นับเป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ แบบที่ 2 ที่ค่ายนี้นำออกจำหน่ายในทวีปยุโรป ถัดจาก HONDA E (ฮอนดา อี) ซึ่งเป็นรถเก๋งแฮทช์แบคขนาดซูเพอร์มีนีที่เริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2020 มีรูปลักษณ์เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด อย่างที่เรียกกันในยุโรปว่า B-SEGMENT CROSSOVER SUV และมีขนาดตัวถังใกล้เคียงกับรถ HONDA HR-V (ฮอนดา เอชอาร์-วี) ที่ผู้ใช้รถในเมืองไทยคุ้นเคยกันดี ทั้งภายนอก และภายในของตัวถัง มีรายละเอียดหลายจุดที่ทำขึ้นเพื่อบ่งบอกว่าเป็นรถพลังไฟฟ้า ตัวอย่าง คือ โลโก H ซึ่งติดตั้งอยู่บนจมูกรถ ตรงดุมล้อทุกล้อ และที่กึ่งกลางพวงมาลัย ล้วนเป็นสีขาว (รถอื่นๆ เป็นสีเงิน)
นับเป็นรถแบบแรกที่ออกแบบโดยใช้หลักการทางสถาปัตยกรรมที่ค่ายนี้เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่ และตั้งชื่อว่า E:N ARCHITECTURE F (อี:เอน อาร์คีเทคเชอร์ เอฟ) มีช่วงยื่นหน้าค่อนข้างสั้น มีช่วงล้อกว้าง และติดตั้งล้อขนาดใหญ่ โครงสร้างตัวถังมีค่าความแข็งเกร็งสูง อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า HIGH RIGIDITY BODY STRUCTURE มีจุดศูนย์กลางความถ่วงอยู่ต่ำ และใต้พื้นรถมีคุณสมบัติทางอากาศพลศาสตร์ที่เชื่อมั่นได้
เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยพลังของมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร/31.6 กก.-ม. ส่วนอุปกรณ์ป้อนพลังไฟฟ้า คือ แบทเตอรี LITHIUM-ION (ลิเธียม-ไอออน) ขนาดความจุ 68.8 กิโลวัตต์ (ความจุใช้งาน 62.0 กิโลวัตต์) ซึ่งการชาร์จไฟ 10-80 % แบบเร่งด่วน ด้วยไฟฟ้ากระแสตรง ณ สถานีชาร์จไฟ จะใช้เวลา 45 นาที และการชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้งรถจะวิ่งได้ไกลถึง 412 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP
ยังไม่มีการระบุราคาค่าตัวที่ชัดเจน แต่คาดหมายกันในยุโรปว่า น่าจะเริ่มต้นที่ระดับ 1.5 ล้านบาทไทย 
