เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
โลดแล่นไปกับรถที่เร็วที่สุดในโลก
ไม่มีรถคันไหนที่จะเร็วไปกว่า THRUST SSC นี่คือ เรื่องราวเบื้องหลังความเร็วที่ทำลายทุกสถิติ
เรียบเรียงโดย : MIKE JENNINGS
คุณอาจคิดว่าตัวเองขับรถเร็วบนถนนมอเตอร์เวย์ แต่ไม่มีอะไรที่จะมาเทียบกับ THRUST SSC ได้ เจ้าอสูรร้ายที่มีถิ่นกำเนิดจากอังกฤษคันนี้กลายเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 1997 และมันก็เร็วมากเสียจนไม่มีรถคันไหนเทียบได้ตั้งแต่นั้นมา
THRUST SSC ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 1,227.98 กม./ชม. และกลายเป็นยานพาหนะทางบกคันแรกที่ทำความเร็วเหนือเสียงได้ และที่ไม่น่าเชื่อก็คือ นั่นเป็นการทำลายสถิติครั้งที่ 2 ของ THRUST SSC โดยมันทำลายสถิติของตัวเองที่ทำไว้เมื่อเดือนก่อนหน้าที่ความเร็ว 1,149.30 กม./ชม.
ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมรถคันนี้ถึงได้เป็นกระแส เครื่องยนต์ ROLLS-ROYCE ถูกดึงมาจากเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศ เพื่อให้ได้เสียงคำราม และกำลังมากถึง 102,000 แรงม้า ซึ่งมากกว่ารถครอบครัวธรรมดาถึง 670 เท่า THRUST SSC ทำความเร็วได้ 965.61 กม./ชม.ในเวลาเพียง 16 วินาที ก่อนที่จะเร่งทำความเร็วสูงสุดเป็นประวัติการณ์
THRUST SSC ถูกสร้างขึ้นในปี 1996 และทดสอบใน JORDAN แต่การวิ่งทำลายสถิตินั้นเกิดขึ้นที่ทะเลทราย BLACK ROCK ใน NEVADA เป็นสถานที่ที่ใช้เวลาขับรถไปไกลมาก แต่ก็สมเหตุสมผล: ทะเลทรายเคยเป็นแอ่งน้ำโบราณที่เรียกว่าทะเลสาบ LAHONTAN และปัจจุบันพื้นผิวของมันก็ราบเรียบ และเป็นดินแห้งแล้งหมดแล้ว มันเรียบเนียน มั่นคง และเข้ากันได้ดีกับล้อโลหะแข็งพิเศษของ THRUST SSC
ทีมออกแบบนำโดย RICHARD NOBLE, RON AYERS, GLYNNE BOWSHER และ JEREMY BLISS ผู้อำนวยการโครงการ RICHARD NOBLE เป็นนักขับของ THRUST 2 ซึ่งเป็นพาหนะความเร็วทางบกที่เคยสร้างสถิติไว้ก่อนหน้า THRUST SSC ส่วนนาวาอากาศเอก ANDY GREEN ผู้ขับ THRUST SSC เคยเป็นนักบินเครื่องบินรบของกองทัพอากาศ ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับพาหนะความเร็วสูงอยู่แล้ว จึงพูดได้เต็มปากว่า พวกเขารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
RICHARD NOBLE และ ANDY GREEN คือ 2 บุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง SSC
THRUST SSC ถูกจัดแสดงต่อสื่อก่อนจะทำลายสถิติในปี 1997
สำรวจ THRUST SSC
มันเป็นรถที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา อะไรทำให้ THRUST SSC เร็วนรกได้ขนาดนี้ ?
