ธุรกิจ
Aisin แนะนำแบทเตอรีรถนต์ 3 รุ่น รองรับระบบ Start-Stop-Urban Driving-Commercial use

บริษัท ไอชิน เอเซีย (ประเทศไทย) หรือ Aisin เร่งเครื่องรุกตลาดชิ้นส่วนอะไหล่ทดแทนในประเทศไทย เปิดตัวแบทเตอรีรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ รองรับรถสันดาป และไฮบริดตอบทเรนด์การใช้งานยุคใหม่ทั้งระบบ Start-Stop รถใช้งานทั่วไป รถเชิงพาณิชย์ และการขับขี่หลากรูปแบบด้วยเทคโนโลยี OEM นอกจากนี้ ยังเดินหน้าสร้างความเป็นผู้นำ Smart Aftermarket Hub เพื่อยกระดับตลาดอะไหล่ไทย รองรับดีมานด์การซ่อมบำรุงที่เพิ่มขึ้น โดย Aisin วางแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 500 รายการในปี 2569 เพื่อขยายพอร์ทสินค้า และเสริมความแข็งแกร่งด้านการแข่งขันในตลาด รวมถึงตั้งเป้ายอดขายแบทเตอรีทั้ง 3 รุ่น 80,000 ลูกภายใน 3 ปี
โซอิจิ ซาโตะ ประธานบริษัท ไอชิน เอเซีย (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคนี้จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นทเรนด์รถยนต์ไฟฟ้า แต่กลุ่มรถยนต์สันดาป และไฮบริดยังเป็นเซกเมนท์หลักที่กำหนดทิศทางของตลาดชิ้นส่วนอะไหล่ทดแทน โดยเฉพาะในไทยที่มีฐานรถยนต์สะสมกว่า 21 ล้านคัน ทำให้ดีมานด์ตลาด Aftermarket ในประเทศยังขยายตัวต่อเนื่อง และเป็นโอกาสสำคัญต่อการเติบโตของแบรนด์ Aisin ในระยะยาว และธุรกิจ Aftermarket นับเป็นหนึ่งในธุรกิจของกลุ่ม Aisin ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อพอร์ทโฟลิโอของบริษัทในภูมิภาค โดยมีฐานการผลิตชิ้นส่วน และธุรกิจอะไหล่ทดแทนที่แข็งแรงในอาเซียน ทำให้มีความพร้อมทั้งด้านไลน์ผลิตภัณฑ์ เครือข่ายการจำหน่าย และความสามารถในการผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้รถจริงในแต่ละประเทศได้อย่างรวดเร็ว
พฤทธิ์ ตีระรัตน์ รองประธานบริษัท ไอชิน เอเซีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การดำเนินงานปี 2568 ถือเป็นก้าวสำคัญของ Aisin Aftermarket ด้วยนโยบายการทำตลาด จากการยกระดับธุรกิจไปสู่ศูนย์อะไหล่ทดแทนที่ครบวงจร หรือ Affordable Part Mall ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้รถ โดยปีนี้ Aisin เพิ่มรายการสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องกว่า 200 รายการ รองรับรถยนต์หลากหลายรุ่นในตลาดประเทศไทย พร้อมมุ่งเน้นคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐาน และราคาเข้าถึงง่าย มอบความคุ้มค่าสูงสุดให้แก่ผู้ซื้อ สร้างประสบการณ์การเลือกซื้อที่สะดวกเหมือนเดินห้าง ด้วยแนวคิด ครบ จบ ในที่เดียว และสร้างความน่าเชื่อถือให้ Aisin เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคนึกถึงเป็นอันดับแรกเมื่อต้องการหาอะไหล่ทดแทนในราคาที่จับต้องได้ ส่งผลให้ภาพรวมยอดขายในช่วง 3 ไตรมาสของปีนี้เพิ่มขึ้น 15 % สะท้อนศักยภาพของ Aisin ในการทำตลาดอะไหล่ทดแทนในประเทศไทย โดยกลุ่มที่มียอดขายโดดเด่นเห็นได้ชัด 3 อันดับ ได้แก่ กลุ่มสินค้าคลัทช์ น้ำมันหล่อลื่น และปั๊มน้ำ
