MICROSOFT SURFACE PRO 9 VS MACBOOK PRO M2 PRO

ทดสอบ วิจารณ์ และแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คุณเลือกได้อย่างมั่นใจ เรื่อง : JOSH RUSSELL T3 ทดสอบอย่างไร เรานำเสนอเฉพาะอุปกรณ์ที่ดีที่สุดเท่านั้น เพื่อให้ผู้อ่านเลือกอย่างมั่นใจว่าจะได้ใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องเสียเวลา และเงินทองไปกับสินค้าที่ไม่คุ้มค่า ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นได้รับการคัดสรร ทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญของ T3 ที่มีความรู้เฉพาะทาง และสะสมประสบการณ์ในด้านนั้นๆ มานานหลายปี นอกจากระบบการให้คะแนน 1-5 ดาว ตามแบบดั้งเดิม (ด้านขวา) เรายังมอบรางวัลให้แก่อุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยม ตามรายการต่างๆ ด้านล่าง ดังนั้น เมื่อเห็นรางวัลใดรางวัลหนึ่ง คุณมั่นใจได้เลยว่า มันเป็นของดีที่คู่ควรกับคุณ   MICROSOFT SURFACE PRO 9 ราคาเริ่มต้นที่ 1,040 ปอนด์, Microsoft.com ทดสอบ อุปกรณ์ 2-IN-1 สามารถใช้งานได้ทั้งโหมดแลพทอพ และแทบเลทได้อย่างสะดวกสบาย MICROSOFT SURFACE PRO 9 เป็นหนึ่งในแลพทอพ 2-IN-1 ที่ดีสุด ซึ่งคุณสามารถเป็นเจ้าของได้ มันไม่ได้แตกต่างจากรุ่นปีที่แล้วเท่าไร ดังนั้นหากลังเลว่าจะอัพเกรดเป็นรุ่นนี้ดีหรือไม่ มันอาจไม่เหมาะ แต่ถ้าสำหรับการซื้อครั้งแรกแล้วล่ะก็ จัดไป MICROSOFT ไม่ได้เปลี่ยนดีไซจ์นของ MICROSOFT SURFACE PRO 9 เลย ก็เพราะมันยังใช้ได้อยู่ จะเปลี่ยนทำไม ? ด้วยขนาด 287x209x9.3 มม. น้ำหนัก 879 ก. ก็เป็นแทบเลทที่มีขนาดพอเหมาะ บาง และเบา ต่อให้เชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดของ SURFACE PRO แล้วก็ตาม จอแสดงผล PIXELSENSE FLOW ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2,880x1,920 พิกเซล (267 PPI) มีอัตราส่วนภาพอยู่ที่ 3:2 จอให้ภาพสว่าง คมชัด มีชีวิตชีวา ทำให้ทุกคอนเทนท์นั้นออกมาดีทุกประเภท เราสามารถเห็นรายละเอียดภาพใน NETFLIX ได้ทุกซอกทุกมุม แม้แต่ในมุมมืด ทำให้ซื้อของออนไลน์ได้อย่างแม่นยำ เพราะหน้าจอจะแสดงผลของสีได้ถูกต้อง ขนาดของหน้าจอที่ใหญ่นั้นหมายความว่า คุณสามารถวางเอกสารไว้ในหน้าจอได้หลายชุดในคราวเดียว ข้อดีอีกอย่าง คือ หน้าจอทัชสกรีน โดยเฉพาะเวลาที่คุณใช้ SLIM PEN 2 ที่สามารถซื้อแยกได้ รวมถึง SURFACE PRO SIGNATURE KEYBOARD เราพบว่า SLIM PEN 2 นั้นสามารถเชื่อมต่อได้ทันที และดีไซจ์นแบบแบนนั้นให้ความรู้สึกที่สบายเมื่ออยู่ในมือ คีย์บอร์ดแยกก็ใช้งานได้เป็นอย่างดี