HIGH-TECH HIKING อุปกรณ์เดินป่าสุดทันสมัย

แม้มนุษยชาติจะเดินทางมาไกลมากแล้ว นับจากยุคประวัติศาสตร์ สมัยที่ยังใช้ เกราะไม้ หรืออาวุธซึ่งทำจากเขี้ยว งาของสัตว์ แต่เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไกล หรือการเดินป่า เพิ่งจะมาอยู่ในกระแสนิยมเมื่อไม่นานมานี้เอง   สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ ในการสรรค์สร้างเทคโนโลยีเกี่ยวกับการปีนเขาเข้าป่า คงหนีไม่พ้น ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย เพราะเราตั้งใจจะปีนป่ายไปบนยอดเขาที่สูงขึ้น แบกรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ทุกวันนี้ ตลาดสินค้าสำหรับเดินป่า จึงเต็มไปด้วยอุปกรณ์หลากหลาย ตั้งแต่รองเท้าสวมสบาย ยันเครื่องชงกาแฟแบบพกพา   สิ่งที่ยากที่สุดในการเดินป่า คือ เราต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งจำเป็น และการเลือกสิ่งที่จะนำติดตัวไปด้วยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ รวมถึงกำลังทรัพย์ของเราด้วย   มีอุปกรณ์พื้นฐานบางอย่าง ที่นักเดินทางจะขาดไม่ได้ เช่น รองเท้าสวมสบายสักคู่ หรือเป้ทนๆ สักใบ และเพราะอุบัติเหตุ หรือการบาดเจ็บ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นง่ายกว่าที่เราคิด เราจึงควรเลือกข้าวของเครื่องใช้ โดยคำนึงถึงระดับความสามารถของตนเองเป็นหลัก รวมถึงพิจารณา สภาพอากาศ และภูมิประเทศของสถานที่เป้าหมายเป็นส่วนประกอบ   อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเป็นนักผจญภัยตัวยงอยู่แล้ว คุณอาจจะอยากหาอุปกรณ์ไฮเทคเหล่านี้ ไว้ประดับคอลเลคชัน ซึ่งคุณอาจไม่เชื่อเลยว่า จะสามารถนำสิ่งของเหล่านี้ติดตัว ออกไปผจญภัยกับคุณได้    

รองเท้าบูทเพื่อการผจญภัย

    นักผจญภัยทุกคนต่างรู้ดีว่า การป้องกันอุบัติเหตุ และการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทางเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นรองเท้าที่มีคุณสมบัติพิเศษจึงเป็นสิ่งจำเป็น   การใช้รองเท้าบูทเดินป่า หรือ HIKING BOOTS นั้น จะช่วยปกป้องข้อเท้าของคุณได้เป็นอย่างดี ยามต้องเดินบนพื้นที่ขรุขระ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อต้องสะพายกระเป๋าแบคแพคหนักๆ อยู่ด้วย ปกติแล้ว บูทเดินป่า จะมีพื้นที่แข็งมากๆ เพื่อลอคเท้าของเราไว้ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และเพื่อดูดซับแรงกระแทก จากการย่ำเหยียบบนพื้นหิน   รองเท้าบูทหนักๆ นั้น ล้าสมัยไปเสียแล้ว แทนที่จะมีหัวรองเท้าเหล็กแข็งๆ ผู้ผลิตบูทเดินป่าในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาใช้ขอบยางในการห่อหุ้มเท้า เพื่อลดทอนน้ำหนักที่อาจเป็นอุปสรรคในการเดิน ดังนั้น บูทที่มีน้ำหนักเบากว่า 600 กรัมเหล่านี้ จึงช่วยให้คุณเดินทางได้ไกล และนานกว่าเดิมมากทีเดียว   หนึ่งในรองเท้าที่มีคุณสมบัติเหล่านี้อย่างครบถ้วน คือ บูทหนัง VANGO SHERPA ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพจาก SCOUT ASSOCIATION หรือ สมาคมลูกเสือโลก แต่น่าเสียดาย ที่ปัจจุบัน ยังไม่มีรุ่นที่ผลิตมาสำหรับผู้หญิง    

