บันทึกธุรกิจ(formula)
มีนี เปิดตัว มีนี วัน/เปอโฌต์/เมร์เซเดส-เบนซ์/จีอี ฯ /เชลล์ ฯ/บางกอกมอเตอร์เวอคส์ ฯ/เอส.อี.ซี. ฯ
มีนี เปิดตัว มีนี วัน
ซาบีเน กเลานิงเกร์ ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์ มีนี บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าการเปิดตัว มีนี วัน ในตลาดของประเทศไทย เป็นการเติมชุดผลิตภัณฑ์ของ มีนี ให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนหลังจากที่มีการเปิดตัว มีนี คูเพอร์ และมีนี คูเพอร์ เอส
มีนี วัน จะมาพร้อมด้วยกัน 2 แบบ คือ ลุค 1 และ ลุค 2 โดยตั้งราคาไว้ที่ 1.8 และ 2.0 ล้านบาทจะมาพร้อมกับรายการอุปกรณ์ที่สมบูรณ์แบบ สำหรับ ลุค 2 จะมีการผนวกอุปกรณ์เพิ่มเติมที่รวมไปถึงหลังคากระจก ระบบควบคุมเสถียรภาพรถยนต์แบบ ASC+T ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วและสีเมทัลลิค
ทั้งนี้ มีนี วัน มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบแบบวางขวางขนาด 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 90 แรงม้า ความเร็วสูงสุด170 กม./ชม. มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 7.7 ลิตร/100 กม. ในปัจจุบัน มีนี มีตัวแทนจำหน่าย 2 แห่งได้แก่ มิลเลนเนียม ออโต้ ซอยหลังสวน และนิวตันเซอร์วิส เซนเตอร์ ถนนศรีอยุธยา
เปอโฌต์
รุกตลาด เอมพีวี
พลภัทร์ ลีนุตพงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ยูโรเปียน โอโตโมบิลส์ จำกัดผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ เปอโฌต์ ในประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการแข่งขันในตลาดรถยนต์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นทำให้บริษัทต้องเน้นนโยบายเชิงรุกมากยิ่งขึ้น โดยปีนี้จะเน้นการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่มาเสริมไลน์มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้จะเน้นการเปลี่ยนรุ่นที่รวดเร็วกว่าในอดีต เนื่องจากปัจจุบันคู่แข่งในตลาดมีการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์รวดเร็วทุก 4-6 ปี
นอกจากนี้บริษัทแม่ยังให้ความสำคัญกับตลาดในเอเชียมากขึ้น คาดว่าจะมีปริมาณการขายถึง 3,000 คันจากประเทศไทย/อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เฉลี่ยนประเทศละ 1,000 คัน
สำหรับรถรุ่นใหม่ในปีนี้ เปอโฌต์ จะแนะนำรถ เอมพีวี 807 เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งติดตั้งอยู่ใน 406โฉมปัจจุบัน โดยรถลอทแรกเข้ามา 30 คัน ทำให้สามารถเปิดตลาดได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทสูญเสียโอกาสในการทำตลาดรถรุ่นนี้อย่างมาก เนื่องจากไม่มีรถให้แก่ลูกค้า ซึ่งขณะนี้บริษัทมีความพร้อมแล้วในการทำตลาด และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ในด้านราคาจำหน่ายของ 807 รุ่นมาตรฐาน 2,250,000 บาท และรุ่นตกแต่งพิเศษ 2,350,000 บาท เพิ่มอุปกรณ์ตกแต่ง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น เบาะหนังแท้ รูฟแรค บันไดไฟฟ้าอัตโนมัติ อลูมิเนียมครอบแผงแอร์ และมือจับด้านใน แผงกันลม กระจกหน้า/หลัง และรุ่นพิเศษสุด ราคา 2,450,000 บาท ที่ตกแต่งเพิ่มจากตัวพิเศษมากขึ้น
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ถึงปีละ 200-250 คัน ซึ่งนอกจาก 807 แล้วบริษัทยังมีแผนสำหรับการแนะนำ เปอโฌต์ 307 เซเซ เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ราคาจำหน่ายประมาณ2,700,000 บาท คาดว่าในปีนี้ เปอโฌต์ จะมียอดขายทั้งสิ้น 350 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 5 %
เมร์เซเดส-เบนซ์
ออกบัตรเครดิท เมร์เซเดส คาร์ด
คเลาส์ เบสส์เลร์ รองประธานฝ่ายบริหารการเงินและทรัพยากรบุคคล บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการให้เอกสิทธิ์และอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายและใช้บริการหลังการขายแก่ลูกค้า เมร์เซเดส-เบนซ์ บริษัทจึงให้ธนาคารกสิกรไทย จัดทำบัตรเครดิทวีซาเมร์เซเดส คาร์ด ซึ่งเป็นบัตรเครดิทใบแรกที่ เมร์เซเดส-เบนซ์ ร่วมออกในประเทศไทย โดยผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ เมร์เซเดส-เบนซ์ จะได้สิทธิประโยชน์ส่วนลด 15 % สำหรับค่าแรง และค่าอะไหล่ ส่วนลด 10 %เมื่อซื้อของที่ระลึกจากผู้แทนจำหน่ายรถอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าระดับสูงสำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์ เมร์เซเดส-เบนซ์
เดวิด ลี เฮนดริกซ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคากสิกรไทย กล่าวว่า บัตรเครดิทวีซา เมร์เซเดส คาร์ดจะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถขยายฐานลูกค้าระดับสูงเพิ่มขึ้น โดยลูกค้ากลุ่มนี้เป็นลูกค้าที่มีคุณภาพมีกำลังซื้อสูงและมีอัตราการใช้จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิทเฉลี่ยสูงกว่าลูกค้าทั่วไปถึง 2 เท่า โดยปีแรกธนาคารตั้งเป้าออกบัตรเครดิทวีซา เมร์เซเดส คาร์ด ไว้ประมาณ 10,000 บัตร ซึ่งบัตรดังกล่าวสามารถใช้ตามร้านค้าที่มีสัญลักษณ์วีซาทั่วโลกว่า 19 ล้านแห่ง และถอนเงินสดจากเครื่องเอทีเอมเครือข่ายวีซากว่า 140,000 เครื่องทั่วโลก
นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิส่วนลด หรือสิทธิพิเศษจากร้านค้าแบรนด์เนมชั้นนำที่เป็นพันธมิตรของธนาคารจำนวน38 แห่ง โดยแบ่งเป็นหมวด SHOPPING DINING TRAVEL HEALTH&SPA และ INSURANCE และยังได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการตลาดของธนาคารกสิกรไทย เช่น รายการสะสมคะแนน KBANK VALUECHOICE และรายการ KBANK CUISINE
สำหรับผู้สมัครบัตรเครดิท เมร์เซเดส คาร์ด จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี สำหรับ 3 ปีแรกสำหรับปีที่ 4 จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี ถ้ามีรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิทไม่น้อยกว่า 12 ครั้ง/ปีและไม่ผิดเงื่อนไขการชำระเงินของธนาคารจะได้รับสิทธิในการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีปีถัดไปโดยอัตโนมัติ
จีอี ฯ
ตั้งเป้าโต 20 %