มันยึดกับขอบด้านล่างของแทบเลทด้วยแม่เหล็ก และใช้งานแบบวางราบไปกับโต๊ะ หรือวางลาดขึ้นมาก็ได้ ซึ่งเราคิดว่ามันทำให้ประสบการณ์การพิมพ์นั้นสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แป้นพิมพ์แต่ละแป้นมีระยะกดเป็นที่น่าพึงพอใจ มีการเว้นระยะของแต่ละแป้นได้เป็นอย่างดีเพื่อหลีกเลี่ยงการพิมพ์ผิดได้อย่างเหมาะสม สำหรับแทบเลท เราประทับใจกับประสิทธิภาพ แต่สำหรับแลพทอพแล้ว ถือว่ายังน้อยไป การประมวลผล การจดบันทึก การใช้งานเวบไซท์ลื่นไหล แต่ในด้านเล่นเกม และใช้งานครีเอทีฟที่มีความซับซ้อน อย่างเช่น การตัดต่อวีดีโอ พูดได้ว่า ยังทำได้ไม่ลื่นนัก อย่างที่คาดไว้ MICROSOFT SURFACE PRO 9 มาพร้อมกับ WI-FI 6E ตัวล่าสุดเพื่อการเชื่อมต่ออินเตอร์เนทที่เร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตราบใดที่เราเตอร์ที่บ้านยังรองรับ บางรุ่นมาพร้อมการรองรับ 5G สำหรับผู้ที่อยากเชื่อมต่ออินเตอร์เนทตลอดในทุกที่ที่ไป แต่นั่นก็มาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้นไม่น้อย โดยปกติ แบทเตอรี MICROSOFT SURFACE PRO 9 จะใช้งานได้เกินครึ่งวัน เราทดสอบด้วยการเล่นวีดีโอรายการทีวีที่เราโหลดไว้ที่ความสว่างสูงสุด และพบว่า MICROSOFT SURFACE PRO 9 สามารถอยู่ได้นานกว่า 5 ชม. ซึ่งไม่ใช่เวลาการใช้งานที่ดีสุด แต่ก็เพียงพอสำหรับคนส่วนมาก เช่นเดียวกับรุ่นก่อนๆ ที่ออกมา MICROSOFT SURFACE PRO 9 นั้นดีเท่าที่แทบเลทแปลงเป็นแลพทอพสามารถทำได้ เพราะมันใช้งานได้เป็นอย่างดี แม้อาจจะไม่ได้เป็นแทบเลทพกพาได้สะดวกที่สุด หรือแลพทอพทรงพลังที่สุดก็ตาม แต่ก็เป็นจุดร่วมที่โอเคที่สุดของทั้ง 2 อุปกรณ์ ซึ่งเป็นอะไรที่คุณไม่สามารถหาจากที่อื่นได้บ่อยๆ คะแนนจาก T3 น่าประทับใจ : ใช้งานง่ายในโหมดแทบเลท จอแสดงผล PIXELSENSE FLOW ขนาด 13 นิ้ว ใช้ WINDOWS 11 มีเลือกระบบ 5G ควรปรับปรุง : มีตัวเลือกอื่นที่มีสเปคดีกว่านี้ ช่องพอร์ทน้อย คีย์บอร์ดแยกขาย สรุป : หากต้องการแทบเลทที่ใช้งานแทนคอมพิวเตอร์ได้ง่าย นี่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม มัน อาจมีสเปคไม่แรงเท่ากับแลพทอพทั่วไป แต่มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นอื่นมากเช่นกัน   MACBOOK PRO M2 PRO ราคาเริ่มต้น 2,149 ปอนด์, apple.com ทดสอบ M2 PRO (และ M2 MAX) ของ APPLE เป็นแลพทอพตัวจบสำหรับงานตัดต่อจริงหรือ ? หากกำลังมองหา MACBOOK PRO ที่ดีที่สุดที่ซื้อไหว คุณมาถูกที่แล้ว เนื่องจากมีชิพ M2 PRO เป็นแลพทอพทรงพลัง ตอบโจทย์การประมวลผลกราฟิค MACBOOK PRO ที่รุนแรงสำหรับครีเอทีฟที่กำลังกระหายในการสร้างสรรค์ผลงาน