ที่สุดของพลังยึดเกาะ

VANGO ใช้เทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงอย่าง พโรกริพ (PROGRIP) ในการเพิ่มแรงยึดเหนี่ยวให้พื้นรองเท้าทั้ง 2 ข้าง ทำให้สามารถเกาะติดพื้นดินได้อย่างเหนียวแน่นในเวลาที่ต้องการ พื้นผิวด้านนอกของรองเท้า ทำมาจากยาง 3 ชนิดผสมกัน ส่งผลให้มีความสากมากพอที่จะป้องกันการลื่นล้มเมื่อเดินบนทางเรียบ แรงยึดเกาะพื้นนี้ มาจากการลงน้ำหนักเท้าของเราขณะก้าวเดิน ซึ่งก่อให้เกิดแรงกดที่จะทำให้พื้นรองเท้ายึดติดกับพื้นดิน    

ก้าวสบายๆ

เพราะบูทแต่ละข้างหนักเพียง 580 กรัม ทำให้ขาของเราไม่ต้องรับภาระมากจนเกินไป ในการเดินแต่ละก้าว โดยเฉพาะขณะขึ้นเขา    

กันน้ำ

ด้วยส่วนผสมของหนัง และไนลอน ที่มีความทนทานเป็นพิเศษ พื้นผิวด้านนอกของบูทจึงมีความหนาถึง 0.8 นิ้ว และมีคุณสมบัติในการกันน้ำ    

ปกป้องเท้าอย่างทั่วถึง

ส้นเท้า และหัวแม่เท้าของเรา จะถูกห่อหุ้มไว้ด้วยยางที่มีความทนทานเหมือนหิน เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการเหยียบวัสดุอันตราย เช่น พวกหินมีคม    

มาเลือกรองเท้าของคุณ

KEEN WANDERER WP (200 EURO/290 USD)

    ปกป้องคุณจากทุกสภาพอากาศ ด้วยผิวรองเท้าแบบกันน้ำ บูทสารพัดประโยชน์นี้ ทำจากหนัง และหนังชนิดนิ่ม ตัวลอคส้นเท้าจะทำหน้าที่รักษาเท้าให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ในขณะที่พื้นรองเท้าให้สัมผัสที่แสนสบาย เหมาะแก่การเดินตลอดวัน    

SALOMON QUEST 4D II GTX (160 EURO/240 USD)

บูทคุณภาพสูงคู่นี้ มีทั้งความแข็งแกร่งสำหรับใช้ปีนเขา และปราดเปรียวสำหรับการวิ่งเต็มฝีเท้า ถือเป็นส่วนผสมอันลงตัว ระหว่างความทนทาน กับความยืดหยุ่น    

VASQUE ST.ELIAS GTX (70 EURO/200 USD)

ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในรองเท้าบูทที่ใส่สบายที่สุดในตลาดปัจจุบัน รองเท้าแสนเบาคู่นี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ โดยไม่จำเป็นต้องมีลูกเล่นอะไรมากมาย    

สวมแจคเกทซะ !

    ในยุคเริ่มต้นของมนุษยชาติ เราใช้เพียงเนื้อหนังเพื่อปกป้องตัวเองจากธรรมชาติ   แต่เพียงชั่วพริบตาหลังจากนั้น มนุษย์ได้สร้างสรรค์สิ่งทอขึ้น ตั้งแต่สมัยยังอาศัยอยู่ในถ้ำ อุปกรณ์จำเป็นอย่าง ผ้าคลุมกันฝน มีประโยชน์มากกับเหล่าบรรพชน และตอนนี้ เราก็มีแจคเกทเจ๋งๆ ใช้กันแล้ว วัสดุผ้า อย่างเทฟลอน ได้ท้าทายกฎแห่งฟิสิกส์ ด้วยความสามารถในการป้องกันน้ำฝน ขณะเดียวกันก็ระบายเหงื่อได้ดี นอกจากนั้นเรายังมี วัสดุกันลม ที่สามารถปกป้องคุณจากลูกเห็บ หรือลมกระโชกได้อีกด้วย   แจคเกทที่คุณเลือกใช้ มักสะท้อนลักษณะของสถานที่ที่คุณตั้งใจจะใช้มันเสมอ คุณสามารถเลือกซื้อแจคเกทซึ่งผลิตจากวัสดุที่มีคุณสมบัติกันลม กันน้ำ หรือกันหิมะ ตามแต่สภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศของสถานที่ที่คุณจะไป   แจคเกทกันน้ำ GORE-TEX ที่ราคาค่อนข้างสูงกับ AQ ที่ราคาเบาลงมานิด ประกอบไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เสื้อแจคเกท BERGHAUS HYDROSHELL เป็นแจคเกทกันน้ำร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งได้รับการทดสอบแล้วภายใต้สภาวการณ์อันเลวร้าย ตัวแจคเกททำจากวัสดุที่สามารถถ่ายเทอากาศได้ ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกแห้งสบายตลอดเวลา    

