Quattroruote ลองของแรง
AUDI RS 6 AVANT
สเตชันแวกอนพละกำลังสูงถูกปรับแต่งให้ลงตัวขึ้นในหลายด้าน หนึ่งในนั้น คือ กำลังสูงสุดที่เพิ่มขึ้นอีก 30 แรงม้าจากรุ่นก่อนหน้านี้ และความล้ำสมัยของระบบขับเคลื่อนที่ถูกเสริมเข้ามาให้สมรรถนะเร้าใจได้อีก
เชื่อว่าเหล่าผู้ชื่นชอบรถยนต์จะต้องมีความฝันเอาไว้ในใจไม่มากก็น้อย กับการมีรถยนต์คู่เอาไว้อย่างน้อย 2 คัน คันหนึ่งเป็นรถยนต์สำหรับใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ส่วนอีกคัน คือ รถยนต์แบบเน้นสมรรถนะ สำหรับการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ รวมถึงการขับแบบจับเวลาในสนามแข่ง แต่ความในดังกล่าวก็ไม่อาจะเป็นจริงได้ง่ายๆ จากข้อจำกัดทางด้านรายได้ของหลายคน รวมถึงบางคนมีที่จอดรถในบ้านเพียงพอแค่หนึ่งคันเท่านั้น หากต้องเลือกรถยนต์เพียงหนึ่งคันที่ตอบสนองความต้องการได้พร้อมกัน เราเชื่อว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมี AUDI RS6 AVANT (เอาดี อาร์เอส 6 อาวองท์) รวมอยู่ด้วย เป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปีแล้วที่สเตชันแวกอนพละกำลังสูงรุ่นนี้สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้รูปทรงที่แฝงความดุดันอย่างลงตัวก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นของสเตชันสแวกอนรุ่นนี้เช่นกัน กับขุมกำลังสุดดุดันที่พร้อมปลดปล่อยพละกำลังออกมาเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ เรานึกย้อนไปถึงรุ่นแรกของสายพันธุ์ตัวแรงในปี 2002 กับรุ่นปัจจุบันที่มีการติดตั้งระบบอีเลคทรอนิคเข้ามาเต็มพิกัด กับการขับขี่ที่เฉียบคมกว่าเดิม จากสเตชันแวกอนที่ตอบสนองด้านความสะดวกสบาย กลายเป็นรถยนต์สมรรถนะสูงเทียบชั้นรถสปอร์ทพันธุ์แท้ กับอัตราเร่งที่ฉับไวในพริบตา
รุ่น PERFORMANCE
ราคาจากผู้ผลิต
148,900 ยูโร (ประมาณ 5,840,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
เครื่องยนต์
เบนซิน เทอร์โบคู่ วี 8 สูบ
ความจุ 3,996 ซีซี
กำลังสูงสุด 630 แรงม้า
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
จากผู้ผลิต 7.9 กม./ลิตร
จากการทดสอบ 8.2 กม./ลิตร
ความคุ้มค่าโดยรวม
22.26 ยูโร/100 กม.
อัตราการปล่อยไอเสีย
จากผู้ผลิต 289 กรัม/กม.