พวงมาลัย
รถที่ทำลายสถิติคันนี้ควบคุมด้วย JET-STYLE แบบเดียวกับเครื่องบินเจท
จมูกปลายแหลม
อากาศพลศาสตร์ มีความสำคัญมากเมื่อใช้ความเร็วสูง และจมูกปลายแหลมของ SSC ช่วยในการแหวกอากาศได้เป็นอย่างดี
แรงกดกับตัวรถ
ปีกหลังของ THRUST SSC จะสร้างแรงกดรถไว้ที่พื้น (DOWNFORCE) และช่วยให้รถนิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในความเร็วสูง
ร่มช่วยเบรค
ร่มชูชีพขนาดใหญ่สามารถสร้างแรงดึงกลับได้มากถึง 400 ถึง 500 ตัน เพื่อช่วยชะลอความเร็วให้ THRUST SSC หลังจากทำความเร็วเพิ่มเพื่อทำลายสถิติ
ความคุมการลื่นไถล
ล้อหลังที่ส่ายไปมาของรถนั้นควรจะต้องทำให้บางลง แต่จริงๆ แล้วมันทำให้เกิดความไม่มั่นคงในการขับขี่
ห้องคนขับแบบปิด
ห้องคนขับใน THRUST SSC นั้นเล็ก, คับแคบ และไม่ได้ทันสมัยอะไรมากมาย ล้อมรอบด้วยแป้นหมุน และปุ่มต่างๆ มากมาย
บูสต์ทรงพลัง
เครื่องยนต์ 2 เครื่องของ THRUST SSC มีน้ำหนักตัวละ 1,856 กิโลกรัม และพวกมันเป็นเครื่องยนต์ที่พบได้ในเครื่องบินขับไล่ F-4 PHANTOM II
น้ำมันเต็มถัง
THRUST SSC กินเชื้อเพลิง 18 ลิตรต่อวินาที อัตราสิ้นเปลือง 0.04 ไมล์ต่อ 1 แกลลอน
การขับขี่ที่ความเร็ว 1,227.92 กม./ชม. มันเป็นอย่างไรกัน ?
ANDY GREEN ผู้ขับ THRUST SSC มีมุมมองเรื่องการเดินทางด้วยความเร็วสูงที่ไม่เหมือนใคร ในขณะที่เขากำลังทำความเร็วเหนือเสียงในยานพาหนะความเร็วสูงนั้น GREEN อธิบายว่ามันจะเกิด “เสียงหวีดที่ดัง และสูงที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา” และเมื่อคุณกำลังอยู่ที่ความเร็วระดับนั้น “ล้อจะเหินข้ามพื้นผิว และคลื่นกระแทกจะสร้างแรงปะทะที่ไม่เท่ากันออกมา” เมื่อรวมมันเข้ากับลมที่พัดผ่านมาจึงไม่แปลกใจเลยที่ “รถจะสไลด์ไปทั่วสนาม”
ที่จริงแล้ว รถจะถูกดึงไปทางด้านซ้ายระหว่างการเร่งความเร็ว ดังนั้น GREEN จึงต้องดึงพวงมาลัยไปทางขวา 90 องศา เพื่อให้รถยังวิ่งเป็นเส้นตรงต่อไปได้
การพยายามทำลายสถิติเกิดขึ้นประจำใน NEVADA สถานที่เหมาะกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง
BLOODHOUND ได้ทำการทดสอบไปแล้ว แต่โครงการถูกพักไว้ชั่วคราวหลังประสบปัญหาการเงิน
คู่แข่งรายใหม่ทำลายสถิติความเร็วสูงสุดของพาหนะทางบกได้ที่ความเร็วมากกว่า 1,609.34 กม./ชม. ?
