เยอรมนี-เปิดตัวแล้วเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาหลังจากเป็นข่าวระแคะระคายมาหลายเดือน คือ สุดยอดรถหรู MERCEDES-BENZ S-CLASS (เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์) รุ่นใหม่ ที่เพียบไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทคสารพัดสารพันรวมทั้งระบบขับด้วยตนเอง แต่ลดประเภทตัวถังเหลือเพียงแบบเดียว และเป็นตัวถังที่ลื่นลมสุดๆนับเป็นรถรุ่นที่ 7 มีรหัสโรงงาน W223 มีตัวถังเพียงแบบเดียว คือ ตัวถัง 4 ประตูซีดาน ไม่มีตัวถัง 2 ประตูคูเป และตัวถัง 2 ประตู กาบริโอเลต์เหมือนรถรุ่นเดิม แต่มีให้เลือก 2 ขนาดความยาว คือ ตัวถัง SHORT WHEELBASE ซึ่งยาว 5.179 ม. (ยาวกว่ารุ่นเดิม 5.4 ซม.) กับตัวถัง LONG WHEELBASE ซึ่งยาว 5.289 ม. (ยาวกว่ารุ่นเดิม 3.4 ซม.) ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่บ่งบอกความลื่นลม ลดจาก 0.24 เป็น 0.22 ทำให้กล่าวได้อย่างเต็มเสียงว่านี่คือ หนึ่งในบรรดารถตลาดที่ลื่นลมที่สุดในโลกกล่าวโดยรวมโครงสร้างตัวถังของรถรุ่นใหม่นี้เบากว่ารุ่นเดิมถึง 6 กก. แต่ RIGIDITY หรือค่าความแข็งแกร่งกลับสูงขึ้น มีระบบ และชิ้นส่วนต่างๆ มากมายที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในรถรุ่นเดิม ตัวอย่างเช่น LEVEL 3 AUTONOMOUS DRIVING หรือระบบขับด้วยตัวเองระดับ 3 ซึ่งทำให้ในบางสถานการณ์ที่รถยังวิ่งเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. ผู้ขับสามารถละมือจากพวงมาลัยได้ REAR-WHEEL STEERING SYSTEM หรือระบบบังคับเลี้ยวด้วยล้อหลัง (ควบคู่กับล้อหน้า) ซึ่งช่วยเพิ่มเสถียรภาพขณะใช้ความเร็วสูง และเพิ่มความคล่องตัวขณะใช้ความเร็วต่ำ รวมทั้งทำให้มีศูนย์กลางวงเลี้ยวที่แคบมาก คือ แค่ 10.9 ม. หรือแคบกว่าวงเลี้ยวของรถเก๋งแฮทช์แบคขนาดเล็กอย่าง MERCEDES-BENZ A-CLASS (เมร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาสส์) ด้วยซ้ำ ฯลฯ ในระยะแรก ทั้งตัวถังสั้น และตัวถังยาว ผู้ใช้รถในเยอรมนีจะมีรถให้เลือกเพียง 4 โมเดล คือ MERCEDES-BENZ S 500 4MATIC (เบนซิน 6 สูบเรียง 2,999 ซีซี 320 กิโลวัตต์/435 แรงม้า พร้อมระบบไฮบริดแบบอ่อน หรือ EQ BOOST) MERCEDES-BENZ S 350 D/MERCEDES-BENZ S 350 D 4MATIC (ดีเซล 6 สูบเรียง 2,925 ซีซี 210 กิโลวัตต์/286 แรงม้า) และ MERCEDES-BENZ S 400 D 4MATIC (ดีเซล 6 สูบเรียง 2,925 ซีซี 243 กิโลวัตต์/330แรงม้า) ทุกโมเดลส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หลัง หรือทั้งคู่หน้า และคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 16 เริ่มต้นที่ 94,540 ยูโร หรือประมาณ 3.50 ล้านบาทไทย (จนถึงสิ้นปี 2020 เยอรมนีลดภาษีมูลค่าเพิ่ม จากร้อยละ 19 เป็นร้อยละ 16)