เปิดตัวพแลทฟอร์มใหม่ล่าสุด

AUDI Q6 E-TRON (เอาดี คิว 6 อี-ทรอน) เปิดบทบาทใหม่ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของค่ายรถจากเมือง INGOLSTADT ด้วยประสิทธิภาพที่ได้รับการรับประกันจากโครงสร้างตัวถังที่ใช้สถาปัตยกรรมรหัส PPE โดยรถยนต์รุ่นนี้มีความสมดุลระหว่างความสะดวกสบาย และความคล่องแคล่ว จึงมอบประสบการณ์ของยานยนต์ที่ล้ำสมัยได้อย่างน่าสนใจ
 
รหัสโครงสร้างตัวถัง PPE คือ 3 ตัวอักษรที่ควรถูกจดจำเอาไว้ให้ดี เพราะนี่คือ ตัวถังรูปแบบใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย AUDI ที่เตรียมทำตลาดเป็นรุ่นที่ 2 แล้ว แม้รถยนต์รุ่นที่ประเดิมโครงสร้างตัวถังรุ่นนี้จะยังไม่ถูกเผยออกมาชัดเจน แต่ในที่สุดก็ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นรุ่น Q6 E-TRON มีความสำคัญในแง่ของการเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ จากค่ายรถสี่ห่วง โครงสร้างตัวถังสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม และเป็นรุ่นสำคัญ เนื่องจากสืบทอดชะตากรรมของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการออกแบบยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแบทเตอรี จุดเปลี่ยนระหว่างสิ่งที่เคยเป็นในอดีต และสิ่งที่กำลังจะไปในอนาคต แต่ยังรวมถึงความสะดวกสบาย พื้นที่ภายในห้องโดยสาร และอุปกรณ์ที่ล้ำสมัย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นผ่านสถาปัตยกรรมระบบไฟฟ้าแบบ 800 โวลท์ มอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ที่มีขนาดกะทัดรัด มีประสิทธิภาพมากขึ้น และแบทเตอรีความจุ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง (ใช้งานได้จริง 94.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง) ที่มีความหนาแน่นของพลังงานมากกว่าในอดีตสำหรับช่วงราคานั้น ในตอนนี้แบ่งออกเป็น 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นทอพ PERFORMANCE ที่มีมอเตอร์ด้านหลัง 326 แรงม้า และระยะทางที่แล่นได้ไกลสุดที่ 641 กม. ยังมีรุ่นที่มีมอเตอร์ด้านหน้าเพื่อให้ขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้แก่ รุ่น QUATTRO (กำลังสูงสุด 387 แรงม้า) และรุ่นตัวแรง SQ6 (517 แรงม้า) ซึ่งแล่นได้ระยะทางสูงสุด 598 กม. ทั้งหมดนี้เป็นมาตรฐาน WLTP
 

ระบบแสดงผล 3 หน้าจอ

Q6 E-TRON มีขนาดมิติตัวถังที่ใหญ่ โดยเทียบตามขนาดของ TESLA MODEL Y (เทสลา โมเดล วาย) แต่มีรูปทรงที่เพรียวบาง และมีเอกลักษณ์ของ AUDI ทำให้รถมีขนาดกะทัดรัดกว่าตัวเลขที่บอกไว้เล็กน้อย (ความยาว 4,770 มม.) และเมื่อมองจากพวงมาลัย ความรู้สึกก็มีความคุ้นเคยพอสมควร นั่นคือ ตำแหน่งการขับขี่นั้นสบายเหมือนเอสยูวี แต่ผ่อนคลาย และสปอร์ทกว่าเล็กน้อย ซึ่งช่วยให้ผู้ขับมีทัศนวิสัยขณะการขับขี่ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่พวงมาลัยมีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน ช่วยให้การตอบสนองระหว่างมือที่หักเลี้ยว และการเปลี่ยนทิศทางของล้อได้อย่างแม่นยำ
 
เมื่ออยู่บนทางด่วน ทีมงานของเราใช้ประโยชน์จากระบบช่วยเหลือการขับขี่ระดับ 2 เพื่อทำความคุ้นเคยกับจอแสดงผลบนรถ ซึ่งแสดงผลเป็นส่วนที่เรียกว่า AUDI DIGITAL ระบบที่ประกอบด้วยมาตรวัดขนาด 11.9 นิ้ว จอแสดงผลแบบเสมือนจริงบนกระจกหน้า หน้าจอ OLED ทรงโค้งขนาด 14.5 นิ้วตรงกลาง และองค์ประกอบที่ 4 ขนาด 10.9 นิ้ว ที่สงวนไว้สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ระบบความบันเทิงที่ใช้ระบบ ANDROID AUTOMOTIVE และรองรับการใช้งาน AI อย่าง CHATGPT ใช้เวลาค่อนข้างน้อยในการทำความเข้าใจวิธีนำทางในเมนูต่างๆ ซึ่งออกแบบมาอย่างดี โดยมีผู้ช่วยด้วยเสียงประกอบพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ขับเสมอ ทำหน้าที่ต่างๆ มากมาย แม้กระทั่งการยก หรือลดกระจกหน้าต่าง
 
เมื่อขณะเข้าโค้งทำได้เทียบชั้น PORSCHE MACAN (โพร์เช มาคัน) (ซึ่ง Q6 ใช้พแลทฟอร์มใหม่ร่วมกัน) AUDI แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ในความเป็นจริง หากคุณตัดสินใจเร่งความเร็ว รถยนต์ไฟฟ้าของ AUDI จะรู้วิธีตอบสนองความต้องการของผู้ขับ ทำได้น่าพอใจ และแม่นยำในภูมิประเทศที่หลากหลาย รวมทั้งยังมีความสมดุลที่ดีมาก ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับความรู้สึกเหมือนได้ขับรถออกไปเดินเล่นที่มีน้ำหนักโดยรวมเบากว่าความเป็นจริงมาก ซึ่งอาจเป็นคำชมที่ดีที่สุดที่เอสยูวีไฟฟ้าขนาดใหญ่จะได้รับ นอกจากนี้ ยังมีการกระจายแรงบิดในการขับเคลื่อนที่สมดุล ซึ่งในกรณีของรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาจะแปรผันการส่งกำลังสู่เพลาล้อคู่หลัง และพละกำลังที่เพียงพอต่อความต้องการเสมอ
 
การส่งกำลังที่สม่ำเสมอแต่ไม่ถึงกับเฉียบคมจนน่ารำคาญ แชสซีส์มีส่วนช่วยอย่างมากในการสร้างสมดุลที่ดีระหว่างความสบาย และความคล่องตัว ด้วยรูปแบบสี่เหลี่ยมด้านขนานที่ประณีต ระบบรองรับด้านหน้าแบบปีกนก และมัลทิลิงค์ที่ด้านหลัง Q6 ใช้ชอคอับ FSD พร้อมระบบลดแรงสั่นสะเทือนแบบเลือกได้ หรือชอคอับถุงลมแบบ 2 ขั้นตอน ในกรณีหลังการทำงานของชอคอับเหล่านี้จะถูกควบคุมโดยหน่วยควบคุมเดียวกันที่ควบคุมระบบกู้คืนพลังงานด้วย ดังนั้น ระบบจึงสามารถแทรกแซงการฟื้นฟูพลังงานโดยขึ้นอยู่กับรูปแบบการขับขี่ และการเคลื่อนไหวของตัวถัง โดยเลือกที่จะใช้กับมอเตอร์ชุดที่ 1 จำนวน 1 ชุด หรือทั้ง 2 มอเตอร์ เพื่อให้รถมีความสมดุลมากที่สุด และยังมีประโยชน์ในแง่ของความสะดวกสบาย
 
เมื่อเดินทางไกล คุณจะพบว่าตัวรถวิ่งเป็นระยะทางหลาย กม. ได้โดยไม่รู้ตัว โดยส่วนใหญ่แล้วสามารถทำได้สบายๆ นับว่ามีความเป็นอิสระที่น่าชื่นชมมาก เราไม่ได้หมายถึงแค่ตัวเลขที่ผู้ผลิตระบุไว้อย่างยอดเยี่ยม และความจุของแบทเตอรีที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่ 18.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. ที่วัดโดยคอมพิวเตอร์ออนบอร์ดขณะขับบนถนนของรัฐด้วย เราจะดูกันว่าศูนย์ทดสอบของเราจะยืนยันตัวเลขเหล่านี้ได้หรือไม่ ทำให้ Q6 E-TRON เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความเป็นอิสระสูงสุดในเรื่องของการชาร์จ และควรกล่าวถึงการจัดการความร้อนเชิงคาดการณ์ของแบทเตอรีด้วย ซึ่งช่วยให้คุณไปถึงสถานีชาร์จไฟฟ้าได้ในสภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อใช้ประโยชน์จากพลังงานสูงสุด 270 กิโลวัตต์ ได้อย่างเหมาะสม เมื่อแปลเป็นเชิงปฏิบัติแล้ว ด้วยวิธีนี้ ผู้ขับสามารถออกเดินทางได้อีกครั้งด้วยระยะทางเพิ่มเติมอีก 260 กม. ในเวลาเพียง 10 นาที
 

ข้อมูลของรถทดสอบจากผู้ผลิต

รุ่น FOUR S LINE EDITION
มอเตอร์ไฟฟ้า
- มอเตอร์ไฟฟ้าวางด้านหน้า และด้านหลัง
- กำลังสูงสุด 285 กิโลวัตต์/387 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 535 นิวทันเมตร/54.6 กก.ม.
 
แบทเตอรี
- แบบลิเธียม-ไอออน ความจุ 94.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง (จากความจุทั้งหมด 100.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง)
 
การชาร์จไฟฟ้า
- แบบกระแสสลับ AC 11 กิโลวัตต์/กระแสตรง DC 270 กิโลวัตต์
 
ระบบส่งกำลัง
- ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
- ชุดควบคุมการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า
 
สมรรถนะ
- ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที
- อัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า 5.9 กม./กิโลวัตต์ชั่วโมง
- ระยะทำการสูงสุดเมื่อชาร์จเต็ม 625 กม.
 
มิติตัวถัง และน้ำหนักโดยรวม
- ระยะฐานล้อ 2,890 มม.
- ความยาว 4,770 มม. กว้าง 1,940 มม. สูง 1,640 มม.
- น้ำหนักโดยรวม 2,325 กก.
 
ราคา
- เริ่มต้นที่ 86,500 ยูโร   
 

ชาร์จไฟฟ้า 10 นาที แล่นได้ไกล 260 กม.

โครงสร้างตัวถังแบบ PPE มีจุดเด่นที่การรองรับความทันสมัยตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ โดยเฉพาะการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ชุดแบทเตอรีประกอบรวมกันจำนวน 12 โมดูล รวมทั้งหมดเป็นชุดแบทเตอรีจำนวน 180 โวลท์ เมื่อเทียบกับรุ่นใหญ่กว่าอย่าง Q8 E-TRON (คิว 8 อี-ทรอน) ประกอบไปด้วยแบทเตอรี 36 โมโล และ 432 เซลล์เท่านั้น

 
ระบบไฟฟ้าแบบ 800 โวลท์ สามารถรองรับการชาร์จไฟฟ้าแบบ DC ได้สูงสุดที่ 270 กิโลวัตต์ เทียบตัวเลขเบื้องต้นแล้วจะพบว่า การชาร์จเป็นเวลา 10 นาที จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้แล่นได้ไกลอีก 260 กม. นั่นคือ ใช้เวลา 10 นาที สำหรับการชาร์จระดับแบทเตอรีที่ 10-80 % คิดเป็นความจุของแบทเตอรี คือ 21 กิโลวัตต์ชั่วโมง ในกรณีที่ชาร์จแบบ 400 โวลท์ ระบไฟฟ้าสามารถรองรับการชาร์จแบบแยกจุดชาร์จได้ สามารถชาร์จจาก 2 หัวจ่ายรวมกันได้สูงสุดที่ 135 กิโลวัตต์ เป็นเทคโนโลยีการชาร์จแบบใหม่ พัฒนาโดยบริษัท GYOR ประเทศฮังการี

 
ระบบไฟฟ้าแบบ 800 โวลท์ มาพร้อมระบบควบคุมการระบายความร้อน สามารถแปรผันตามลักษณะการขับขี่ เพื่อการระบายความร้อนที่เหมาะสมที่สุด

 
ความจุแบทเตอรีทั้งหมด 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง (ใช้งานได้จริง 94.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง) มีความหนาแน่นของระบบไฟฟ้าที่สูง มากกว่า 30 % เมื่อเทียบกับเบทเตอรีที่ใช้ในปัจจุบัน

 
ชุดมอเตอร์ไฟฟ้ามีน้ำหนักเบา และมีขนาดกะทัดรัด มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังมีความยาวเพียง 200 มม. ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าสำหรับระบบ QUATTRO มีขนาดที่ 100 มม.