RICHARD NOBLE ผู้อำนวยการโครงการของ THRUST SSC ได้สร้าง และขับ THRUST 2 ซึ่งเป็นรถที่ทำสถิติความเร็วทางบกตั้งแต่ปี 1983 ถึง 1997 THRUST 2 นั้นไม่ธรรมดาเลย มันมีกำลังถึง 30,000 แรงม้าจากเครื่องยนต์ JET ตัวเดียว
NOBLE ยังไม่พอใจกับ THRUST SSC ทว่าโครงการล่าสุดของเขาก็ยังไม่เป็นไปตามแผนเช่นกัน เขาช่วยพัฒนา BLOODHOUND SSC ซึ่งเป็นรถที่มีเป้าหมายว่าจะทำความเร็วให้ได้มากกว่า 1,609.34 กม./ชม. AYERS ต้องกลับเข้ามามีส่วนร่วมอีกครั้ง และ GREEN ก็เป็นคนขับพาหนะความเร็วสูงนี้อีกครั้งเช่นกัน
BLOODHOUND ได้ทำการทดสอบที่แอฟริกาใต้ในปี 2019 แต่การระบาดของ COVID-19 เข้ามาช่วงชิงโอกาสในการวิ่งรถของทีมไป และโครงการก็ไม่มีเงินทุนเหลือพอที่จะสานต่อเครื่องยนต์ที่อาจทำความเร็วให้พวกเขาได้ถึง 1,609.34 กม./ชม. น่าเศร้าที่โครงการต้องถูกพับไป รถก็ถูกนำไปขาย นอกเสียจากจะมีใครสักคนที่ไม่รู้จะเอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหนมาสานต่อ และพวกเขาคงจะทำความเร็วได้ถึง 1,609.34 กม./ชม. ได้ไม่ช้าก็เร็ว
ประวัติศาสตร์ความเร็ว
63.15 กม./ชม.
1898
GASTON DE CHASSELOUP-LAUBAT ขับ JEANTAUD DUC ขนาด 36 แรงม้า เป็นพาหนะทางบกที่สร้างสถิติความเร็วครั้งแรก
105.87 กม./ชม.
1899
CAMILLE JENATZY ควบ LA JAMAIS CONTENTE รถแข่งคันแรกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำความเร็ว และเป็นความพยายามครั้งแรกในการเร่งสปีดได้ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง
202.68 กม./ชม.
1909
สถิตินี้เกิดขึ้นที่ BROOKLANDS ใน SURREY และเป็นความพยายามจับเวลาแบบอีเลคทรอนิคส์เป็นครั้งแรก
235.22 กม./ชม.
1924
MALCOLM CAMPBELL ทำลายสถิติด้วย SUNBEAM 350HP และในที่สุดเขาก็สามารถรักษาสถิติไว้ได้ถึง 8 ครั้ง
327.96 กม./ชม.
1927
HENRY SEGRAVE ขับ SUNBEAM MYSTERY ที่ชายหาด DAYTONA และเป็นรถคันแรกที่ทำความเร็วได้มากกว่า 321.86 กม./ชม.
484.62 กม./ชม.
1935
ครั้งแรกที่สถิติถูกทำลายบนที่ราบลานเกลือ BONNEVILLE ใน UTHA และสถานที่นี้ได้กลายเป็นสนามทำลายสถิติยอดนิยมหลังจากนั้น
655.72 กม./ชม.
1963
THE SPIRIT OF AMERICA ใช้เครื่องไอพ่นในการทำสถิติใหม่ แต่ด้วยความซับซ้อนของกฏหมาย มันจึงไม่ได้รับการรับรองว่า เป็นการทำสถิติอย่างเป็นทางการจนกระทั่งในภายหลัง
648.72 กม./ชม.
1964
DONALD CAMPBELL ทำสถิตินี้ด้วย BLUEBIRD-PROTEUS CN7 เป็นสถิติสุดท้ายที่ทำได้ก่อนที่เครื่องไอพ่นจะกลายเป็นของธรรมดา
1,019.47 กม./ชม.
1983
RICHARD NOBLE เป็นผู้ขับ THRUST 2 ทำสถิติความเร็วที่ทะเลทราย BLACK ROCK รถของเขาใช้เครื่องไอพ่นของ ROLLS-ROYCE เพียงตัวเดียว
1,221 กม./ชม.
1997
ANDY GREEN ทำลายสถิติ THRUST 2 ของ NOBLE ด้วย THRUST SSC และยังไม่เคยพ่ายแพ้อีกเลย จนถึงตอนนี้ !
ภายในของเบาะนั่งมีอะไร ?