ส่วนแผนปี 2569 บริษัทยังคงเน้นสร้างแบรนด์ภายใต้แนวคิด "คุณภาพต้องมาก่อน" เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งหัวใจสำคัญของแผนนี้ คือ ยกระดับให้ Aisin (ประเทศไทย) เป็น Smart Aftermarket Hub โดยการสร้างฐานข้อมูลอะไหล่ทดแทน ที่ถูกต้อง แม่นยำ เพื่อลดปัญหาการเบิกอะไหล่ไม่ตรงรุ่น และเกิดปัญหาการติดตั้ง หรือปัญหาการเคลมสินค้าตามมา ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่ตลาดอะไหล่รถยนต์ในประเทศไทยเท่านั้น ฐานข้อมูลอะไหล่รถยนต์นี้ยังครอบคลุมถึงประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซียนด้วย ขณะเดียวกัน บริษัทเดินหน้าเสริมแกร่งพอร์ทผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบทเตอรี 12 โวลท์ จำนวน 3 รุ่น ที่เป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท และในอนาคตยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์เทรนด์อุตสาหกรรมยานยนต์ไฮบริด และรถไฟฟ้าอีกด้วย
“ตลาดแบทเตอรีตะกั่วกรดสำหรับรถยนต์สันดาปในอาเซียนมีฐานขนาดใหญ่ และมีความมั่นคงเชิงโครงสร้าง แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมจะเริ่มเปลี่ยนทิศทางไปสู่รถไฟฟ้าก็ตาม ทั้งนี้ จากการติดตามการเติบโตพบว่าในปี 2566 มูลค่าตลาดนี้อยู่ที่ 68.35 พันล้านบาท ซึ่งหากประเมินในระยะยาวตลาดนี้จะยังคงเติบโตเฉลี่ยสะสม/ปี (CAGR) ที่ 6.35 % ระหว่างปี 2567-2577 และจะแตะระดับมูลค่า 136.50 พันล้านบาท ภายในสิ้นปี 2577 โดยอัตราการเติบโตนี้ยังมีความน่าสนใจเนื่องจากสูงกว่าอัตราการเติบโตของตลาดแบทเตอรีตะกั่วกรดทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ประมาณ 3.0 % CAGR การเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยนี้ ยังสะท้อนว่าอาเซียนยังคงอยู่ในช่วงที่มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนยานยนต์ต่อประชากร และความต้องการเปลี่ยนอะไหล่ทดแทนที่เร็วขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศร้อนชื้นที่ลดอายุการใช้งานของแบทเตอรี”
ปีนี้เป็นปีที่ตลาดอะไหล่มีความเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยภายนอกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ ภัยพิบัติ และน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ รวมถึงต้นทุนต่างๆ ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้รถจำนวนมากเลือกซ่อมบำรุงรถเดิมแทนการซื้อรถใหม่ ซึ่งเป็นตัวเร่งให้ตลาดอะไหล่ชิ้นส่วนทดแทนเติบโตต่อเนื่องในทุกเซกเมนท์ โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะ และรถใช้งานเชิงพาณิชย์ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ และสภาพถนน ทำให้เกิดดีมานด์ในส่วนอุปกรณ์ทดแทนมากขึ้น ซึ่งตรงกับความเชี่ยวชาญของ Aisin ในการนำเสนออะไหล่คุณภาพ OEM ที่สามารถรองรับการใช้งานหนักในสภาพการขับขี่ของประเทศไทยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ Aisin พร้อมชูจุดแข็งด้านมาตรฐานการผลิตระดับโลก ควบคู่กับการทำกิจกรรมสนับสนุนร้านอะไหล่ ณ ช่องทางขายเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นหนึ่งในทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการอะไหล่ที่มีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้
จิตติ สุขพูล ผู้จัดการอาวุโสแผนกการตลาด บริษัท ไอชิน เอเซีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดแบทเตอรีรถยนต์ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตที่ดี โดยคาดว่าจะมีอัตราขยายตัวเฉลี่ยปีละ 17 % ระหว่างช่วงปี 2566-2573 จากนโยบายภาครัฐในการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า และฐานกลุ่มผู้ใช้รถยนต์สันดาปยังคงเป็นตลาดที่มีเสถียรภาพจากฐานรถเก่าในท้องถนน จึงเป็นโอกาสบริษัทในการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์สู่ตลาดแบทเตอรี โดยได้เปิดตัว และวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบทเตอรีขนาด 12 โวลท์ ภายใต้แบรนด์ Aisin มาพร้อมสโลแกน “ขุมพลังใหม่ มั่นใจทุกเส้นทาง” จำนวน 3 รุ่น ที่ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป จนถึงรถสมรรถนะสูงในกลุ่มไฮบริด ตอบโจทย์ทุกการใช้งานและพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้รถ ประกอบด้วย
Aisin SMF รุ่น Endurance Pro: แบทเตอรีชนิดไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ออกแบบมาเพื่อความทนทาน ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ที่มีคุณสมบัติการรับกระแสไฟชาร์จเข้าที่ดี เพื่อมอบประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และสะดวกสบายสูงสุด พร้อมสตาร์ททุกครั้งทั้งระยะใกล้-ไกล เหมาะสำหรับผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปที่ต้องการความเสถียร
Aisin EFB รุ่น Endurance Pro+: แบทเตอรีที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้ของรถยนต์ในยุคใหม่ที่มีระบบ Start-Stop ที่ให้พลังงานสม่ำเสมอมีความเสถียร ปลอดภัยด้วยระบบซีลเขาวงกต ยืดอายุการงานให้ยาวนานยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ต้องการความมั่นใจในทุกการสตาร์ท และการขับขี่ในเมืองที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
Aisin AGM รุ่น Supreme-X: แบทเตอรีประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเทคโนโลยีรถยนต์สมัยใหม่ ส่งมอบพลังงานที่มั่นคง ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแม้ไฟไม่เต็ม (PSOC) ปลอดภัย และทนทาน รองรับกระแสไฟชาร์จได้ทุกสภาวะ เหมาะสำหรับรถที่มีระบบ Start-Stop ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ไฮบริด
ส่วนแผนการทำตลาดนั้น จะมุ่งนำเสนอพโรดัคท์ภายใต้แนวคิด "แบทเตอรีคุณภาพคุ้มค่า พร้อมบริการที่ดีสำหรับคุณ" ที่สื่อสารจุดแข็งด้านคุณภาพตามมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ การให้บริการที่รวดเร็ว และการรับประกันคุณภาพสินค้าที่ชัดเจน คือ รุ่น SMF ที่ 12 เดือน รุ่น EFB ที่ 15 เดือน และรุ่น AGM ที่ 18 เดือน หรือระยะทาง 25,000 กม. เท่ากันทุกรุ่น พร้อมการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ แบรนด์ Aisin ให้เป็น แบทเตอรีคุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย มีเงื่อนไขหลังการขายชัดเจน ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใช้รถยนต์ทั่วไป และอู่ซ่อมรถได้รับรู้ พร้อมวางจำหน่ายผ่านช่องทางเครือข่ายร้านขายแบทเตอรี หรือร้านอะไหล่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และอนาคตจะขยายไปยังเมืองหลักๆ กว่า 600-800 ร้านค้า รวมถึงร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายเพิ่มช่องทางขายผ่าน E-Commerce และขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ต่อไป
“แม้ตลาดจะมีความท้าทายจากการแข่งขันที่มีผู้เล่นรายใหญ่ แต่ยังมีช่องว่างทางการตลาดให้เราเข้าเจาะตลาด โดยเราจะนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ในด้านของคุณภาพ และราคาที่เข้าถึงง่าย เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งาน โดยตั้งเป้ายอดขายแบทเตอรีในปี 2569 ประมาณ 20,000 ลูก และภายใน 3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 60,000-80,000 ลูก และในอนาคตมีแผนพัฒนาแบทเตอรีสำหรับยานยนต์ไฮบริด และไฟฟ้าเพิ่มเติมเพื่อขยายธุรกิจสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์แบทเตอรีอีกด้วย”

บทความแนะนำ