จุดแข็ง
สิ่งที่รถยนต์รุ่นนี้ทำได้ดีเกินคาด คือ อัตราเร่งอันฉับไว แม้ตัวถังจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่การเข้าโค้งยังทำได้เฉียบคม ภายใต้น้ำหนักโดยรวมที่ค่อนข้างมาก เป็นผลดีจากการปรับแต่งอย่างชาญฉลาดจากผู้ผลิต ไม่ว่าจะเป็น ระบบหักเลี้ยวล้อคู่หลัง และการส่งกำลังของชุดเฟืองขับเคลื่อนที่มีความลงตัวอย่างยอดเยี่ยม สุดท้าย คือ สมรรถนะอันดุดัน อัตราเร่งในทางตรงของรถคันนี้ไม่แพ้รถสปอร์ทพันธุ์แท้เลยทีเดียว
จุดอ่อน
รุ่น PERFORMANCE ติดตั้งระบบที่มีความทันสมัยมากมาย ช่วยให้การขับขี่มีความเร้าใจยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์หลายรายการกลับต่องจ่ายเงินเพิ่ม เช่น ท่อไอเสียแบบสปอร์ท และระบบรองรับแบบแปรผันการตอบสนองได้ นอกจากนี้ ภายใต้สมรรถนะ และการขับขี่ที่รองรับพละกำลังได้ดี แต่น้ำหนักโดยรวมของรถคันนี้ยังค่อนข้างสูงเกินไป ส่งผลต่อการถ่ายเทน้ำหนักขณะเข้าโค้ง
แรงขึ้นมาอีกขั้น
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2019 รุ่น RS6 AVANT จัดเป็นตัวแรงลำดับที่ 4 ของสายพันธุ์กับการพัฒนาขึ้นมาอีกขั้น เสริมความโดดเด่นให้กับตัวรถมากยิ่งขึ้น รุ่นที่เรานำมาทดสอบ คือ รุ่นย่อย PERFORMANCE กับการจ่ายเงินเพิ่มอีกกว่า 10,000 ยูโร จากรุ่นปกติ แต่ได้รับการปรับปรุงในหลายส่วน รวมถึงบรรดาอุปกรณ์ควบคุมด้วยอีเลคทรอนิคที่ทันสมัยติดตั้งมาให้ตั้งแต่รุ่นพื้นฐาน (เช่น ไฟหน้าแบบ แอลอีดี นำทางด้วยเลเซอร์ ระบบเฟืองท้ายแบบสปอร์ท และระบบบังคับเลี้ยวล้อคู่หลัง) ช่วยให้การใช้งานมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์เบนซิน เทอรืโบคู่ แบบ วี 8 สูบ ขนาด 4.0 ลิตร ได้กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นมาอีก 30 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดอีก 51.0 กก.-ม. ความแตกต่างไม่ใช่แค่พละกำลังโดยรวมเท่านั้น ทางผู้ผลิตยังปรับแต่งการตอบสนองได้ฉับไวยิ่งขึ้นด้วย อัตราทดเกียร์ถูกปรับแต่งให้มีความกระชับยิ่งขึ้น และชุดส่งกำลังที่มีความแม่นยำกว่าเดิม เหนือสิ่งอื่นใด คือ การลดน้ำหนักโดยรวมลงมาเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็น ล้อแมกแบบขึ้นรูปชิ้นเดียวขนาด 22 นิ้ว และการลดวัสดุดูดซับเสียงรบกวนจากภายนอก มีผลพลอยได้ที่ดี คือ ความเร้าใจของเครื่องยนต์ได้มีอรรถรสมากยิ่งขึ้น แม้ต้องยอมเสียความรื่นรมย์จากชุดเครื่องเสียงไปบ้าง
แม้รูปทรงของตัวรถโดยรวมจะบ่งบอกความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ของ RS6 ตัวถังมีความใหญ่โตพอสมควร แต่สิ่งที่ว่ามาก็ถูกชดเชยได้ด้วยการปรับปรุงในหลายส่วน (เรานำเสนอในรายละเอียดในหัวข้อการทดสอบสมรรถนะในหน้าถัดไป) ส่งผลให้สเตชันแวกอนคันนี้มีความลงตัวมากยิ่งขึ้น สมกับการเป็นตัวแรงจากเมือง INGOLSTADT ที่พุ่งทะยานบนพื้นถนน บุคลิกของตัวรถมีความหลากหลายตามแต่การปรับแต่งของผู้ขับ สามารถปรับแต่งระดับการตอบสนองได้หลายหัวข้อเลยทีเดียว โดยมีปุ่มใช้งานบนพวงมาลัย สามารถบันทึกในหน่วยความจำได้ 2 ชุดด้วยกัน ยกตัวอย่าง คือ การปรับแต่งแบบเน้นความสะดวกสบาย ตัวรถจะตอบสนองอย่างนุ่มนวลใกล้เคียงกับรุ่น A6 TDI (เอ 6 ทีดีไอ) โดยมีระดับเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ และระบบรองรับที่ยังใกล้เคียงกันอยู่ เมื่อผู้ขับลองปรับแต่งการตอบสนองเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง แผงมาตรวัดก็จะเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลเช่นกัน กลายเป็นรถยนต์ที่มีความดุดัน และดิบห้าวทันใด ตัวถังที่มีความยาวถึง 5 ม. และน้ำหนักมากกว่า 2 ตัน อาจมีอาการโคลงให้สัมผัสตามน้ำหนักของตัวรถ แต่การตอบสนองของการขับขี่ยังคงทำได้เฉียบคมอย่างยอดเยี่ยม อัตราเร่งมีความฉับไว ราวกับรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบากว่านี้ประมาณ 300 กก. สามารถเข้าโค้งได้อย่างฉับไว และกดคันเร่งออกจากโค้งได้อย่างมั่นคง เป็นผลดีจากความหนึบแน่นของระบบรองรับ และการตอบสนองของเครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ เมื่อกดปุ่มปรับโหมดการขับขี่ รถคันนี้ก็กลับมาสู่ความนุ่มนวลได้ทันทีตามต้องการ
พื้นที่ใช้สอย และทัศนวิสัย
การประเมินผลของ QUATTRORUOTE
เบาะผู้ขับ •••••
เบาะนั่งพร้อมระบบระบายอากาศ คือ หนึ่งในสิ่งบ่งบอกบุคลิกของรถรุ่นนี้ นั่นคือ ความสปอร์ทในแง่ของรูปทรง แต่ตอบสนองเรื่องความสะดวกสบายได้ครบถ้วน
แผงหน้าปัด และปุ่มใช้งานต่างๆ •••••
ปุ่มใช้งานแบบดั้งเดิมมีจำนวนลดลงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ การใช้งานแบบดิจิทอลมีความละเอียด ตอบสนองแม่นยำ ส่วนใช้งานต่างๆ สามารถใช้งานได้สะดวก และมีเสียงประกอบการใช้งานที่เหมาะสม การออกแบบโดยรวม และวัสดุที่เลือกใช้มีความลงตัวเช่นกัน
แผงหน้าปัด •••••
การแสดงผลแบบดิจิทอลเต็มพิกัด หน้าแบบ VIRTUAL COCKPIT คือ หนึ่งในออพชันที่โดดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ในแง่ของการใช้งาน มีรูปแบบการแสดงผลสำหรับรุ่น RS โดยเฉพาะ แสดงผลได้หลากหลายรูปแบบ
ระบบความบันเทิง •••••
ระบบเครื่องเสียงอาจถูกใช้งานมาเป็นเวลา 2-3 ปีมาแล้ว แต่การใช้งานโดยรวมยังคงมีความทันสมัยอย่างน่าพอใจ รองรับการสั่งงานด้วยเสียง การแสดงผลของกราฟิคมีความสวยงาม และคมชัด
ระบบปรับอากาศ •••••
ระบบปรับอากาศมีการทำงานที่ละเอียด และแม่นยำ สามารถปรับอากาศอัตโนมัติได้ถึง 4 โซน ปรับอุณหภูมิได้อย่างต่อเนื่อง รับประกันได้ว่าผู้โดยสารในแต่ละตำแหน่งจะได้รับความสะดวกสบายอย่างทั่วถึง
ทัศนวิสัย ••••
จุดอับสายตาส่วนแรกที่เราเจอ คือ กระจกมองข้างที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ บดบังทัศนวิสัยเล็กน้อยขณะทำการเลี้ยวรถ นอกเหนือจากนี้แล้ว ทัศนวิสัยโดยรวมมีความปลอดโปร่งดี ระบบไฟหน้าแบบแปรผันการส่องสว่างทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม
คุณภาพการประกอบ •••••
RS6 เป็นรถยนต์ที่ถูกใส่ใจในรายละเอียดได้อย่างน่าพอใจมาก วัสดุมีคุณภาพสูง การประกอบที่แน่นหนาไร้ที่ติ ใส่ใจในรายละเอียดแทบทุกสัดส่วน สามารถเลือกรูปแบบการตกแต่งได้ตามใจผู้เป็นเจ้าของ
อุปกรณ์ใช้งาน •••••
รถยนต์สัญชาติเยอรมันมีรายการของอุปกรณ์เลือกติดตั้งมากมาย AUDI รุ่นนี้ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน มีอุปกรณ์ติดตั้งมาจากโรงงานอย่างครบครัน และยังมีอุปกรณ์เลือกติดตั้งอีกมากมายหลายรายการ
ระบบความปลอดภัย/ระบบช่วยเหลือการขับขี่ •••••
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ระดับ 2 มีติดตั้งหลายรายการ แม้อีกหลายระบบจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม ตามแต่ระดับของการตกแต่ง และรุ่นย่อยของสเตชันแวกอนรุ่นนี้
พื้นที่ใช้สอย •••••