ราคาอาจแตกต่างกันมาก ไม่ว่าจะเลือกรุ่น 14 หรือ 16 นิ้ว ในแต่ละรุ่น มีการกำหนดค่าถึง 3 แบบ 2 แบบสำหรับ M2 PRO และ 1 แบบ สำหรับ M2 MAX แบบ 14 นิ้ว มาพร้อมกับ M2 PRO มีราคาเริ่มต้นเบาๆ 2,149 ปอนด์ แต่แบบ 16 นิ้ว เริ่มต้นที่ 2,699 ปอนด์ และรุ่นที่มาพร้อมกับ M2 MAX ราคาเริ่มที่ 3,749 ปอนด์ ตัวเลือก M2 MAX 16 นิ้ว มาพร้อมหน่วยความจำแบบรวม 96GB และได้รับการอัพเกรดไปที่ขนาด 8TB SSD เป็นราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่สมเหตุสมผลถึง 6,749 ปอนด์ คนส่วนใหญ่ต้องการของพวกนั้นไหม ไม่แน่นอน ถ้าหากเป็นครีเอทีฟระดับไฮเอนด์ และใช้เจ้านี่แทนคอมพิวเตอร์แบบเดสก์ทอพล่ะก็ หน่วยความจำประเภทนี้อาจตอบโจทย์การทำงานของคุณก็เป็นได้ หากมี MACBOOK PRO รุ่นปี 2021 ที่มีชิพ M1 PRO หรือ M1 MAX อยู่แล้ว คุณอาจสงสัยทันทีว่า ควรต้องซื้อ MACBOOK PRO รุ่นปี 2023 อีกหรือไม่ ?   ข้อมูลจำเพาะ จอภาพ 14.2 นิ้ว 3,024x1,964/16.2 นิ้ว 3,456x2,234 120HZ HDR MINI-LED ชิพ APPLE M2 PRO/M2 MAX CPU 10-CORE/12-CORE GPU 16-CORE/19-CORE/30-CORE/38-CORE หน่วยประมวลผล 16 CORE RAM 16GB/32GB/ 64GB/96GB ความจุ 512GB/1TB/2TB/4TB/8TB SSD ระบบปฏิบัติการ MACOS การเชื่อมต่อ 3xTHUNDERBOLT 4, HDMI 2.1, MAGSAFE 3 พอร์ท, ช่อง 3.5 มม., ช่องคาร์ด SDXC, WI-FI 6E, BLUETOOTH 5.3 ขนาด 312.6x221.2x15.5 มม./ 355.7x248.1x16.8 มม. น้ำหนัก 1.6 กก./1.63 กก./ 2.15 กก./2.16 กก. สว่างสดใส จากการเปิดตัว IPAD PRO รุ่น 12.9 นิ้ว จอแสดงผล HDR MINI-LED ของ APPLE ได้ปรากฏตัวอย่างอบอุ่นอีกครั้งที่นี่ ให้คอนทราสต์สูง และความสว่างสูงถึง 1,600 NITS จุดเด่นหลักของ M2 PRO อยู่ที่การเพิ่มพลังในการประมวลผลถึง 20 % แม้จะมองว่า อาจไม่ใช่เหตุผลหลักในการซื้อใหม่ แต่ส่วนที่สำคัญต่อนักครีเอทีฟระดับไฮเอนด์จริงๆ คือ M2 MAX เข้าถึงหน่วยความจำรวมที่มากกว่าชิพ M1 ULTRA อาจเป็นสิ่งล่อใจที่ยากจะต้านทาน ถ้ามองข้ามเรื่องชิพไป ความแตกต่างระหว่าง MACBOOK PRO รุ่นปี 2021 และ 2023 นั้นแตกต่างอย่างไร ? คำตอบ คือ ต่างกันไม่มาก ! ดีไซจ์นนั้นแทบจะเหมือนเดิม นั่นหมายความว่า ขนาด และน้ำหนักเท่ากัน ในขณะที่จอยังคงเป็น LIQUID RETINA XDR เหมือนเดิม (ซึ่งเป็นแผง LED ขนาด MINI แต่มีคุณภาพดีมากๆ เช่นกัน) นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีความแตกต่างเลย MACBOOK PRO รุ่นปี 2023 มีการอัพเดทพอร์ท HDMI เป็น 2.1 สามารถรองรับคอนเทนท์ที่มีค่า FRAME RATE CONTENT สูงได้ คุณสามารถรันจอแสดงผลความละเอียด 