พิริยะ วิเศษจินดา ประธาน จีอี คอนซูเมอร์ ไฟแนนซ์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ จีอี คอนซูเมอร์ ไฟแนนซ์ ได้กำหนดแผนกลยุทธ์หลัก 4 ประการ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทไว้ดังนี้ การใช้ CUSTOMER RELATIONSHIP MANAGMENTการเพิ่มบริการสินเชื่อประเภทต่างๆ ผ่านช่องทางการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ การใช้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการและการใช้ระบบบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตโดยรวมประมาณ 20 %
ในปี 2546 ที่ผ่านมา ธุรกิจของ จีอี ฯ ในไทยเติบโต 40 % โดยมียอดสินเชื่อ ปิดงวดวันที่ 31 ธันวาคม 2546เป็นจำนวน 88,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15 % ของตลาดสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในไทย ซึ่งมีมูลค่าประมาณ560,000 ล้านบาท โดยสินเชื่อรถยนต์ ของ จีอี ฯ เป็นสินเชื่อที่ใหญ่ที่สุด มีสัดส่วน 70 % ของยอดสินเชื่อที่เหลือ 30 % ประกอบด้วยธุรกิจบัตรเครดิท สินเชื่อบุคคล ธุรกิจสินเชื่อเพื่อการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระและธุรกิจบัตรเครดิทที่ออกโดยห้างในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน
สำหรับอัตราผิดนัดชำระหนี้โดยเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ 1.5 % ซึ่งต่ำกว่าอัตราผิดนัดชำระหนี้โดยเฉลี่ยของธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคโดยรวมซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2-3 % ในส่วนของลูกค้าปัจจุบัน จีอี ฯ มีลูกค้าที่ใช้บริการกว่า 2.4 ล้านรายในปัจจุบัน พร้อมกันนี้บริษัทยังมุ่งใช้สาขาที่มีอยู่แล้วทั่วประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นการปรับปรุงและยกระดับสาขาให้บริการสินเชื่อรถยนต์เต็มรูปแบบของ จีอี แคปปิตอล ออโต้สีส ทั้ง 19 สาขาให้กลายเป็นศูนย์บริการสินเชื่อครบวงจร ซึ่งนอกจากจะให้บริการสินเชื่อรถยนต์แล้วยังนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคประเภทอื่นๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลบีระบบอัตโนมัติเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การใช้ระบบอัตโนมัติแทนที่การใช้พนักงานจะช่วยลดขั้นตอนในการทำงานและงานด้านเอกสารต่างๆ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความรวดเร็วใน
การให้บริการและเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า ระบบดังกล่าวยังช่วยลดต้นทุนในการบริหารงานโดยรวมอีกด้วย
เชลล์ ฯ
แต่งตั้งผู้บริหารใหม่
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด แต่งตั้ง พิศวรรณ อัชนะพรกุล เป็นผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาดค้าปลีกควบคุมงานบริหารธุรกิจสถานีบริการน้ำมันเชลล์ทั่วประเทศครอบคลุมด้านการตลาด การขาย การบริการและดูแลเรื่องราคา การปฏิบัติงานขึ้นตรงกับ ธีรพจน์ วัชราภัย ประธาน บริษัท เชลล์ ฯ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ขยายขอบเขตความรับผิดชอบควบคุม ฝ่ายค้าปลีก กลุ่มประเทศในเอเชียใต้ และอินโดจีน