ดีไซจ์นสุดล้ำ

แจคเกทตัวนี้ประกอบไปด้วย ส่วนเสริมกำลังช่วงไหล่ รวมถึงช่องอื่นๆ ของร่างกายที่ต้องรับภาระจากการสะพายกระเป๋าแบคแพค    

ไม่เหนียวติดผิวหนัง

พื้นผิวด้านในของแจคเกท มีลักษณะเป็นจุดนูนๆ ทำให้เนื้อผ้าไม่ติดผิวหนัง แถมยังมีกลไกกำจัดกลิ่น ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสดชื่นอีกด้วย    

เบาสบายดุจขนนก

ด้วยน้ำหนักที่เบา ประมาณ 76 กรัม แจคเกทตัวนี้จึงให้ความรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ แถมยังมีความหนา ให้เลือกถึง 3 ระดับ    

เนื้อผ้าระบายอากาศด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

การทำงานร่วมกันของวัสดุความหนา 2 ชั้นครึ่ง ทำให้สามารถกันความชื้นจากภายนอกได้ โดยผิวชั้นนอกของแจคเกท มีส่วนผสมของไนลอนและโพลียูรีเธน ซึ่งก็คือ พลาสติคที่นำมาขึ้นรูปจนเป็นเส้นด้ายระดับพรีเมียม ส่วนผิวชั้นใน ถูกเคลือบด้วยน้ำยาที่มีคุณสมบัติในการระบายอากาศ ทำให้เกิดช่องว่างบนเนื้อผ้า ซึ่งกว้างพอจะระบายเหงื่อออกไปได้    

โลกบนแผ่นหลัง

REMOTE 25 RUCKSACK (55 EURO/80 USD)

    คุณไม่ต้องทนรำคาญกับความเหนอะหนะของเหงื่อระหว่างเดินทางพร้อมกับเป้คู่ใจอีกต่อไป เพราะโฟมแบบมีช่องระบายอากาศ จะเปิดช่องให้สายลมพัดพาเอาความเหนียวของเหงื่อออกไป ขณะที่กลไกปล่อยความชื้นจะทำให้คุณรู้สึกเย็นสบายตลอดการเดินทาง กระเป๋าเป้ใบนี้มาพร้อมกับที่เก็บสัมภาระ อาหารกลางวัน หรือแม้กระทั่งแลพทอพ สิ่งที่คุณต้องคิดมีเพียงอย่างเดียว คือ จะเลือกซื้อสีคาร์บอน หรือสีแดงดี    

ทำทุกย่างก้าวให้ดีที่สุด

TL130 (125 EURO/180 USD)

    ไม้ค้ำ ไม่ได้มีไว้สำหรับคนวัย 65 ปีขึ้นไปเท่านั้น การใช้ไม้ค้ำ ทำให้คุณสามารถใช้แรงแขนช่วยในการเคลื่อนที่ แถมยังลดภาระของหัวเข่า ข้อเท้า และเท้า ไม้ค้ำ TL130 แบบปรับได้ ซึ่งผลิตโดย HELINOX ทำจากวัสดุอัลลอยน้ำหนักเบา สามารถพับได้เป็น 3 ส่วนเพื่อให้พกพาสะดวก รวมถึงปรับความยาว และควบคุมการยึดเกาะได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว    