8K ที่ 60HZ หรือความละเอียด 4K ที่ 240HZ ได้ นั่นเป็นการอัพเกรดที่ใช้ได้ หากใช้งานหน้าจออย่างสม่ำเสมอ และยังรองรับการใช้งาน 2 หน้าจอที่ความละเอียด 6K ที่ M2 PRO รองรับ หรือ 4 หน้าจอที่ความละเอียด 6K ที่ M2 MAX รองรับ   ถึงเวลา LED แม้ทุกอย่างใน MACBOOK PRO รุ่นปี 2023 จะไม่ใช่ของใหม่ แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างจะไม่ดี จอ LIQUID RETINA XDR เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยม และเป็นจอระดับอาจารย์ที่แลพทอพอื่นๆ ตามเอาเยี่ยงอย่าง ในตอนนี้ ชื่อพาแนลอาจต้องนำมาถอดรหัสต่อเล็กน้อย เนื่องจากมันเป็นชื่อที่มีความเป็น APPLE มากเหลือเกิน XDR BIT เป็นศัพท์ที่บริษัทใน CUPERTINO เรียกว่าเป็น LED ขนาดเล็ก รองรับ HIGH DYNAMIC RANGE (HDR) ถ้าในภาษาของเรา มันเป็นจอที่ดูน่าทึ่ง เรารักทุกวินาทีในการรีวิว และใช้งาน MACBOOK PRO รุ่น 16 นิ้ว เป็นอย่างมาก แน่นอนว่า APPLE ไม่ได้นำ MINI-LED มาใช้เป็นครั้งแรก มันเป็นหนึ่งในชนิดของ BACK LIGHT ที่มีการใช้ใน IPAD PRO รุ่นล่าสุดตามที่ชื่อได้บอกเอาไว้ มันใช้ BACK LIGHT ขนาดเล็กในการให้แสงสว่างที่มากกว่า และให้ความแม่นยำสูงด้วยเช่นกัน การที่หลอด LED เหล่านี้ มีขนาดเล็กมาก ทำให้เกิดโซนหรี่แสงขนาดเล็กที่สามารถให้ระดับสีดำได้ยอดเยี่ยม มีค่าคอนทราสต์สูง รวมถึงให้ความสว่างได้สูงสุดถึง 1,600 NITS ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับทีวีระดับสูงเลยที่มาอยู่ในแลพทอพของคุณ LED ให้สีดำสนิท ความคมชัดสูง มันเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญ เนื่องจากคุณไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างสีดำจริงๆ ในจอภาพกับสีดำของกรอบจอได้ การที่ MACBOOK PRO เครื่องนี้ มีจอแสดงผลที่มีรอยแหว่ง เช่น บริเวณกล้องด้านบน ทั้งหมดนี้จะหายไปจากการมองเห็น ด้วยการเติมเต็มพื้นที่เหล่านั้นในหลายแอพพลิเคชัน แน่นอนว่าเราไม่ต้องการดีไซจ์นหน้าจอที่มีรอยแหว่ง แต่ก็ไม่ได้พบว่า มันน่าขัดอกขัดใจอะไรขนาดนั้น มันจะค่อยๆ จางหายไปจากความรู้สึกของคุณหลังจากการใช้งานครั้งแรกเพียงไม่กี่ ชม. ความละเอียดไม่ได้มาตรฐานที่ 4K แต่การแสดงผล 3,024x1,964 รุ่น 14 นิ้ว และ 3,456x2,234 รุ่น 16 นิ้ว ก็ให้ภาพที่คมชัดสำหรับครีเอทีฟหลายท่าน ได้แค่นี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ทำให้คุณตัดต่อวีดีโอ FULL HD ที่อัตราส่วนพิกเซลต่อพิกเซลได้ด้วยเครื่องมือตัดต่อที่อยู่รอบๆ M2 PRO จะทำให้คอน เทนท์ระดับ 4K และ 8K ทำได้ง่าย ไร้กังวล