รถยนต์ในกลุ่มครอสส์โอเวอร์ระดับ B-SUV เป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากมายในประเทศอิตาลี โดยในปี 2023 มีส่วนแบ่งจากตลาดรถยนต์ทั้งหมดที่ 27 % ของการจดทะเบียน และบรรดาค่ายรถแทบทุกเจ้าต่างก็มีรถยนต์ในกลุ่มนี้ทำตลาดด้วยกัน แต่ละค่ายรถ แต่ละคัน ต่างก็มีจุดแข็ง และจุดอ่อนแตกต่างกันไป ในคอลัมน์นี้เราจึงมาแจกแจงข้อมูลจากการทดสอบจากหลากหลายหัวข้อ คัดเฉพาะรถยนต์ที่ได้รับความนิยมระดับหัวแถว ระบุเป็นตัวเลขให้ผู้อ่านได้รับรู้ได้ง่าย นับตั้งแต่ มิติตัวถัง และพื้นที่ของห้องโดยสาร อุปกรณ์ที่ติดตั้งจากโรงงาน สมรรถนะโดยรวม และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมาให้
เริ่มจากรุ่น JEEP AVENGER (จีพ อเวนเจอร์) กับอีกหนึ่งคู่แข่งอย่าง TOYOTA YARIS CROSS (โตโยตา ยารีส ครอสส์) ต่างก็เป็นคู่แข่งที่สูสีในแง่ของยอดจำหน่ายสูงสุดของประเทศอิตาลี โดยทางครอสส์โอเวอร์สัญชาติญี่ปุ่นมีความโดดเด่นในแง่ของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น่าพอใจ เป็นผลดีจากระบบไฮบริดที่มีประสิทธิภาพ มีการปรับปรุงระบบของเครื่องยนต์ให้ดีกว่าเดิม ส่งผลให้มีกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 131 แรงม้า ขณะที่รูปทรงโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เส้นสายโดยรวมยังคงคุ้นเคย และมีการขับขี่บนท้องถนนที่ลงตัว
ถัดมา คือ หนึ่งในครอสส์โอเวอร์ระดับ B-SUV ที่ได้รับความนิยมในประเทศอิตาลี นั่นคือ FORD PUMA (ฟอร์ด พูมา) มีความลงตัวในหลายด้าน นับตั้งแต่องค์ประกอบโดยรวม และเครื่องยนต์แบบ ECOBOOST ที่ประหยัดน้ำมันอย่างน่าพอใจจากรูปแบบ 3 สูบเรียง โครงสร้างตัวถังที่เน้นการขับขี่ที่นุ่มนวล สะดวกสบาย และพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม หากใครที่กำลังมองหาทางเลือกรถยนต์ระบบไฮบริดนอกเหนือจากครอสส์โอเวอร์ของ TOYOTA แล้ว ยังมีอีกตัวเลือก คือ RENAULT CAPTUR (เรอโนลต์ กัปตือร์) กับขุมพลังรหัส E-TECH ที่มีจุดเด่นในเรื่องของระยะทางที่ได้ไกลที่สุด นอกเหนือจากนี้ ครอสส์โอเวอร์สัญชาติฝรั่งเศสรุ่นนี้ยังมีห้องโดยสารที่กว้างขวาง ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพดี และมีระบบความบันเทิงที่ทันสมัยที่สุดในบรรดาคู่แข่งระดับเดียวกัน โดยมีจุดสังเกตเพิ่มเติม คือ รุ่นปรับโฉมใหม่มีโอกาสทำตลาดในอนาคตอันใกล้นี้ ทำให้โอกาสที่รุ่นโฉมล่าสุดอาจมีราคาที่ย่อมเยากว่าเดิมเล็กน้อย เพิ่มความคุ้มค่าโดยรวมเป็นอย่างดี อีกหนึ่งรุ่นยังคงเป็นรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส นั่นคือ PEUGEOT 2008 (เปอโฌต์ 2008) กับรูปทรงที่มีสไตล์โฉบเฉี่ยวเฉพาะตัวทั้งภายนอก และภายใน เส้นสายมีความสวยสะดุดตา มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 3 สูบเรียง ขนาด 1.2 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ตามมาอีกรุ่น คือ FIAT 500X (เฟียต 500 เอกซ์) ที่ใช้เครื่องยนต์บลอคเดียวกัน และสามารถสร้างยอดจำหน่ายให้แก่ค่ายรถได้อย่างน่าพอใจเช่นกัน
รถยนต์จากค่ายรถสัญชาติอิตาเลียนกับรุ่น 500X ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด ขนาด 1.5 ลิตร มีจุดเด่นในเรื่องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยม สุดท้ายแล้ว บรรดาครอสส์โอเวอร์ที่เรามาเทียบสมรรถนะ แม้จะมีอันดับยอดจำหน่ายโดยรวมต่ำกว่าอันดับ 10 ก็ตาม แต่ยังคงมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ NISSAN JUKE (นิสสัน จูค) OPEL MOKKA (โอเพล มอคคา) และ SUZUKI VITARA (ซูซูกิ วีทารา) โดยรุ่นแรกตามที่กล่าวมา หันมาใช้เครื่องยนต์ไฮบริดที่เน้นจุดเด่นในเรื่องของสมรรถนะที่ฉับไว รวมถึงการขับขี่ที่คล่องแคล่ว ส่วนรุ่นถัดมา ใช้โครงสร้างตัวถังร่วมกับรุ่น AVENGER, 2008 และ 600 สร้างความแตกต่างด้วยองค์ประกอบโดยรวมที่เน้นความล้ำสมัยตามแบบฉบับค่ายรถสัญชาติเยอรมัน มาพร้อมเส้นสายที่สวยงามลงตัว ขณะที่ค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่น เน้นการใช้งานที่ครบครัน และคุณสมบัติที่ค่ายอื่นๆ ไม่มี นั่นคือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา