แน่นอนว่า การแข่งขันสองรายการนี้แตกต่างกัน ทั้งตัวรถ และกติกาการแข่งขัน โดยเรื่องตัวรถ ไม่มีอะไรซับซ้อน และเป็นอะไรที่รู้ๆ กัน นั่นคือ รถแข่ง formula E ต้องขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่ formula E แตกต่างจาก formula 1 มากๆ คือ กติกาการแข่งขัน 2 ข้อ ข้อแรก คือ ระบบ fan boost เนื่องจากรถแข่ง Formula E ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 200 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 270 แรงม้า แต่ระหว่างการแข่งขัน แรงม้าของ Formula E จะถูกจำกัดให้เหลือเพียง 200 แรงม้าเท่านั้น ส่วนอีก 70 แรงม้า จะใช้ได้เฉพาะนักแข่งที่ได้รับคะแนน Vote จากแฟนคลับทั่วโลก FIA ผู้จัดการแข่งขันคิดค้นระบบโหวท ที่เรียกว่า Fan Boost นี้ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้แฟนๆ Formula E ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขัน โดยสามารถ Vote ให้แก่นักแข่งที่ตนเองชื่นชอบ ผ่าน Website ของ FIA
ก่อนเริ่มการแข่งขันประมาณ 2 สัปดาห์ นักแข่งที่ได้รับคะแนน Vote มากที่สุด 3 คนแรก จะได้รับอนุญาตให้กดปุ่มบูสต์พลังงานไฟฟ้าจากแบทเตอรีเพิ่มขึ้นอีก 100 กิโลจูลส์ แต่จะสามารถใช้พลังบูสต์นี้ได้เพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้น ความแตกต่างข้อที่สอง คือ Formula E อนุญาตให้ใช้รถ 2 คันต่อนักขับ 1 คน ในระหว่างการแข่งขัน F1 รถแข่งต้องเข้า Pit เพื่อเซอร์วิส เปลี่ยนยาง ตรวจสอบระบบต่างๆ รวมถึงการเติมน้ำมัน ซึ่งต้องทำให้เสร็จในเวลาอันรวดเร็ว เพื่อออกไปแข่งต่อ แต่รถ Formula E ใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถชาร์จไฟให้เร็วเหมือนการเติมน้ำมันได้ ด้วยเหตุนี้ FIA จึงกำหนดให้นักแข่ง Formula E แต่ละคน สามารถใช้รถแข่งได้ทั้งหมด 2 คัน ในการแข่งขันแต่ละสนาม ดังนั้น เมื่อแบทเตอรีของรถแข่งคันที่ 1 ลดลงจนใกล้หมด นักแข่งสามารถนำรถเข้า Pit เพื่อเปลี่ยนเป็นรถแข่งคันที่ 2 ซึ่งชาร์จแบทเตอรีเต็มได้ทันที เพื่อให้การชิงชัยดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
บทความแนะนำ