พิศวรรณ มีประสบการณ์ที่หลากหลายในธุรกิจของเชลล์ ทั้งในและต่างประเทศ โดยร่วมงานกับเชลล์มานานกว่า 10 ปี มีความชำนาญทั้งด้านการเงิน ฝ่ายขาย และโลจิสติคส์ โดยมั่นใจว่า ด้วยความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของตัวเอง ธุรกิจ ค้าปลีก ของเชลล์จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
พิศวรรณ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ เชลล์ กำลังปรับกลยุทธ์การบริหารงานสถานีบริการน้ำมันให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ มุ่งเน้นบริการให้เป็นที่พึงพอใจของลูกค้า จากพนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมในการให้บริการอย่างฉับไว และมีทักษะในการบริการลูกค้า
ปัจจุบัน เชลล์ มีสถานีบริการน้ำมันกว่า 650 แห่งทั่วประเทศ ร้านสะดวกซื้อ ซีเลคท์ 110 สาขา มีศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง โพรเซิร์ฟ 340 แห่งทั่วประเทศ และจะมีการขยายสาขาเพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่องรวมทั้งมีร้านกาแฟ ดีโอโร 40 สาขา ซึ่งจะเปิดเพิ่มอีก 10 สาขา
บางกอกมอเตอร์เวอคส์ ฯ
ประชุมผู้แทนจำหน่ายภาคพื้นเอเชีย
ดร.พรเทพ พรประภา ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอกมอเตอร์เวอคส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้แทนจำหน่ายรถยก โคมัทสุ ภาคพื้นเอเชีย ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท บางกอกมอเตอร์เวอคส์จำกัด บางนา-ตราด ซึ่งจัดโดย KOMATSU FORKLIFT ASIA PTE., LTD. ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือหุ้นแต่เพียงผู้เดียวโดย KOMATSU FORKLIFT CO., LTD. ประเทศญี่ปุ่น โดยการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทย
สำหรับการประชุมครั้งนี้มีผู้บริหารจากผู้แทนจำหน่าย โคมัทสุ จำนวน 17 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย/อินโดนีเซีย/สิงคโปร์/มาเลเซีย/ศรีลังกา/ฟิลิปปินส์/มอริเชียส/ฮ่องกง/ไต้หวัน/บังคลาเทศ/เกาหลีใต้/เวียดนาม//พม่า/ปาปัวนิวกินี และจีน กว่า 50 คน
นอกจากการประชุมผู้แทนจำหน่ายในภูมิภาคแล้ว ยังได้มีการเปิดตัวรถยกไฟฟ้ารุ่นใหม่KOMATSU STILL RX50 เป็นรถที่ถูกออกแบบด้วยเทคโนโยโลยีที่ทันสมัย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการใช้งาน ประหยัดพลังงานได้ถึง 30 % ของแบทเตอรี เคลื่อนไหวรวดเร็ว คล่องตัว รูปลักษณ์ปราดเปรียว
ส่วนในเรื่องของการจัดจำหน่าย บริษัทตั้งเป้าจำหน่ายรถรุ่นใหม่นี้ไว้ 250 คัน ส่วนยอดขายในปีที่ผ่านมามียอดขายทั้งสิ้น 453 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาด 18 % จากตลาดรวม 2,552 คัน โดยบริษัทอยู่ในอันดับสองของตลาด ส่วนในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ทั้งสิ้น 550 คัน จากตลาดรวมทั้งสิ้น 2,800 คัน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด 20 %
เอส.อี.ซี. ฯ
เปิดตัว มาสเตอร์ ซีรีส์
สมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ กรรมการบริหาร บริษัท เอส.อี.ซี. เอ็กซ์คลูซีฟ จำกัด เปิดเผยว่า การออกรถรุ่นพิเศษมาสเตอร์ ซีรีส์ ในครั้งนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำให้ลูกค้าได้ทราบว่าบริษัทสามารถออกรถรุ่นพิเศษให้แก่ลูกค้าด้วยแนวคิดใหม่ในการออกแบบ หรูหราทันสมัย และอำนวยความสะดวกสบายต่อผู้ใช้ ซึ่งรถรุ่นพิเศษดังกล่าวจะมีเพียง 200 คันเท่านั้น แต่จะมีทั้งหมด 4 รุ่นคือ แฮร์ริเออร์/เอสติมา/ออดิสซีย์ และ อัลฟาร์ด