มารู้จักกับ GEOCACHING กันเถอะ

มนุษย์หลงใหลเรื่องราวของขุมทรัพย์ที่ซ่อนเร้นอยู่ใต้พื้นดิน มานานแล้ว และหลังจากการมาถึงของอินเตอร์เนท ก็ได้เกิดเกมใหม่ ซึ่งดึงดูดความสนใจของเหล่านักล่าสมบัติทั่วโลก   GEOCACHING เป็นเกมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ตามล่าสมบัติ ในโลกแห่งความจริง โดยจะแจ้งพิกัดของสถานที่ซึ่งสมมติว่ามีสมบัติซ่อนอยู่ผ่านทางระบบออนไลน์ จากข้อมูลในเดือนกุมภาพันธ์ 2013 พบว่ามีสถานที่ซ่อนสมบัติอยู่มากกว่า 2 ล้านที่ ใน 180 ประเทศทั่วโลก นับตั้งแต่ประเทศผู้นำอย่าง สหรัฐอเมริกา มีสมบัติซ่อนอยู่ถึง 882,101 ชิ้น จนถึง ไอวอรี โคสต์ ที่มีแหล่งสมบัติเพียงแห่งเดียว   สถานที่ซ่อนสมบัติแต่ละแห่ง จะมีสมุดเพื่อให้เหล่านักล่าสมบัติที่ดั้นด้นมาถึง ได้ลงบันทึกความสำเร็จของตนเองไว้ บางสถานที่ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงหน่อย ก็อาจจะมีสมบัติชิ้นเล็กๆ ที่เหล่านักเดินทางคนก่อนหน้าเราทิ้งเอาไว้ให้เห็นเป็นอนุสรณ์ กติกาของเกมนี้ คือ ถ้าคุณเอาอะไรบางอย่างไปจากที่ซ่อนสมบัติ คุณจะต้องทิ้งสิ่งของที่มีค่ามากกว่า หรือทัดเทียมกันไว้เป็นสิ่งทดแทน และต้องไม่ใช่อาหาร หรือสมบัติ ที่บรรดาสัตว์เล็กสัตว์น้อยในพื้นที่จะสามารถเข้ามาขโมยไปได้ง่ายๆ อีกด้วย   โทรศัพท์มือถือ ติดจีพีเอส เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในการเล่นเกมล่าสมบัตินี้ โดยจะใช้โทรศัพท์ถือแบบพิเศษ หรือจะเป็นสมาร์ทโฟนธรรมดา ที่ติดตั้งแอพพลิเคชัน GEOCACHING ก็ได้ เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้พบกับแหล่งสมบัติใกล้ตัว และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเหล่านักล่าสมบัติ 15 ล้านคนทั่วโลกอย่างเต็มภาคภูมิ    

สมาร์ทโฟนเพื่อการผจญภัย

CAT S40 SMARTPHONE (330 EURO/340 USD)

สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ทนทานที่สุดในตลาดปัจจุบัน มีทั้งระบบกันกระแทกเมื่อตกพื้น กันฝุ่น กันรอยขีดข่วน และกันน้ำ นอกจากนั้น CAT S40 ยังมีอายุการใช้งานของแบทเตอรี ที่ยาวนานถึง 39 วัน เมื่อเปิดเครื่องสแตนด์บาย และ 18 ชั่วโมง กรณีใช้คุยต่อเนื่อง เรียกได้ว่านี่คือสุดยอดโทรศัพท์สำหรับเกม GEOCACHING ด้วยหน้าจอแบบสว่างพิเศษ และฟังค์ชันเสียงคุณภาพเยี่ยม ที่สำคัญ คือ มีระบบอินเตอร์เนท 4G ความเร็วสูง พ่วงด้วยระบบ GPS ของตัวเอง ซึ่งจะแสดงผลบนจอ HD ขนาด 4.7 นิ้ว    

GARMIN EDGE EXPLORE 1000 (390 EURO/450 USD)

นับเป็นตัวเลือกสุดเพอร์เฟค สำหรับผู้หลงใหลการผจญภัย แกดเกทล้ำสมัยนี้จะแนะนำเส้นทางสำรวจใหม่ๆ ที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่ของคุณให้คุณทราบ แถมในยามคับขัน ยังสามารถแชร์โลเคชันของคุณไปยังบุคคลที่คุณตั้งค่าไว้ให้ติดต่อไปในยามฉุกเฉินได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสามารถควบคุมได้จากระยะไกล โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสอีกด้วย    