การโดยสารโดยรวมให้ความสะดวกสบายอย่างทั่วถึง หากมีจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน เบาะแถวที่ 3 มีรูปแบบการนั่งแบบ 2+1 คน ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าประหลาดใจเท่าใดนัก เนื่องจากเบาะแถวที่ 2 ค่อนข้างกินเนื้อที่ไปพอสมควร
ที่เก็บสัมภาระท้าย ••••
ความจุของที่เก็บสัมภาระท้าย คือ 407 ลิตร เท่ากับ A6 ในแต่ละรุ่นย่อย สิ่งที่เหนือกว่าของตัวแรงรหัส RS คือ ช่องเก็บของที่มีการตกแต่งเป็นพิเศษ ขนสัมภาระได้สะดวก และวัสดุที่เลือกติดตั้งมีคุณภาพสูง
เครื่องยนต์แรงดันสูง แต่เบากว่าเดิม
ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบคู่ตามที่เห็นในรูปด้านล่าง วางตำแหน่งตรงกลางของเครื่องยนต์แบบ วี 8 ทำมุม 90 องศา มีการไหลเวียนของอากาศที่ไหลลื่นขึ้น และสามารถรองรับการบูสท์ได้มากกว่าระดับ 0.2 บาร์ เทียบกับรุ่นพื้นฐานของ RS6 ผลลัพธ์ คือ กำลังสูงสุดที่เพิ่มขึ้นจาก 600 เป็น 630 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 81.6 กก.-ม. เป็น 86.7 กก.-ม. นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่งระบบส่งกำลังด้วย กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ TIPTRONIC ปรับปรุงซอฟท์แวร์ที่ช่วยให้อัตราทดมีความกระชับยิ่งขึ้น ขณะที่การตอบสนองของระบบเฟืองส่งกำลัง ตามด้วยการปรับปรุงในส่วนของเครื่องยนต์กลไก รูปแบบโดยรวมยังคงเหมือนกับรุ่นพื้นฐาน แต่มีการเปลี่ยนอุปกรณ์เพิ่มเติมที่ช่วยลดขนาดโดยรวมลงได้ รวมถึงน้ำหนักด้วย ทำให้การตอบสนองโดยรวมมีความรวดเร็วกว่าเดิม สำหรับการส่งกำลังของแรงบิดไปยังเพลาขับแต่ละตำแหน่ง ภายใต้การขับขี่ตามปกติ อัตราส่วนการส่งกำลังของล้อคู่หน้า/หลัง คือ 40:60 แต่ระบบสามารถแปรผันการส่งกำลังที่ 70:30 หรือ 15:85 ตามแต่สภาวะการขับขี่ ในส่วนของอัตราเร่ง รุ่น PERFORMANCE ติดตั้งชุดเฟืองส่งกำลังส่วนท้ายแบบสปอร์ท (ตามรูปประกอบด้านล่าง) ช่วยให้การส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังสามารถแปรผันแยกกันได้ในแต่ละฝั่ง โดยพื้นฐานแล้ว คือ ระบบกระจายแรงบิดแบบแปรผันที่ช่วยให้รถทะยานไปข้างหน้าได้อย่างฉับไว ลดอาการอันเดอร์สเตียร์ขณะกดคันเร่งออกจากโค้ง นอกจากนี้ยังทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ มีการทำงานที่ไหลลื่นยิ่งขึ้น เสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ลดลง และการทำงานของชุดเฟืองท้ายที่เงียบกว่าเดิม ช่วยลดน้ำหนักลงถึง 5 กก. และซุ่มเสียงของเครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบมีความเร้าใจกว่าเดิม สุดท้าย คือ ล้อแมกขนาด 22 นิ้วแบบหล่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว ช่วยลดน้ำหนักในล้อแต่ละตำแหน่งได้ถึง 5 กก. และมีการปรับปรุงระบบระบายความร้อนจากชุดเบรคที่ดีขึ้นด้วย
ระบบไฮบริดขนาดเล็ก
ทางเลือก 2 รูปแบบที่ช่วยลดค่าไอเสียได้ดี อย่างแรก คือ ชุดสร้างกระแสไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้แบบ 48 โวล์ท ขณะที่ผู้ขับยกคันเร่ง และเก็บกระแสไฟฟ้าไว้ในชุดแบทเตอรีแบบ ลิเธียม-ไอออนขนาดเล็ก และทำงานขณะทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ฉับไวยิ่งขึ้น และเงียบกว่าเดิม ถัดมา คือ ระบบที่สามารถเลือกการทำงานของชุดลูกสูบได้ ไม่ว่าจะเป็นจำนวน 2, 3, 5 และ 8 ลูกสูบก็ตาม ภายใต้สภาวะที่ไม่ต้องการพละกำลังมากนัก โดยจะทำการปิดชุดวาล์วลง
ข้อมูลจำเพาะ
ข้อมูลรถทดสอบจากผู้ผลิต
เครื่องยนต์
• เบนซิน วางตามยาว
• แบบ วี 8 สูบ (ทำมุม 90 องศา)
• กระบอกสูบ 86.0 มม.
• ช่วงชัก 86.0 มม.
• ความจุ 3,996 ซีซี
• กำลังสูงสุด 630 แรงม้า ที่ 6,000 รตน.
• แรงบิดสูงสุด 86.7 กก.-ม. ที่ 2,300-4,500 รตน.
• เสื้อสูบผลิตจากวัสดุโลหะน้ำหนักเบา
• ดับเบิล โอเวอร์เฮด แคมชาฟท์ , วาล์วแปรผัน 2 ชุด , ระบบตัดการทำงานทั้ง 4 สูบ , 4 วาล์ว ต่อลูกสูบ (สายพานโซ่)
• ระบบฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง , เทอร์โบคู่ และอินเตอร์คูเลอร์
• ชุดกรองไอเสีย
• ระบบไฮบริดขนาดเล็ก แบบ 48 โวลท์
ระบบส่งกำลัง
• ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
• ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
• ชุดเฟืองท้าย แปรผันการส่งกำลัง
รูปแบบตัวถัง
• ตัวถังใช้วัสดุโลหะ ผสมอลูมิเนียมบางส่วน แบบ 2 กล่อง 5 ประตู 5 ที่นั่ง
• ระบบรองรับด้านหน้าแบบ ปีกนกคู่ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง
• ระบบรองรับด้านหลัง แบบ มัลทิลิงค์ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง
• ระบบชอคอัพ ไฮดรอลิค แปรผันการอีเลคทรอนิค
• ระบบบังคับเลี้ยวล้อคู่หลัง
• ระบบเบรคแบบจาน วัสดุคาร์บอนเซรามิค พร้อมช่องระบายอากาศ เอบีเอส และอีเอสพี
• ระบบบังคับเลี้ยว ฟันเฟือง และตัวหนอน แปรผันด้วยไฟฟ้า
• ความจุถังน้ำมัน 73 ลิตร
ยาง
• CONTINENTAL SPORTCONTACT 7 ขนาด 285/30ZR22 101Y
• ชุดอุปกรณ์ปะยาง
มิติตัวถัง และน้ำหนัก
• ระยะฐานล้อ 2,930 มม.
• ความกว้างของฐานล้อ คู่หน้า 1,670 มม. คู่หลัง 1,650 มม.
• ความยาว 5,000 มม. กว้าง 1,950 มม. สูง 1,490 มม.
• น้ำหนักโดยรวม 2,090 กก. รวมน้ำหนักบรรทุกสุงสุด 2,740 มม. น้ำหนักลากจูงสูงสุด 2,100 กก.
• ความจุที่เก็บสัมภาระท้าย 565-1,680 ลิตร
ผลิตที่
• เมือง NECKARSULM (ประเทศเยอรมนี)
การทดสอบในสนาม VAIRANO
การจับเวลาในสนามแข่งแห่งนี้ แสดงให้เห็นว่า เวลาต่อรอบเร็วขึ้นอีก 1.13 วินาที เมื่อเทียบกับรุ่นพื้นฐาน รุ่นย่อย PERFORMANCE มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นมาอีกระดับ ภายใต้การขับขี่บนทางโค้งที่หลากหลาย เป็นผลดีจากการเข้าโค้งได้อย่างมั่นคง และระบบเฟืองขับเคลื่อนที่มีการส่งกำลังได้อย่างยอดเยี่ยม การส่งกำลังจากล้อคู่หลังทำได้อย่างดุดันเช่นกัน มีอาการอันเดอร์สเตียร์น้อยมากขณะกดคันเร่งออกจากโค้ง โดยรวมแล้ว หากพิจารณาจากน้ำหนักของตัวรถที่ค่อนข้างมาก RS6 AVANT ขับขี่ได้สนุกเร้าใจ เสริมความลงตัวด้วยยาง และระบบเบรกที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณลักษณะการขับขี่มีความลงตัวยิ่งขึ้น