อย่างน้อยมันก็ถูกลดขนาดให้พอดีกับหน้าจอ   ทำความเร็วได้ดี M2 PRO และ MAX เร็วแค่ไหน ? ตอบได้ว่า เร็วเท่าที่แลพทอพเครื่องหนึ่งจะเร็วได้ ด้วยการสร้างภาพจำลองวีดีโอที่ลื่นเหมือนเอาดาบฟันครีมในเบเกอรี ตั้งแต่จอแสดงผลชั้นเยี่ยมไปจนถึงสุดยอดลำโพง ระบบเสียงที่ติดตั้งไว้ใน MACBOOK PRO รุ่นปี 2023 น่าประทับใจมาก เราไม่เคยได้ยินแลพทอพที่มีเอาท์พุทเสียงความถี่ต่ำที่น่าฟังเช่นนี้ มันเป็นจุดเปลี่ยนของทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นเสียงพูด หรือเพลง สิ่งหนึ่งที่ลำโพงเหล่านี้ยอดเยี่ยม คือ รองรับ SPATIAL AUDIO ในตัว ดังนั้น เมื่อเล่นเพลงที่มีการผสมเสียงดนตรีหลัก หรือชมภาพยนตร์ที่ใช้ระบบ ATMOS คุณจะได้รับประสบการณ์เสียงแบบ 3 มิติ อย่างแท้จริง แม้จะไม่ได้สวมหูฟังก็ตาม และถึงจะไม่ได้เล่นระบบ ATMOS การจัดวางลำโพง 6 ตัวก็ให้เสียงคมชัด เนียน และดังมากอยู่ดี M2 PRO มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก แต่สามารถพกพาได้   ศิลปะการแสดง อีกส่วนที่ทำให้ MACBOOK PRO เป็นเวอร์ชันปี 2023 นั่นก็คือ การเพิ่ม M2 PRO หรือ M2 MAX เข้าไป นี่เป็นช่วงเวลาเริ่มต้น เนื่องจาก M2 PRO นั้นยอดเยี่ยมมากจนทำให้เราพูดไม่ออกกับการใช้งานตัดต่อไฟล์ผ่าน PHOTOSHOP หรือการสร้างภาพวีดีโอจำลอง แต่ก็มีตัวอย่างการใช้งานอื่นๆ ที่เกินขอบเขตของเรา เช่น หากคุณทำงานด้านการออกแบบ และสร้างแบบจำลอง 3 มิติ แน่นอนว่า ทั้งหมดนี้จำเป็น ต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติม M2 PRO ของ APPLE ได้ปรับ M2 ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการเพิ่มคอร์ CPU และ GPU ให้มากขึ้น หน่วยความจำมากขึ้น และแบนด์วิธที่มากขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ถูกเพิ่มแบนด์วิธมากขนาดนั้นเมื่อเทียบกับ M1 PRO รุ่นล่าสุดของเจนก่อนหน้า แต่ที่ความเร็ว 200GB/S หน่วยความจำ 256 บิท ทำให้เห็นว่า มันสามารถดึงข้อมูลจำนวนมากออกมาได้อย่างง่ายดาย (และ M2 MAX ก็ได้เพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกเท่าที่ 400GB/S)   ใช้งาน ไม่ใช้เสียง ต้องขอบคุณชิพสุดเจ๋งเหล่านั้น ทำให้พัดลม MACBOOK M2 PRO แทบจะไม่ส่งเสียงเลย หมายความว่า คุณจะไม่ได้ยินมัน เว้นแต่อยากจะได้ยิน รวมถึงการจัดวางลำโพง 6 ตัวได้เหมาะสม ช่วยสร้างเสียงเบสส์ที่ไพเราะ ทำให้เสียงเพลง และภาพยนตร์ มีชีวิตชีวา   รอยแหว่งที่ไม่ต้องกังวล แม้ว่าเราจะไม่บอกว่า รอยแหว่งด้านบนของ APPLE เป็นสิ่งน่ายินดีที่สุด แต่ก็ต้องขอบคุณสีดำสนิทของจอ MINI LED ทำให้รอยแหว่งนั้นกลืนหายไปในจอได้อย่างเนียนตา ดังนั้น หากคุณเคยใช้ M1 PRO มาก่อน แลพทอพตัวนี้ มีอะไรให้บ้าง ? การสะดุดระดับปานกลางในด้านประสิทธิภาพ การทดสอบประสิทธิภาพใน GEEKBENCH 5 ผลลัพธ์แบบคอร์เดียวของ M2 PRO อยู่ที่ 1,957 และ 15,134 แบบหลายคอร์ ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากการทดทดสอบ MACBOOK PRO ของ T3 ถึง 12 % และ 25 % ตามลำดับ เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพของ GPU ได้คะแนนทดสอบอยู่ที่ 53,000 (METAL) และ 46,000 (OPENCL) แบบเน้นๆ ในแอพพลิเคชันครีเอทีฟต่างๆ มีการใช้การประมวลผลหนักๆ แลพทอพเครื่องนี้ มีศักยภาพที่แลพทอพเครื่องหนึ่งจะสามารถทำได้ แน่นอนว่า มันทั้งบาง และพกพาได้อีกต่างหาก อีกทั้ง ยังเล่นเกมที่มีภาพถ่ายดิจิทอลเคลื่อนไหวสูงๆ ได้ แม้ว่า APPLE ยังไม่รองรับ RAY TRACING ดังนั้น เหล่าเกเมอร์อาจต้องมองหาแลพทอพเครื่องอื่นไปก่อน   นานแล้ว ที่ไม่ได้ยิน เมื่อพูดถึงอายุการใช้งานแบทเตอรี APPLE อ้างว่า MACBOOK PRO รุ่น M2 PRO สามารถใช้งานได้สูงสุด 22 ชม./การชาร์จ 1 ครั้ง เราได้ทดสอบแลพทอพเครื่องนี้อย่างหนักหน่วงในช่วงวันหยุดยาว แม้ว่า จะไม่สามารถใช้งานได้นานเท่าที่ APPLE บอก แต่อายุการใช้งานแบทเตอรีของแลพทอพเครื่องนี้ ก็น่าประทับใจมาก เริ่มต้นการทดสอบด้วยสตรีมิงวีดีโอคุณภาพ 4K บน YOUTUBE เปิดเสียงที่ระดับครึ่งนึง เพิ่มแสงสว่าง และปล่อยให้มันเล่นไป ผ่านไป 2 ชม. แบทเตอรีลดลงเพียง 7 % แล้วปล่อยให้เล่นจนแบทเตอรีหมดใช้เวลาถึง 17 ชม. และใช้งาน WI-FI แบบไม่หยุดพักด้วย นับว่าเป็นประสิทธิภาพที่ไม่เลวเลยจริงๆ แม้อยู่ในสภาวะที่ใช้งานหนัก อย่างไรก็ตาม เราแทบไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่า พัดลมเริ่มทำงาน และมีเสียง นับว่าเป็นระบบที่ยอดเยี่ยม แม้เราจะอัดให้มันทำงานหนักเพื่อบังคับให้เครื่องแสดงศักยภาพในการระบายความร้อนออกมา แต่ประสบการณ์ที่ได้กลับไม่ใช่เสียงระบายความร้อนที่ดังเหมือนเครื่องบินเจทที่ได้จากเครื่อง WINDOWS อันทรงพลังพร้อมอุปกรณ์ภายในจาก INTEL เมื่อแบทเตอรีเหลือน้อยจะมีที่ชาร์จขนาด 140W ให้ในกล่องที่สามารถชาร์จแบทเตอรีคืนให้ถึงระดับ 50 % ได้ใน 30 นาที นั่นทำให้การชาร์จเต็มนั้นใช้เวลาไม่ถึง 90 นาทีตามที่เราเข้าใจ อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วยปลักที่ให้มา และแท่นชาร์จ MAGSAFE 3 ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่การชาร์จเต็มจะใช้เวลามากกว่า 150 นาที ตามที่คาดการณ์ ท้ายที่สุด แม้ว่าการออกแบบจะไม่แตกต่างไปจากเดิมเท่าไรสำหรับรุ่นใหม่ แต่เราไม่ได้สนใจเรื่องภาพลักษณ์มาก นั้น MACBOOK PRO 2023 เป็นเครื่องจักรที่ประสบความสำเร็จ และเป็นตัวเลือกที่แตะต้องไม่ได้ของเหล่าครีเอทีฟ หน้าจอสุดยอด อายุการใช้งานแบทเตอรียาวนาน ถึงแม้ว่าจะมีน้ำหนักมาก แต่ก็ยังสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ แลพทอพเครื่องนี้ สามารถรับมือกับทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างสบาย การเพิ่ม M2 PRO เข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เล็กน้อย ในขณะที่ M2 MAX มีหน่วยความจำรวม 96GB จะยกสิ่งต่างๆ ไปอีกระดับหนึ่ง ซึ่งสามารถดึงดูดผู้ใช้งานระดับสูง กับกลุ่มที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจงได้เป็นอย่างดี และกระเป๋าเงินต้องตุงมากด้วยเช่นกัน แม้ว่า MACBOOK PRO รุ่นปี 2023 จะไม่ใช่การอัพเกรดที่ชัดเจนสำหรับผู้ใช้งานรุ่น 2021 เว้นแต่คุณจะตื่นเต้นกับการรองรับ HDMI 2.0 และหน้าจอ 4K ขนาด 240HZ ถ้าใช่ก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่า มันเป็นแลพทอพที่เหมาะสำหรับมืออาชีพตามชื่อที่บอกไว้   คะแนนจาก T3 น่าประทับใจ : สเปคทรงพลัง ทำงานเงียบ จอแสดงผล MINI LED น่าทึ่ง แบทเตอรีทนทาน ควรปรับปรุง : ขนาดใหญ่ หนัก ราคาสูง จอมีรอยแหว่งด้านบน คล้ายรุ่นปี 2021 สรุป : แลพทอพตัวจบที่แท้จริงของสายครีเอทีฟ สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ใช้งานมืออาชีพ พบกับข้อเสนอดีๆ ของ APPLE MACBOOK PRO M2 ได้ที่: bit.ly/t3mbkm2pr อุปกรณ์เสริมความพโร LG ULTRAGEAR 27GP950-B ราคา 799.98 ปอนด์, lg.com ประโยชน์จากพอร์ท HDMI 2.1 ของ MACBOOK PRO มอนิเตอร์ตัวนี้ ให้ภาพความละเอียด 4K ที่สวยงาม ค่า REFRESH RATE 144HZ เพื่อให้ทุกอย่างนั้นคมชัด ราบรื่น หรือใช้ 2 จอก็ยังได้ เพราะ M2 PRO ใช้พโรแกรมทำงาน 2 จอได้อย่างสบาย   AIRPODS MAX ราคา 549 ปอนด์, apple.com ลำโพงของ MACBOOK M2 PRO ดีอยู่แล้วแทบไม่ต้องใช้หูฟัง แต่ช่วงที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือต้องใช้สมาธิ หูฟังนี้ เป็นเพียงหูฟังตัวเดียวที่สามารถเติมเต็มเสียง และ SPATIAL AUDIO ที่มีอยู่แล้วได้เป็นอย่างดี   HP UNIVERSAL USB-C MULTIPORT HUB ราคา 119.99 ปอนด์, hp.com นอกจาก HDMI แล้ว MACBOOK PRO ยังขาดช่องเชื่อมต่อใช้งานอื่นๆ อีกหลายตัว โชคดีที่ตัวแปลงตัวนี้ช่วยเพิ่ม USB-A 2 ช่อง, ETHERNET, DISPLAY PORT และ HDMI 2.0 อย่างละช่อง และไม่ต้องเสียพอร์ทเดิมที่มีอยู่แล้วด้วย ต้องขอบคุณช่องเชื่อมต่อ USB-C ที่มีมาให้