เป็นมากกว่าที่รองก้นของคุณ เพราะเทคโนโลยีของเบาะนั่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่
คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อได้ทดลองขับรถยนต์ หรือนั่งบนที่นั่งผู้โดยสาร ? สิ่งแรกที่หลายคนจะรู้สึกได้โดยอัตโนมัติคือ ความสะดวกสบาย ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคุณสมบัติหลักที่สำคัญของรถที่ควรต้องพิจารณา เมื่อเราต้องเลือกรถที่เหมาะกับการเดินทางไกล เบาะนั่งได้ถูกพัฒนาให้ท่าทางในการขับขี่ของเราอยู่ในท่าที่สมบูรณ์แบบ และรองรับทุกตำแหน่งของร่างกายที่มีการเกร็งมากที่สุด
การเลือกใช้วัสดุนั้นมีผลอย่างมากต่อความรู้สึกของการเดินทางด้วยรถยนต์ โดยทั่วไปแล้ว ที่นั่งควรจะมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 6 % ของมวลรถทั้งหมด ผู้ผลิตพยายามอย่างต่อเนื่องในการใช้วัสดุน้ำหนักเบาชนิดใหม่ๆ ที่จะช่วยเรื่องการประหยัดน้ำมัน ตัวเลือกในการใช้วัสดุน้ำหนักเบาสำหรับเบาะนั่งที่คัดสรรมาแล้ว เช่น พลาสติคเสริมเส้นใยคาร์บอน, แมกนีเซียม และอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงสูงจะช่วยลดน้ำหนักของเบาะนั่งบางส่วนได้มากถึง 30 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับการผลิตเบาะนั่งส่วนใหญ่ที่ใช้โครงเหล็กชิ้นเดียว
องค์ประกอบที่สำคัญที่ต้องพิจารณาไม่ว่าจะเป็นการออกแบบส่วนไหนของรถก็ตามก็ คือ ความปลอดภัย และความสะดวกสบายของเบาะนั่งก็สามารถสัมพันธ์กับความปลอดภัยได้โดยตรง จุดมุ่งหมายของผู้ขับขี่คือ การดึงความสนใจทั้งหมดไปยังถนนที่อยู่ด้านหน้า หากขาเริ่มปวด และหลังเริ่มแข็ง มันอาจเป็นเรื่องยากที่จะไม่ให้สิ่งเหล่านี้เข้ามามีผลต่อคุณภาพในการขับขี่ของคุณ
สรุปว่า ตั้งแต่เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังทำให้เบาะนั่งสามารถมอบให้ทั้งความหรูหรา และความปลอดภัย
พนักพิงศีรษะของเบาะรถยนต์ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1921
ภายใต้ที่นั่ง
ส่วนประกอบเหล่านี้ทำงานอย่างไรในการช่วยรองรับแผ่นหลังของคุณ ?
พนักพิงศีรษะ
ส่วนนี้ของที่นั่งจะช่วยจำกัดการเคลื่อนไหวของศีรษะในระหว่างเกิดการชน และป้องกันการสะบัด พนักพิงศีรษะที่เคลื่อนไหวเองได้จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติทันทีที่มีแรงกระแทกเพื่อลดระยะห่างระหว่างศีรษะ และเบาะนั่ง
การระบายอากาศ
เบาะนั่งถูกทำขึ้นโดยใช้วัสดุตาข่ายที่มีการซึมผ่านได้เพื่อมีช่องให้อากาศถ่ายเท เบาะนั่งบางประเภทจะมีเครื่องปรับอากาศที่มีพัดลมภายในช่วยเป่าลมผ่านเข้าไป
เพิ่มความร้อน
เบาะนั่งบางประเภทจะติดตั้งคอยล์ร้อนไว้ด้านล่าง เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตัวที่นั่ง ตัวคอยล์จะต้านทานการไหลผ่าน แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยานี้จะก่อให้เกิดความร้อน
รองรับต้นขา
ส่วนล่างของที่นั่งจะมีเบาะ เพื่อรองรับต้นขาของคุณ และส่วนนี้จะถูกยกสูงขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้คุณไหลมาข้างหน้าเมื่อเบรค
รองรับส่วนเอว
ที่นั่งมักจะมีส่วนโค้งเพื่อให้พอดีกับช่วงหลังด้านล่างของคุณ ส่วนนี้สามารถปรับให้ตรงกับสรีระของแต่ละคนได้
เบาะด้านข้าง
รองรับส่วนหลัง ส่วนด้านข้างโค้งไปด้านหน้าเพื่อโอบรับช่วงตัว และประคองให้ผู้ขับขี่นั่งตัวตรง
ตัวปรับสไลด์
ในการปรับระยะห่างระหว่างที่นั่งกับพวงมาลัย คันโยกจะปลดตัวลอคที่ลอคเก้าอี้กับราวเหล็ก เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลื่อนเก้าอี้ไปด้านหน้า หรือถอยหลังได้
รัดเข็มขัดไปกับเบาะนั่งแห่งอนาคต
หากคุณเป็นคนขับที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ในอนาคตที่นั่งของคุณจะคุ้นเคยกับคุณเหมือนกับที่คุณคุ้นเคยกับมัน เบาะนั่งแบบ BIOMETRIC SEATS กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยมีเป้าหมายเพื่อตรวจสอบความตึงเครียดของผู้ขับขี่ในระหว่างการเดินทาง เซนเซอร์ที่มีปฏิกิริยาตอบสนองไวจะเก็บข้อมูลทางสรีระไว้ เช่น อุณหภูมิร่างกาย, การหายใจ และอัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึงการเคลื่อนไหวของร่างกายขณะนั่งบนที่นั่ง เช่น การขยับตัวแก้เมื่อยระหว่างการขับขี่ที่ยาวนาน ด้วยข้อมูลทั้งหมดนี้ เบาะนั่งอัจฉริยะจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ทันที หากข้อมูลที่รวบรวมมาได้นั้นบอกว่า มีส่วนใดส่วนหนึ่งกำลังอยู่ภายใต้แรงกดที่มากเกินไป และจะส่งผลกับการขับขี่ที่ปลอดภัย
เมื่อการขับขี่อัตโนมัติเป็นที่แพร่หลาย วิศวกรก็กำลังวางแผนจะออกแบบเบาะนั่งที่สามารถตรวจจับได้ว่าบุคคลที่กำลังนั่งอยู่นั้นกำลังขับรถเอง หรือไม่
BIOMETRIC CAR SEAT สามารถตรวจจับความเหนื่อยล้าได้โดยการสังเกตจากอัตราการเต้นของหัวใจ และการทำงานของกล้ามเนื้อ
อาหารสมอง
รองเท้า NORTH FACE VECTIV TARAVAL ราคา 110 ปอนด์ thenorthface.uk
การเดินออกกำลังเพื่อลดแคลอรีส่วนเกินจะสนุกยิ่งขึ้นเมื่อคุณสวมรองเท้า VECTIV TARAVAL สุดไฮเทคของ NORTH FACE ซึ่งมีพื้นรองเท้าชั้นกลางแบบโยก เพื่อความมั่นคงที่เหนือชั้น และพื้นรองเท้าชั้นนอกที่มีสมรรถนะการยึดเกาะสูง ทำให้วิ่งได้อย่างปลอดภัย
ถุงอาหารกลางวัน BLACK+BLUM ราคา 19.95 ปอนด์ black-blum.com
ถุงอาหารกลางวันแบบมีฉนวนของ BLACK+BLUM อาจเปรียบเทียบง่ายๆ ได้กับ ถุงแซนวิชแบบซิพลอคที่ทั้งเท่ และแข็งแรงกว่า ตัวถุงผลิตจาก PET รีไซเคิล แถมดีไซจ์นแบบม้วนด้านบน ยังช่วยให้แขวนกับแฮนด์รถ และเกี่ยวเข้ากับสายสะพายเป้ได้ง่ายขึ้น และใหญ่พอที่จะใส่กล่องอาหารกลางวัน และขวดน้ำได้
เตาบาร์บิคิว CAMPINGAZ ATTITUDE 2GO CV BARBECUE ราคา 199.99 ปอนด์ campingaz.com
หากรักการตั้งแคมพ์ คุณจะหลงรักเตาบาร์บีคิวชนิดใช้แกสแบบพกพารุ่นใหม่ของ CAMPINGAZ ซึ่งใช้เตาแกสพิคนิค CV470 PLUS น้ำหนักเบาใช้ตัวจุดไฟสำหรับทำอาหาร มีเทอร์โมมิเตอร์ในตัว ตรวจสอบอุณหภูมิได้โดยไม่ต้องเปิดฝา
