เยอรมนี/สเปน-ค่าย “สี่ห่วง” ยุติการรอคอยอันยาวนานของคนรักรถเงินล้นแบงค์ โดยนำรถธง เอาดี เอ 8 (AUDI A8) ออกอวดตัวแบบ “ครั้งแรกในโลก” ที่งาน AUDI SUMMIT ซึ่งมีขึ้นในนครบาร์เซโลนาของสเปน เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่เพิ่งผ่านพ้นไป พร้อมยืนยันว่าจะเริ่มการจำหน่ายในฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้ โดยมีเครื่องยนต์ 2 ขนาด และค่าตัวเริ่มต้นที่ 90,600 ยูโรเป็นรถรุ่นที่ 4 และเป็นรุ่นที่ผู้ผลิตบอกว่าเป็น THE FIRST PRODUCTION AUTOMOBILE IN THE WORLD TO HAVE BEEN DEVELOPED FOR HIGHLY AUTOMATED DRIVING หรือ “รถตลาดแบบแรกในโลกที่พัฒนาเพื่อการขับขี่ที่แทบไม่ต้องใช้ผู้ขับ” เหตุผล คือ มีฟังค์ชันช่วยขับถึง 41 รายการ เช่น TRAFFIC JAM PILOT SYSTEM ซึ่งทำให้รถวิ่งได้เองบนถนนที่การจราจรคับคั่ง และรถวิ่งได้เร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. เช่นเดียวกับรุ่นก่อน รถรุ่นใหม่นี้มีตัวถัง 2 แบบ คือ ตัวถังขนาด 5.172x1.945x1.473 ม. ซึ่งติดป้ายชื่อ AUDI A8 กับตัวถังขนาด 5.302 ม.x1.945x1.488 ม. ซึ่งติดป้ายชื่อ AUDI A8 L โครงสร้างของตัวถังทั้ง 2 แบบนี้ ร้อยละ 58 ทำจากอลูมิเนียม ที่เหลือทำจากเหล็กกล้าแมกนีเซียม และคาร์บอนไฟเบอร์ ในระยะแรกจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกเพียง 2 ขนาด คือ เครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC วี 6 สูบ 3.0 ลิตร 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า กับเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC วี 6 สูบ 3.0 ลิตร 210 กิโลวัตต์/286 แรงม้า ที่จะตามมาอีก 2 ขนาดในระยะถัดไป คือ เครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC วี 8 สูบ 4.0 ลิตร 338 กิโลวัตต์/460 แรงม้า กับเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC วี 8 สูบ 4.0 ลิตร 320 กิโลวัตต์/435 แรงม้า และท้ายสุด คือ เครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง ดับเบิลยู 12 สูบ 6.0 ลิตร กับระบบขับไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC วี 6 สูบ 3.0 ลิตร ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าได้กำลังสุทธิสูงสุด 330 กิโลวัตต์/449 แรงม้า และรถวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกล 50 กม.