EXPLORIST 110 (90 EURO/130 USD)

โทรศัพท์มือถือใช้ง่าย บรรจุแผนที่โลก รวมถึงข้อมูลถนนหนทางอย่างละเอียด พ่วงด้วยคำอธิบายลักษณะภูมิประเทศอย่างแม่นยำ ในระยะ 3-5 เมตร นอกจากนั้น ยังใช้พลังงานจากถ่านไฟฉาย AA สะดวกในการใช้งานมาก    

SUUNTO FOOT POD MINI (75 EURO/89 USD)

อุปกรณ์ GPS ขนาดเท่ามีดพับ ทำหน้าที่วัดความเร็ว และระยะทางในการเดินทางของคุณ ด้วยความเรียบง่ายของมัน ทำให้ราคาที่ขายในท้องตลาด ไม่สูงจนเกินไป    

BUSHNELL BACK TRACK D-TOUR (81 EURO/134 USD)

เครื่อง GPS ขนาดกะทัดรัดจนสามารถพกติดพวงกุญแจได้ มีคุณสมบัติคงทนต่อสภาพอากาศอันเลวร้าย สามารถบันทึกข้อมูลโลเคชันได้มากถึง 5 ที่ แถมเก็บข้อมูลการเดินทางต่อเนื่องได้มากถึง 48 ชั่วโมง    

ขั้นตอนการเดินทาง

   

01 ศึกษาให้ดี ก่อนเดินทาง

ผู้เดินทางสามารถเชคระดับความยากของแหล่งสมบัติแต่ละที่ได้ ผ่านทางเวบไซท์ geocaching.com จงเลือกรูปแบบการผจญภัยของคุณอย่างชาญฉลาด พิจารณาดูให้ดีว่าคุณอยากจะให้การเดินทางครั้งนี้เป็น กิจกรรมครอบครัวสนุกๆ หรือภารกิจขึ้นเขาลงห้วยแบบลุยๆ    

02 เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

จัดสัมภาระของคุณอย่างระมัดระวัง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ GPS มีแบทเตอรีเพียงพอต่อการใช้งาน ถ้าใช้สมาร์ทโฟน ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน GEOCACHING มาติดเครื่องไว้ แต่ถ้าไม่มีก็จงศึกษา และทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ GPS ของคุณให้มากที่สุด    

03 ออกเดินทาง

มุ่งหน้าสู่เส้นทาง ซึ่งสมบัติที่คุณหมายตาไว้ซ่อนอยู่ และเพื่อให้รู้ระยะทางที่แน่นอน แนะนำให้ตรวจสอบแผนที่จริงของพื้นที่นั้นด้วย คุณไม่สามารถเดินทางได้เร็วเหมือนอย่างใจคิดหรอก ดังนั้น ควรเผื่อเวลาให้มาก    

04 ตาม GPS ไป

คงไม่เป็นการเสียเวลาเท่าไรนัก หากคุณจะหยุดรถกลางทาง เพื่อใช้งาน GPS ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องพึ่งพา GPS จงมีสมาธิ ใส่ใจกับเส้นทางที่จะมุ่งไป และการผจญภัยของคุณจะดำเนินไปโดยสวัสดิภาพ    

05 ปราการด่านสุดท้าย

ระยะทางที่แสดงบน GPS อาจคลาดเคลื่อนได้ราว 60 เมตร ทำให้ช่วงท้ายๆ ของการเดินทางค่อนข้างยากลำบากพอสมควร ดังนั้น ให้เราสังเกต กองหินที่ดูแปลกตา ไม่เป็นธรรมชาติ หรือรอยเครื่องหมายบนต้นไม้ เพื่อหาพิกัดซึ่งสมบัติถูกซ่อนเอาไว้    

06 การค้นพบ

หลังจากพบแหล่งสมบัติแล้ว ให้เซ็นชื่อลงไปในสมุดบันทึก แล้วนำมันกลับไปวางยังจุดเดิมที่คุณหยิบมันมา บันทึกการเดินทางของคุณลงไปในระบบออนไลน์ เพื่อให้เจ้าของแหล่งสมบัตินี้รับรู้ว่า คุณได้มาพิชิตมันแล้ว