การขับขี่รถยนต์ในระยะไกล สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ สงกรานต์ หรือแม้แต่ในช่วงวันหยุดยาววันนักขัตฤกษ์ ที่ปัจจุบันมีจำนวนรถเพิ่มมากขึ้นบท้องถนน ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรเชคสภาพรถยนต์ของตนเองก่อนออกเดินทางไกล หรืออาจจะเข้าศูนย์บริการรถยนต์ต่างๆ เพื่อความปลอดภัย และความราบรื่นในการเดินทาง ที่จะได้ไม่ต้องประสบกับปัญหารถเสียระหว่างทาง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ขอแนะนำ 10 จุดสำคัญที่ควรเชครถก่อนเดินทางไกล
1. แบทเตอรีรถยนต์
แบทเตอรี คือ เป็นอุปกรณ์สำคัญในรถยนต์ ทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บ และกระจายกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากแบทเตอรีเสีย หรือมีปัญ หา จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อรถยนต์ทั้งคัน ก่อนออกเดินทางทุกครั้งควรเชคขั้วแบทเตอรี และฉนวนสายไฟมีการเชื่อมต่อดีหรือไม่ หมั่นตรวจเชคทำความสะอาด คราบขี้เกลือบริเวณขั้วแบท เตอรี และเชคระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่กำหนดเสมอ เพราะถ้าเกิดปัญหาจนเกิดเป็นอาการรถสตาร์ทไม่ติด หรือระบบการทำงานต่างๆ ขัดข้องก็จะต้องเสียเวลาในการเดินทาง
2. ยางรถยนต์ และช่วงล่างของรถ
ยางรถยนต์ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญหลักของการการควบคุมรถ ดังนั้น ควรทำความรู้จัก และความเข้าใจกับเรื่องประเภทของยางรถยนต์แต่ละประเภทที่เหมาะสม และควรที่จะตรวจสอบยางรถยนต์ก่อนออกเดินทางทาง เพราะหากไม่มีการตรวจเชคยางรถยนต์ก่อนเดินทางไกล โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุก็จะยิ่งสูงขึ้น โดยทั่วไปควรเชคความลึกร่องดอกยาง และตรวจดูว่ายางรถมีรอยเจาะ ยางแตกลายงา ยางบวม ดอกยางหมดหรือไม่ ซึ่งร่องดอกยางควรมีความลึกไม่น้อยกว่า 1.6 มม. หากเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งก็ควรพิจารณาเปลี่ยนยางใหม่ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบชิ้นส่วนต่างๆ ของช่วงล่างด้วย เช่น ลูกหมาก ชอคอับรถ เป็นต้น เพราะระบบช่วงล่างของรถยนต์มีหน้าที่คุ้มกัน และรักษาสมดุลระหว่างรถกับพื้นผิวถนน ไม่ใช่เพียงแค่ส่วนหนึ่ง แต่เป็นทั้งหมดของส่วนที่อยู่ด้านล่างของรถยนต์
3. น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค และระบบเบรค
ควรตรวจเชคระดับน้ำมันเบรค และน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทางที่ดีควรมีน้ำมันเครื่องสำรองติดรถไว้อย่างน้อย 1 ลิตร เผื่อใช้ในยามฉุกเฉิน และอย่าลืมเชคน้ำมันเบรค ผ้าเบรครวมถึงระบบเบรคว่ามีความผิดปกติหรือไม่ หากน้ำมันเบรคลดลงต่ำกว่าระดับ Min หรือมีการลดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดการรั่วในระบบเบรค ควรนำรถเข้าตรวจเชคเพื่อความปลอดภัย
4. เชคหม้อน้ำ ท่อยาง และระบบหล่อเย็น
ระบบระบายความร้อน เป็นอีกส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์ เพราะถ้ามีความร้อนสะสมในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน บวกกับอุณหภูมิภายนอกที่ร้อน หากระบบระบายความร้อนไม่ดี หรือมีปัญหา อาจทำให้เครื่องยนต์นอคได้ การขับรถระยะไกล ทำให้เครื่องยนต์สะสมความร้อนปริมาณมาก หากระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ไม่ดีหรือมีปัญหา อาจทำให้เครื่องยนต์นอค
แนะนำว่าก่อนออกเดินทางควรเชคระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อพัก และหม้อน้ำ รวมไปถึงการทำงานของพัดลมหม้อน้ำ มอเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้เรียบร้อย
5. ระบบไฟส่องสว่าง
ระบบไฟส่องสว่างของรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟตัดหมอก ไฟฉุกเฉิน เป็นระบบที่ทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นในเวลากลางคืน หรือในสถานที่ที่แสงสว่างไม่เพียงพอ รวมถึงระบบไฟภายในตัวรถ ควรใช้งานได้ตามปกติ ส่องสว่างได้ดี เพื่อจะได้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขับรถในเวลากลางคืน
6. ที่ปัดน้ำฝน
ที่ปัดน้ำฝนเป็นอุปกรณ์ที่ถูกมองข้าม เมื่อพูดถึงการเชครถก่อนเดินทางไกล ในความเป็นจริงแล้วทัศนวิสัยขณะขับรถ คือ หัวใจสำคัญของความปลอดภัย ที่ปัดน้ำฝนทำหน้าที่ปัดน้ำ เศษใบไม้ เศษดินโคลน และฝุ่นละอองต่างๆ โดยที่ปัดน้ำฝนจะทำงานร่วมกับระบบน้ำฉีดล้างกระจกรถยนต์ที่ฉีดน้ำ ช่วยชะล้างทำความสะอาดกระจกบังลม ที่ปัดน้ำฝนจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญ เพราะเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าในระหว่างการเดินทางฝนจะตกหรือไม่
ดังนั้น อย่าลืมเชคว่าที่ปัดน้ำฝนรีดน้ำได้ดี มีอาการเปื่อย ยุ่ย หรือเสื่อมสภาพหรือไม่ หากมีอาการดังกล่าวควรเปลี่ยนใหม่ทันที หรือควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนทุกๆ 6-12 เดือน
7. น้ำมันเกีย ร์และน้ำมันคลัทช์
สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การจอดรถบนทางราบ และใส่เบรคมือ จากนั้นสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วเปลี่ยนเกียร์ ไล่ไปตั้งแต่ P จนถึง L เมื่อเปลี่ยนเกียร์ควรค้างไว้ที่ตำแหน่งนั้นๆ สักครู่ แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นเกียร์ถัดไป
เมื่อครบทุกเกียร์แล้วจึงเลื่อนมาเป็นเกียร์ P หรือ N และดึงก้านวัดระดับเกียร์ออกมาทำความสะอาด จากนั้นใส่ก้านวัดกลับเข้าไปแล้วดึงออกมาใหม่ ให้สังเกตดูว่าระดับน้ำมันที่ติดออกมาอยู่ตรงตำ แหน่งไหน หากยังอยู่ตรง H แสดงว่าระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติปกติ หรืออยู่ระหว่างกลาง Min กับ Max แสดงว่าระดับน้ำมันเกียร์ธรรมดาปกติ หากน้ำมันคลัทช์หายมากจนผิดปกติ แนะนำให้รีบหาสา เหตุ หรือนำรถไปเชค และแก้ไขทันที
8. แผ่นกรองอากาศ
การดูแล และการเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศในรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ระบบการทำงานของระบบปรับอากาศภายในรถยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แผ่นกรองอากาศเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปก ป้องรถจากสิ่งไม่พึงประสงค์ต่างๆ ภายนอก โดยแผ่นกรองอากาศที่อุดตันจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักกว่าปกติ ส่งผลให้ส่วนประกอบภายในเครื่องยนต์สึกหรอได้ การตรวจสอบแผ่นกรองอากาศใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เพียงเปิดตู้แอร์แล้วนำตัวกรองอากาศออกมาตรวจดู ทำการดูดสิ่งสกปรกออก หรือจะเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศใหม่ในกรณีที่จำเป็น
9. ระบบแตรรถยนต์
เมื่อพูดถึงจุดสำคัญของรถที่ควรเชคก่อนเดินทางไกล คนส่วนใหญ่มักไม่คิดว่าจะต้องตรวจระบบแตรด้วย ในความเป็นจริงแล้วแตรรถมีความสำคัญอย่างมาก เพราะในขณะขับขี่เราอาจจำเป็นต้องใช้แตรเพื่อสื่อสารและส่งสัญญาณกับรถคันอื่น ดังนั้น อย่าลืมเชคระบบแตรว่ายังเสียงดัง และลมแตรยังดีอยู่หรือไม่ด้วย
10. แผงควบคุมและหน้าปัด
ไฟเตือน และไฟแสดงการทำงานต่างๆ จะแจ้งเตือนสภาพของรถยนต์ที่อาจจะเกิดปัญหารุนแรง ไฟบางส่วนจะติดสว่างเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าหลอดไฟเหล่านี้ใช้งานได้ ควรตรวจสอบแผงควบคุม และหน้าปัดภายในรถว่าทำงานปกติหรือไม่ แสงไฟ ตัวเลขบนหน้าปัด และปุ่มควบคุมต่างๆ สามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ระยะไกล
สำหรับ 10 จุดที่ให้ข้อมูลนั้น อาจจะมีอีกหลายสิ่งที่ควรจะตรวจสอบ และไม่ควรหลงลืมเป็นอย่างยิ่งเมื่อต้องเดินทางไกล และสิ่งที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่ง คือ อุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ยามฉุกเฉิน อาทิ ยางอะไหล่ สเปรย์ปะยาง แม่แรง ชุดเครื่องมือในการถอดล้อ ที่เติมลมฉุกเฉิน สายพ่วงแบทเตอรี พกติดรถเอาไว้ให้อุ่นใจ ปลอดภัยตลอดเส้นทาง