HYUNDAI SEVEN CONCEPT รถพลังไฟฟ้าวิ่งด้วยตัวเองพันธุ์โสมขาว...อีก 3 ปีมีขายแน่

สาธารณรัฐเกาหลี/สหรัฐอเมริกา-ใช้งาน AUTOMOBILITY LA (ออโทโมบิลิที แอลเอ) หรือ “มหกรรมการเคลื่อนที่ด้วยรถยนต์แห่งนครลอสแองเจลิส” ซึ่งมีขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2021 เป็นที่เปิดตัวแบบ “ครั้งแรกในโลก” คือ HYUNDAI SEVEN CONCEPT (ฮันเด เซเวน คอนเซพท์) รถแนวคิดคันล่าสุดของยักษ์ใหญ่เมืองโสมขาว ที่ผู้ผลิตยืนยันว่าจะผลิตขายจริง ไม่ใช่แค่ทำให้ดูเล่นเหมือนรถแนวคิดส่วนใหญ่ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของ ALL ELECTRIC CROSSOVER SUV (ออลล์ อีเลคทริค ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี) หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใดๆ และเป็นแม่แบบของรถพลังไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ค่ายนี้ตั้งใจจะนำออกสู่ตลาดภายในปี 2524 พร้อมกับป้ายชื่อ IONIQ 7 (ไอโอนิค 7) คือตามหลังรถ IONIQ 5 (ไอโอนิค 5) ที่เริ่มจำหน่ายไปแล้วเมื่อปี 2021 และ IONIQ 6 (ไอโอนิค 6) ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2022 ตัวถังทรง 2 กล่องของรถแนวคิดพลังไฟฟ้าคันนี้ เป็นผลลัพธ์ของการออกแบบให้มีพื้นรถเรียบ มีช่วงยื่นหน้ายื่นหลังและช่วงหน้าหม้อสั้น กับมีช่วงฐานล้อที่ยาวถึง 3.200 ม. จึงทำให้ได้ห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่ารถกิจกรรมกลางแจ้งแบบใดๆ ที่ค่ายนี้ผลิตขายปัจจุบัน เป็นห้องโดยสารที่มีสิ่งแปลกตาอยู่มากมาย เช่น ประตูข้างที่เปิดแยกจากกันโดยไม่มีเสาค้ำยันกลางเหมือนประตูตู้กับข้าว เก้าอี้ที่นั่งแถว 1 และแถว 2 ซึ่งมีที่วางแขน รวมทั้งสามารถเลื่อนหน้าเลื่อนหลังและหมุนได้รอบตัว ที่นั่งแถว 3 ซึ่งมีรูปลักษณ์เหมือนเก้าอี้โซฟาเข้ามุม การแทนที่พวงมาลัยด้วยอุปกรณ์ใหม่ที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า RETRACKTABLE JOYSTICK (รีทแรคท์เอเบิล จอยสติค) หรือแท่งบังคับที่พับเก็บได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน การแทนที่แผงอุปกรณ์หน้าปัดด้วยแถบควบคุมดิจิทอลที่พาดยาวตลอดความกว้างของห้องโดยสาร จอ OLED ขนาดใหญ่ติดตั้งใต้หลังคาที่เปลี่ยนแปลงภาพได้ตามความต้องการ และทำให้หลังคามีรูปลักษณ์เหมือนเป็น SUNROOF (ซันรูฟ) ฯลฯ อย่างไรก็ตาม คาดกันว่าเมื่อเปลี่ยนสภาพเป็นรถผลิตขายสมบูรณ์แบบ เก้าอี้ที่นั่งทุกแถวจะมีลักษณะเหมือนรถทั่วไป จะใช้ระบบขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ซึ่งมีคุณสมบัติทางเทคนิคคล้ายคลึงกับที่เห็นกันมาแล้วในรถ IONIQ 5 จะมีทั้งรถขับเคลื่อนล้อหลังและรถขับเคลื่อนทุกล้อ ที่น่าติดตามมากก็คือ จะเป็นรถวิ่งได้ด้วยตัวเอง อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า AUTONOMOUS DRIVE (ออโทโนมัส ดไรฟ) แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าระดับใดๆ