ออกล่า หากิน
สุดยอดสถานที่ห้ามพลาดของนักชิม
TAMARA HINSON แนะนำร้านอาหารแสนอร่อย 3 มุมโลก
ในปีที่ผ่านมา เราต่างใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการกักตัวอยู่ในบ้าน ปั่นขนมปังกล้วย ไล่สั่งอาหารที่ได้รีวิวดีๆ แล้วหวังว่ามันจะแปลกใหม่ และอร่อย ดังนั้น การที่ร้านอาหารกลับมาเปิดได้อีกครั้งจึงเป็นเรื่องน่ายินดี ทำให้ใครหลายคนอยากออกไปทานอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่สูญหายไป แต่คงไม่มีวิธีไหนที่จะตอบสนองความหิวโหย และความเร่าร้อนของเหล่านักชิมได้ดีไปกว่าการทานอาหารภายใต้กระทู้การผจญภัยอีกแล้ว
แห่งแรกที่อยากแนะนำได้แก่ เมืองตลาดเก่าแก่ใน LEICESTERSHIRE อย่าง MELTON MOWBRAY ที่นี่ คือ จุดกำเนิดของพายหมูอันเป็นเอกลักษณ์ และเพิ่งมีอายุครบ 170 ปี ในปี 2021 ซึ่งคุณสามารถไปลองชิมได้จริงๆ ที่ร้าน YE OLDE PORK PIE SHOPPE (porkpie.co.uk) ก่อตั้งขึ้นในปี 1851 โดย JOHN DICKINSON นอกจากนั้น คุณยังสามารถใช้เส้นทาง MELTON HERITAGE TRAIL เพื่อสำรวจเมืองได้ และเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ MELRON CARNEGIE ที่อยู่ด้านในห้องสมุด CARNEGIE เดิมที่สร้างขึ้นในปี 1905 ด้วยทุนสนับสนุนจาก ANDREW CARNEGIE นักอุตสาหกรรมชาวสก็อต-อเมริกัน
หากต้องการไปไกลกว่านี้ ลองพิจารณาสิงคโปร์ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวมอาหารที่น่าตื่นเต้นที่สุดในเอเชีย แถมในช่วงปลายปี 2020 วัฒนธรรมพ่อค้าหาบเร่ที่เป็นเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมของสิงคโปร์ ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมโดย UNESCO อีกด้วย เราแนะนำให้ลองร้าน YUM SING! (yumsing.com.sg) ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ใจกลางย่าน CLARKE QUAY ที่โด่งดังเรื่องอาหารสิงคโปร์แบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นก๊วยเตี๋ยวเส้นราดน้ำซุบ หรือข้าวมันไก่ และหากต้องการทานอาหารข้างถนนเหล่านี้แบบโมเดิร์นหน่อยให้ไปที่ร้านอาหารระดับมิเชอแลง อย่าง LABYRINTH (restaurantladyrinth.com) ซึ่งเชฟ LG HAN จะรังสรรค์อาหารอร่อยๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัยเด็กของเขามาให้ชิมกัน และที่สุดท้าย คือ เมืองดัลลาสในเทกซัสที่ซึ่งเมื่อราว 50 ปีที่แล้ว หรือในปี 1971 เจ้าของร้านอาหาร MARIANO MARTINEZ ได้สร้างเครื่องทำมาการิตาแช่แข็งเครื่องแรกของโลกโดยการนำเครื่องจ่ายไอศครีมเนื้อนุ่ม และโยเกิร์ตแบบเก่ามาปรับปรุงใหม่จนเมืองนี้ได้รับขนานนามว่าเป็นบ้านของมาการิตาแช่แข็ง คุณจะพบบาร์ดีๆ มากมายในเมือง MARGARITA MILE (visitdallas.com)
ABOUT THE AUTHOR
T
T3
ภาพโดย : T3นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2565
คอลัมน์ Online : เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS