ขับเคลื่อนรถไฟฟ้า ด้วยการสลับแบทเตอรี BY E.GO

การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน มีด้วยกันหลายรูปแบบ ทั้งการผลิตไฟฟ้าภายในตัวรถด้วยเทคโนโลยีอย่าง FUEL CELLS นั้นคือการขับเคลื่อนในอุดมคติ เนื่องจากตัดปัญหาการจอดชาร์จไฟฟ้าระหว่างการเดินทางได้ แต่มันยังไม่พร้อมใช้งานจริงเนื่องจากอุปกรณ์ และส่วนประกอบต่างมีจำนวนมาก และมีขนาดใหญ่ ยังต้องรอเวลาในการพัฒนาเพื่อให้ถึงจุดที่สามารถใช้งานจริงได้ก่อน ซึ่งยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะพร้อม ความจุมากขึ้น แต่ขนาดเล็กลง วันนี้เทคโนโลยีในการผลิตแบทเตอรีก้าวกระโดดไปมาก แบทเตอรีมีขนาดความจุมากขึ้น ในขนาดที่รูปร่างเล็กลง สามารถเพิ่มรัศมีการเดินทางได้ไกลมากขึ้น รวมถึงระยะเวลาในการประจุ หรือชาร์จไฟที่น้อยลงกว่าเดิม ในกลุ่มของรถ BEV นั้น แม้จะสามารถ “ชาร์จเร็ว” ได้ก็ตาม แต่การประจุไฟเข้าแบทเตอรีจะทำได้ราว 80 % ของความจุเท่านั้น หลังจากนั้นจะเป็นการประจุไฟ หรือชาร์จแบบปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้แบทเตอรีร้อนจัด อันจะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพก่อนเวลา หรืออาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ ในการเดินทางไกล การชาร์จในลักษณะนี้ทำให้ตัวรถไม่สามารถเดินทางได้เต็มระยะอย่างที่ควรจะเป็น ผู้ขับขี่จะต้องทำการแวะชาร์จ หรือประจุไฟฟ้าหลายครั้งกว่าจะถึงปลายทาง   การสลับแบทเตอรีให้ผลดีกว่าการชาร์จเร็ว NEXT.E.GO MOBILE SE ในเยอรมนีได้ออกแบบให้ตัวรถ สามารถสลับหรือเปลี่ยนแบทเตอรีได้ง่ายขึ้น ตอนนี้เปิดตัวสถานีบริการ 2 แห่งแล้วในเยอรมนี ในอนาคตจะมีการขยายสถานีบริการให้มากขึ้นไปอีก แนวคิดนี้ไม่ใช่แนวคิดใหม่เป็นแนวคิดที่มีมานานพอสมควรแล้ว แต่ในช่วงแรกมันยังไม่พร้อมใช้งานจริง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเทคโนโลยีใหม่ การสลับแบทเตอรีนั้นให้ผลดีกว่าการชาร์จแบบเร็ว ก็เพราะว่าสามารถใช้งานแบทเตอรีได้เต็มอายุการใช้งาน การชาร์จแบบเร็วจะทำให้อายุการใช้งานของแบทเตอรีสั้นลงกว่าปกติ ไม่ต่างอะไรกับสมาร์ทโฟนที่ใช้การชาร์จเร็วเป็นประจำจะทำให้อายุการใช้งานของแบทเตอรีสั้นลง   สลับแบทเตอรีเหมือนการยืมใช้ การสลับแบทเตอรีของ E.GO ผ่านให้การบริการที่เรียกว่า E.PIT นั้น น่าสนใจตรงที่แบทเตอรีจะไม่ได้สลับกันเหมือนเป็นของกองกลางที่ใครๆ ก็ใช้ได้ แต่แบทเตอรีติดรถที่นำมาสลับใช้นั้น ยังคงเป็นของรถคันนั้นๆ การสลับก็เหมือนกับการยืมใช้ และฝากแบทเตอรีเดิมชาร์จ ลูกค้าต้องกลับมาสลับแบทเตอรีลูกเดิมติดรถกลับไปในที่สุด ระยะเวลาในการสลับแบทเตอรีในช่วงเริ่มต้นใช้เวลาราว 60 นาที ซึ่งทางผู้ให้บริการจะพัฒนาให้ใช้ระยะเวลาน้อยกว่าเดิม โดยจะเฉลี่ยให้เหลือราว 30 นาที หรือน้อยกว่า ถ้ามองการใช้งานแบบถนอมแบทเตอรี การสลับแบทเตอรีที่ใช้เวลาถึง 60 นาที ก็ยังน้อยกว่าการชาร์จแบบปกติหลายเท่าตัว การใช้งานรถไฟฟ้า หรือ BEV นั้นยังไม่สิ้นสุดง่ายๆ เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา