Quattroruote ทดสอบ
KIA SORENTO
รุ่น 2.2 CRDI 4WD EVOLUTION
ราคา (จากผู้ผลิต)
59,350 ยูโร (ประมาณ 2,120,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
เครื่องยนต์
ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบเรียง 2,153 ซีซี
กำลังสูงสุด 142 กิโลวัตต์/193 แรงม้า
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
จากผู้ผลิต 15.2 กม./ลิตร
จากการทดสอบ 12.7 กม./ลิตร
ความคุ้มค่าโดยรวม 14.20 ยูโร/100 กม.
อัตราการปล่อยไอเสีย
จากผู้ผลิต 174 กรัม/กม.
จุดแข็ง
นที่ใช้สอย มีให้อย่างเหลือเฟือ เป็นหนึ่งในจุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ จากมิติของห้องโดยสารที่กว้างขวางแทบทุกสัดส่วน และมีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว เบาะนั่งแถวที่ 3 ก็มีความกว้างขวางขนาดที่ผู้ใหญ่จำนวน 2 คนสามารถนั่งได้สบายๆ นอกจากนี้ คุณภาพการประกอบ ก็น่าพอใจเช่นกัน เป็นผลดีจากการเอาใจใส่เป็นอย่างดีนับแต่ตั้งแต่ส่วนการผลิต
จุดอ่อน
ความสะดวกสบายของการโดยสารกลับถูกลดทอนลงจากการปรับแต่งรับบรองรับด้านหลังที่มีความหนึบแข็งมากเกินควรเล็กน้อย แรงสั่นสะเทือนค่อนข้างชัดเจนยามแล่นผ่านหลุมบนถนน รวมถึงผู้โดยสารด้านหลังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ชัดเจนเช่นกัน ขณะที่ระบบเบรค มีความทนทานในระดับที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม ความสมดุล และมั่นคงขณะทำการเบรคควรทำได้ดีกว่านี้
ห้องคนขับที่หรูหรายิ่งขึ้น
บางสิ่งบางอย่างไม่อาจคาดหวังได้ เมื่อพิจารณาถึงช่วงการเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว เราได้เห็นการกลับมา (แม้จะเป็นเพียงบางส่วนที่ยังไม่ชัดเจนเสียทีเดียว) นั่นคือ ทางเลือกการใช้งานเครื่องยนต์ดีเซล ปรากฏอยู่ในฝากระโปรงหน้าของรถเอสยูวีรุ่นนี้ SUV เนื่องมาจากขนาดของตัวถัง และวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อการลุยทางสมุบกสมบัน ดูเหมือนจะถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์รุ่นนี้ แต่ในความเป็นจริง ทางเลือกดังกล่าวมีสำหรับรถยนต์รุ่นก่อนหน้านี้ที่ทำตลาดเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม ค่าย KIA (เกีย) ตัดสินใจนำเครื่องยนต์ดีเซลกลับมาอีกครั้งกับ SORENTO (โซเรนโต) เสริมประสิทธิภาพด้วยระบบไฮบริด ทำตลาดพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริดเต็มตัว และเครื่องยนต์แบบพลัก-อิน ไฮบริด
มีความน่าสนใจปรากฏให้ทีมงานของเราเห็นในการทดสอบครั้งนี้ นั่นคือ ปรับปรุงคุณสมบัติที่ โดดเด่นหลายประการให้แก่ SORENTO เห็นได้จากส่วนกระจังหน้าที่เข้าใกล้มากขึ้น (โดยเฉพาะที่ช่องรับอากาศ) เป็นสไตล์ที่ชวนให้นึกถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหญ่อย่าง EV9 (อีวี 9) ที่ใช้แบทเตอรีขนาดใหญ่ นักออกแบบเข้ามาปรับปรุงในหลายส่วน นำมาสู่ภายในห้องโดยสารที่เฉียบคม โดยที่แผงหน้าปัดมีความเป็นเส้นตรง และหรูหรามากขึ้น ที่ด้านบนมีการติดตั้งหน้าจอขนาดยักษ์ ทรงโค้งเล็กน้อย แสดงผลภาพเคลื่อนไหวได้คมชัดกว่าเดิม แผงหน้าปัดแบบดิจิทอล และหน้าจอสัมผัสของระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ สามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น: ไม่ต้องใช้เวลานานในการทำความคุ้นเคยเพื่อใช้งานกับหน้าเมนูต่างๆ ซึ่งมีตั้งแต่ระบบเนวิ เกเตอร์พร้อมข้อมูลต่างๆ การรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปยังการเชื่อมต่อไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟนที่รองรับระบบ ANDROID AUTO และ APPLE CAR PLAY โดยไม่ลืมระบบจดจำการตั้งค่าแบบดิจิทอลด้วย: โดยการกดปุ่มสัมผัสที่อยู่บนคอนโซลเกียร์ด้วยนิ้วของผู้ขับ ระบบการทำงานจะเปิดใช้งานพโรไฟล์ส่วนตัวโดยอัตโนมัติ และยังให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์รวมถึงเลือกโหมดใช้งานกับบริการการจอดรถ ซึ่งตัดการทำงานของระบบความบันเทิง (ซึ่งมีประโยชน์ เช่น เมื่อใช้บริการพนักงานช่วยจอดรถ) นอกจากนี้ ยังมีระบบกุญแจดิจิทอล ซึ่งสามารถแชร์กับผู้ขับขี่รายอื่น เช่น สมาชิกในครอบครัว โดยใช้สมาร์ทโฟน สามารถปลดลอคประตูได้รวมถึงการสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย
สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง คือ ขนาดของห้องโดยสารซึ่งยังคงมีความสำคัญ นอกจากความอเนกประสงค์ภายใต้พื้นที่ใช้สอยที่มีให้อย่างเหลือเฟือ ถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจกับความสามารถด้านประโยชน์ใช้สอยที่รอบด้านเช่นนี้ คือ หนึ่งในจุดที่สร้างความแตกต่างจากบรรดาคู่แข่งระดับเดียวกัน: เบาะนั่งแถว 2 เลื่อนหน้า/หลังได้ รองรับผู้โดยสารได้อีก 2 ตำแหน่งในเบาะนั่งแถว 3 (สำหรับผู้ใหญ่ด้วย) สามารถพับเก็บในพื้นห้องโดยสารเมื่อไม่ได้ใช้งาน ช่วยเพิ่มพื้นที่เก้บสัมภาระ รวมถึงกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ดี รายละเอียดในส่วนของการใช้งานดังกล่าวสามารถดูได้ในหน้าถัดไป
นอกเหนือจากลักษณะเสียงคำรามตามแบบฉบับของเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ การผสานการทำงานกันระหว่างขุมพลังแบบ 4 สูบกับน้ำหนักของตัวรถที่ 2,119 กก. ถือว่า SORENTO มีอัตราเร่งที่น่าพอใจไม่น้อย ในแง่ของเอสยูวีที่มีขนาดใหญ่ระดับนี้ ภายใต้พละกำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ที่ 193 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดระดับ 450 นิวทันเมตร/45.9 กก.ม. ทำอัตราเร่งได้เพียงพอ และมากเกินพอที่จะเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างคล่องแคล่วท่ามกลางการจราจรในชีวิตประจำวัน โดยปกติแล้ว รถยนต์ประเทภนี้เหมาะสำหรับการขับขี่ทางไกลนอกตัวเมือง โดยเริ่มจากการเดินทางบนมอเตอร์เวย์ที่ใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน ทำให้ทีมงานของเราดสัมผัสความแตกต่างของการตอบสนองจากรถยนต์รุ่นนี้ จากความขรุขระของยางมะตอยบนพื้นถนน รวมถึงจากสภาพอากาศโดยรอบ และจากการลุกษณะการหมุนกลิ้งของยาง เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่งบอกการตอบสนองที่แตกต่างกัน: ระหว่างด่านเก็บค่าผ่านทางหนึ่งกับอีกด่านหนึ่ง ทีมงานของสามารถเดินทางกับตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 13.2 กม./ลิตร ในขณะที่เครื่องยนต์ของรุ่นก่อนหน้านี้ยังไม่มีระบบไฮบริดเข้ามาเสริมการขับเคลื่อน ทำให้ตัวเลขออกมาที่ 9.5 กม./ลิตร โดยรวมแล้วถือว่าเครื่องยนต์ดีเซลยังมีการประหยัดเชื้อเพลิงที่เหมาะสมอยู่ คุณเห็นด้วยหรือไม่ ?
ข้อมูลจำเพาะของรถทดสอบจากผู้ผลิต
เครื่องยนต์
- ดีเซล วางด้านหน้าตามยาว
- แบบ 4 สูบ
- กระบอกสูล 83.0 มม.
- ช่วงชัก 99.4 มม.
- ความจุ 2,151 ซีซี
- กำลังสูงสุด 142 กิโลวัตต์/193 แรงม้า ที่ 3,800 รตน.
- แรงบิดสูงสุด 450 นิวทันเมตร/45.9 กก.-ม. ที่ 1,750-2,750 รตน.
- เสื้อสูบ และฝาสูบ ใช้วัสดุโลหะน้ำหนักเบา
- ชุดเพลาปรับสมดุล 2 ชุด
- ดับเบิลโอเวอร์เฮด แคมชาฟท์ 4 วาล์วต่อลูกสูบ (สายพานโซ่)
- ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงแบบคอมมอนเรล เทอร์โบ (พร้อมครีบแปรผัน) และอินเตอร์คูเลอร์
- ชุดกรองอนุภาคไนโตรเจนออกไซด์
- ชุดกรองไอเสีย
ระบบส่งกำลัง
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา แปรผันอัตโนมัติ
- ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ
รูปแบบตัวถัง
- ตัวถังใช้วัสดุโลหะ 2 กล่อง 5 ประตู 7 ที่นั่ง
- ระบบรองรับด้านหน้า แบบ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
- ระบบรองรับด้านหลัง แบบ มัลทิลิงค์ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
- ระบบช่วงล่างแบบ ไฮดรอลิค
- ระบบเบรคแบบ จาน พร้อมช่องระบายความร้อน เอบีเอส และอีเอสพี
- ระบบบังคับเลี้ยว ฟันเฟือง และตัวหนอน ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
- ความจุถังน้ำมัน 67 ลิตร
ยาง
- CONTINENTAL PREMIUM CONTACT 6 ขนาด 255/45 R20 105V
- ชุดยางอะไหล่
มิติตัวถัง และน้ำหนัก
- ระยะฐานล้อ 2,820 มม.
- ความกว้าง ฐานล้อคู่หน้า 1,650 มม. คู่หลัง 1,660 มม.
- ความยาว 4,820 มม. กว้าง 1,900 มม. สูง 1,700 มม.
- น้ำหนักโดยรวม 1,929 กก. น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 2,600 กก.
- ความจุที่เก็บสัมภาระ 170-1,996 ลิตร
สถานที่ผลิต
- เมือง HWASEONG (ประเทศเกาหลีใต้)
การใช้งานที่ลงตัว
เมื่อผู้ขับกดปุ่มบนพวงมาลัย จอมาตรวัดทางฝั่งซ้าย หรือขวามือ จะเปลี่ยนเป็นการแสดงผลของกล้องมองภาพ (ตามภาพด้านบนด้านซ้าย) แผงคอนโซลกลางมีปุ่มใช้งานมากมาย (ตามภาพด้านข้าง) เมื่อกดสัมผัสลงไป จะส่วนแสดงภาพสำหรับการใช้งานระบบปรับอากาศ และระบบความบันเทิง ภาพด้านล่าง แสดงให้เห็นถึงปุ่มเลือกการใช้งานของช่องต่อ USB สำหรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ และการใช้งานระบบความบันเทิง
ระบบความบันเทิง
จอแสดงผลหลักมีขนาดใหญ่ (วัดขนาดได้ที่ 10.2 นิ้ว) จอแสดงผลตรงกลางคอนโซลมีการใช้งานที่หลากหลาย: ปุ่มใช้งานระบบสัมผัสมีขนาดใหญ่ และยังใช้งานได้สะดวก ทำความเข้าใจได้ง่าย ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย การเชื่อมต่อ ANDROID AUTO และ APPLE CAR PLAY เป็นแบบไร้สาย
พื้นที่ใช้สอย และทัศนวิสัย
สถิติใหม่ของพื้นที่ใช้สอย
หากย้อนดูข้อมูลตั้งแต่อดีตของ QUATTRORUOTE ตั้งแต่ช่วงปี 1990 จนถึงช่วงปี 2000 เราจะพบว่า ณ ช่วงเวลาดังกล่าว บรรดารถยนต์ที่ทำตลาดหลายรุ่นเป็นสไตล์ มีนีแวน มาถึงปัจจุบันแนวโน้มของการทำตลาดได้เปลี่ยนแปลงไป รถยนต์กลุ่ม เอมพีวี ค่อยๆ ลดจำนวนลงทีละน้อย และถูกแทนที่ด้วยเอสยูวี อย่างเช่น SORENTO แทน ด้วยมิติตัวถังที่มีขนาดใหญ่ (ความยาวของตัวรถกว่า 4,820 มม. และระยะฐานล้อที่ 2,820 มม.) นำมาสู่ห้องโดยสารที่กว้างขวางอันเป็นหนึ่งในจุดเด่นของรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้คันนี้ ในกรณีที่มีพื้นที่โดยสารน้อยที่สุด เบาะแถวที่ 2 จะมีระยะช่วงขาที่ 300 มม. หรือการโดยสารบนเบาะแถวที่ 2 จำนวน 3 คน หัวไหล่ของผู้โดยสารแต่ละคนแทบจะไม่เบียดกันเลย นอกจากนี้ เบาะแถวที่ 2 สามารถเลื่อนหน้า/หลังได้ หากผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ต้องนั่งบนเบาะตำแหน่งดังกล่าว อาจต้องจัดตำแหน่งของเบาะให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมก่อน แต่ในกรณีที่ผู้โดยสารเป็นเด็กเล็ก พื้นที่ของเบาะมีให้อย่างเหลือเฟือ ตัวเบาะกว้างมากจนอาจไม่กระชับสรีระเด็กเล็กมากนัก (เบาะแถวที่ 3 รองรับจุดยึดที่นั่งเด็กเล็กแบบ ISOFIX ด้วย) ส่วนที่เก็บสัมภาระท้ายมีการใช้งานที่หลากหลาย สามารถพับเก็บเบาะแถวที่ 3 ลงไปยังใต้พื้นห้องโดยสาร (เบาะจะถูกพับเก็บลงในหลุมใต้ที่เก็บสัมภาระท้าย) เบาะแถวที่ 2 สามารถพับเก็บได้แบบ 60:40 รองรับการบรรทุกสัมภาระหลายรูปแบบ รวมถึงวัตถุทรงยาวแบบเซิร์ฟบอร์ด รวมถึงสัมภาระอื่นๆ ตามที่แสดงให้เห็นในภาพประกอบ เมื่อพับเบาะลงมาจะได้พื้นห้องโดยสารเป็นระนาบเดียวกัน แม้ส่วนขอบของที่เก็บสัมภาระจะค่อนข้างสูง แต่การบรรทุกยังทำได้ดีเยี่ยม จากที่เก็บสัมภาระทรงเหลี่ยมอย่างสมดุล