ส่วนรถรุ่นใหม่นั้นจะมีการเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งจะเป็นรถ เอมพีวี/รถกิจกรรมกลางแจ้ง/รถสปอร์ทและรวมถึงซิทีคาร์ระดับหรู ในปีนี้ตั้งเป้ายอดจำหน่ายรถทั้งหมดไว้ 1,200 คัน พร้อมกันนี้จะมีบริการพิเศษเพิ่มขึ้น โดยจะตั้งศูนย์บริการหลังการขายเพียงอย่างเดียว บริการรถให้แก่ลูกค้าระหว่างซ่อม ซึ่งการเตรียมความพร้อมสำหรับลูกค้าของ เอส.อี.ซี. ฯ ส่วนลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อรถที่ เอส.อี.ซี. ฯ หากต้องการเข้าใช้บริการสามารถสมัครเป็นสมาชิกของเอส.อี.ซี. ฯ และเข้ารับบริการได้ โดยในปีที่แล้วมีผู้สมัครเป็นสมาชิก 200 ราย
นอกจากนี้ยังเตรียมแผนงานสำหรับการขยายสาขาในต่างจังหวัด ทั้งนี้เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างทั่วถึงโดยจะตั้งเป้าเปิด 2 สาขา ส่วนในกรุงเทพ ฯ ยังไม่มีการขยายเพิ่ม
สมพงษ์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึง ซังยง ว่า ปัจจุบันประสบความสำเร็จอย่างมากขณะนี้ เรกทันซ์ มียอดจองแล้ว600 คัน ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขาย 1,000 คัน ในส่วนของแชร์แมน ตั้งเป้า 200 คัน คาดว่าจะสามารถทำได้เนื่องจากขณะนี้เข้าไปเสนอในโครงการ อีริค คาร์ด ซึ่งในโครงการนี้ถ้าผ่านจะได้ไม่ต่ำกว่า 100 คัน
สำหรับรุ่นใหม่ในปีนี้จะมีอีก 3 รุ่น โดยในเดือนมิถุนายน จะเป็นรถ เอมพีวี เดือนกรกฎาคม จะเป็นรถเรื่องยนต์ดีเซล 2,700 คอมมอนเรล และในเดือน พฤศจิกายน จะเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้ง รุ่น STAVIC ซึ่งจะมีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นคู่แข่งกับ ซีอาร์-วี ส่วนในเรื่องของรถขนาดเล็กต้องรอหลังประกาศพิกัดภาษีใหม่
เทคโนเซล ฯ
ขยายไลน์ ลูมาร์
จันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายฟีล์มกรองแสงลามินา ในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายไลน์สินค้าและการให้บริการเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีการให้บริการในส่วนของฟีล์มรถยนต์ อาคาร นิรภัย และตกแต่ง โดยได้มีการนำเข้า ลามีนา ลูมาร์ ฟีล์มใสปกป้องสีรถเข้ามาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย
ลามินา ลูมาร์ มีคุณสมบัติพิเศษในการปกป้องและดูแลสีรถยนต์ ด้วยเทคโนโลยีมัลทิโพลียูรีเธนชนิดพิเศษมีความหนาของเนื้อฟีล์มถึง 8 มล. หนากว่าฟีล์มกรองแสงรถยนต์ทั่วไป 5 เท่า ให้ความแข็งแรงทนทานมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ซึ่งฟีล์มนี้จะทำหน้าที่เป็นเกราะใสสำหรับกระจกรถยนต์ ช่วยป้องกันรอยขีดช่วนและรอยแตกจากเศษหินและคราบแมลงได้เป็นอย่างดี
สำหรับเครือข่ายการจำหน่ายสินค้าใหม่นี้ จะยังคงใช้เครือข่ายดีเลอร์เดิมของ ลามินา ที่มีอยู่กว่า 270 แห่งทั่วประเทศ โดยคาดว่าในปีนี้จะมีการวางสินค้า ลามินา ลูมาร์ ให้ได้ไม่น้อยกว่า 100 แห่งทั่วประเทศและจะขยายเพิ่มขึ้นแต่ไม่จำเป็นต้องครบทุกสาขา เนื่องจากบางพื้นที่ไม่มีความเหมาะสมสำหรับสินค้าชนิดนี้
