ธุรกิจ
Omoda & Jaecoo เสนอรถยนต์ตระกูล Super Hybrid System (SHS)

Omoda & Jaecoo (โอโมดะ แอนด์ เจคู) นำเสนอรถยนต์ Super Hybrid System (SHS) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างรุ่น Jaecoo 5 BEV (เจคู 5 บีอีวี) โดยบริษัทฯ พร้อมดำเนินตามวิสัยทัศน์ “Born Global, Born NEV” แม้ว่าจะเป็นแบรนด์รถยนต์ใหม่ในท้องตลาด แต่เป็นแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
ชอว์น ฉู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Omoda & Jaecoo ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาของบริษัทฯ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การเริ่มเข้าสู่ตลาดทวีปยุโรป และขยายตลาดไปทั่วโลก รวมไปจน ถึงการได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องตามแนวคิด “Global Standard, Global Quality” ไปจนถึงการก้าวขึ้นเป็นผู้นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮบริดของโลก Omoda & Jaecoo ยกระดับตน เอง “จากก้าวแรกสู่ก้าวกระโดด” นับตั้งแต่การเปิดตัวแบรนด์เป็นครั้งแรกในโลกในงาน Shanghai Auto Show 2023 จนมาถึงหลักชัยสำคัญในงาน Shanghai Auto Show 2025 กล่าวโดยสรุปแล้ว Omoda & Jaecoo ก้าวสู่ยุคสมัยใหม่ของการยกระดับความก้าวหน้าในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ไปอีกขั้นอย่างเป็นทางการ
Omoda & Jaecoo สร้างนิยามใหม่ของตลาดรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดโลก พร้อมปฏิวัติด้านระยะทางการขับขี่
ด้วยความตั้งใจให้เห็นถึงสมรรถนะของ Jaecoo 7 SHS (เจคู 7 เอสเอชเอส) ในการขับขี่ที่สามารถขับได้ไกล จึงถูกพิสูจน์ด้วยการจัดกิจกรรมการขับขี่ Global Super Hybrid Marathon นับถึงปัจจุ บัน รถยนต์รุ่น Jaecoo 7 SHS บรรลุเป้าหมายการขับขี่ตามกิจกรรม Super Hybrid Marathon แล้วใน 16 ประเทศ โดยในประเทศไทยได้มีการเข้าร่วม Super Hybrid Marathon สามารถวิ่งได้ถึง 1,433 กม. รวมครบสะสมระยะทางได้กว่า 100,000 กม. ตามสภาพการทดสอบบนท้องถนนจริง เบื้องหลังระยะทางที่เยี่ยมยอดนี้ คือ เทคโนโลยีระบบซูเพอร์ไฮบริด Super Hybrid System (SHS) ซึ่ง Omoda & Jaecoo เป็นผู้นำของโลกในตลาดพลัก-อิน ไฮบริด ที่จะสร้างนิยามใหม่ของการเดินทางด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า อัตราการใช้พลังงาน และนวัตกรรม
ในฐานะโซลูชันพลังงานใหม่ที่ดีที่สุดของโลก เทคโนโลยี Super Hybrid System (SHS) เกิดจากการผสาน 3 แกนหลักอันล้ำหน้าในอุตสาหกรรมมาสู่หนึ่งพแลทฟอร์ม ได้แก่ เครื่องยนต์ไฮบริดแบบเฉพาะ (DHE) 1.5 TDGI รุ่นที่ 5 ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า สำหรับการวิ่งด้วยไฟฟ้า และ 240 แรงม้า สำหรับการวิ่งด้วยน้ำมัน ระบบส่งกำลังไฮบริดต่อเนื่องแบบอัจฉริยะ (DHT) และแบทเตอ รีประสิทธิภาพสูงสำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ การผสานเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้รถยนต์ Jaecoo 7 SHS มีประสิทธิภาพด้านการระบายความร้อนดีขึ้นร้อยละ 44.5 มีอัตราการใช้พลังงานน้ำ มัน และพลังงานไฟฟ้าจากแบทเตอรีที่ต่ำ ที่ 3.1 ลิตร/100 กม. และรองรับการขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 151.6 กม. หรือใช้ขับขี่ไปทำงาน และกลับบ้านนานประมาณ 1 สัปดาห์จากการประ จุไฟเพียงครั้งเดียว นอกเหนือไปจากอัตราการใช้พลังงานที่ต่ำ เทคโนโลยีซูเพอร์ไฮบริดยังมีเสียงการทำงานเงียบเทียบเท่ารถพลังงานไฟฟ้า มีอัตราเร่งดี สร้างนิยามใหม่ของการขับขี่รถยนต์ไฮบริดให้เป็นประสบการณ์ที่เหนือข้อจำกัด
ในปี 2025 Omoda & Jaecoo จะดำเนินการตามกลยุทธระดับสากลสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ เสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเทคโนโลยีโดยมีระบบ Super Hybrid System (SHS) เป็นแกนกลาง และนำเสนอรถยนต์ที่ใช้ระบบ Super Hybrid System (SHS) ใหม่ตลอดทั้งปีนี้เพื่อเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์พลังงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ได้นำเสนอรถ ยนต์รุ่นใหม่อีก 2 รุ่นตามกลยุทธก้าวไปสู่ระดับโลก คือ รถยนต์รุ่น Omoda C7 SHS (โอโมดา ซี 7 เอสเอชเอส) และ Jaecoo 5 EV (เจคู 5 อีวี) ที่จะวางจำหน่ายในช่วงเวลาหลังจากนี้ รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้จะเป็นกลจักรสำคัญเพื่อสร้างการเติบโตไปอีกขั้น