ในปีแรกของการวางตลาดสินค้า ไม่ได้ตั้งเป้ายอดขายแต่อย่างใด คงเป็นการทดลองตลาดมากกว่า ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการฝึกอบรมพนักงานและดีเลอร์ของบริษัท ให้มีความพร้อมในการให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่เนื่องจากสินค้าเป็นสินค้าพิเศษ ต้องอาศัยความชำนาญในการติดตั้ง
อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจกับคุณภาพของสินค้าใหม่นี้ เพราะนอกจากคุณสมบัติด้านความแข็งแรงและการยืดหยุ่นแล้ว ฟีล์มรุ่นนี้ยังมีคุณสมบัติที่ดี คือ การไม่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองหลังจากใช้งานเป็นระยะเวลานานและไม่ส่งผลกับพื้นผิวของรถที่ติดฟีล์มชนิดนี้ ซึ่งถ้าเทียบกับคู่แข่งในตลาดโลกแล้วถือว่าเหนือกว่ามากทำให้กล้ารับประกันความพึงพอใจด้วยการรับประกันคุณภาพสินค้าตลอดอายุการใช้งาน
อัศวยนต์ ฯ
จัดโพรโมชันพิเศษ
บริษัท อัศวยนต์ จำกัด ศูนย์บริการ เมร์เซเดส-เบนซ์ ฉลองก้าวสู่ปีที่ 10 จัดโพรโมชันพิเศษ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง/ตรวจเชคน้ำเครื่อง/ลดค่าแรงค่าอะไหล่ และตรวจเชคตามระยะ ในราคาพิเศษ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2539-5555
โตโยตา
เปิดตัว "E-CRB"
อากิโอะ โตโยดะ กรรมการบริหารอาวุโส บริษัท โตโยตา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวระบบริหารการสร้างความสัมพันธ์อันดีแก่ลูกค้า E-CRB (CUSTOMER RELATIONSHIP BUILDING) ในประเทศไทย ระบบนี้จะให้บริการเชื่อมต่อออนไลน์ระหว่างลูกค้า และผู้แทนจำหน่าย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาในส่วนของการสร้างความสัมพันธ์อันดีแก่ลูกค้า
สำหรับในประเทศไทยระบบ E-CRB จะประกอบไปด้วยเวบไซท์สำหรับสมาชิก e-TOYOTACLUB (https://e-toyotaclub.com/th/) และระบบปฏิบัติการสำหรับผู้แทนจำหน่าย i-CROP (INTELLIGENT CUSTOMER RELATIONSHIP OPTIMZATION PROGRAM)
e-TOYOTACLUB ในประเทศไทย จะคล้ายคลึงกับเวบไซท์ GAZOO ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนำเสนอเนื้อหาด้านความบันเทิง และเรื่องราวต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับชุมชน เพื่อความสนุกสนานของคนทุกเพศ ทุกวัยในเวบไซท์ผู้ใช้สามารถขอรับโบชัวร์รถยนต์ พร้อมทั้งรับทราบราคาประเมินจากผู้แทนจำหน่ายรวมทั้งส่วนหนึ่งในเวบไซท์ซึ่งทำไว้สำหรับผู้เข้าชมที่เป็นเจ้าของรถยนต์ โตโยตา เรียกส่วนนี้ว่าOWNER LOGS โดยจะให้ข้อมูลที่หลากหลาย รวมไปถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการบำรุงรักษารถ และแจ้งให้ทราบถึงข่าวการจัดงาน และกิจกรรมต่างๆ
ในขณะเดียวกัน ระบบ i-CROP จะช่วยเหลือผู้แทนจำหน่ายในเรื่องของการเตือนความจำให้แก่ลูกค้าระบบจะเก็บข้อมูลประวัติการบำรุงรักษารถ และระยะการเดินทาง ทำให้สามารถคำนวณช่วงเวลาที่เหมาะสมในการติดต่อลูกค้าโดยใช้อินเตอร์เนท ผ่านทางคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือโทรศัพท์มือถือ และแนะนำศูนย์บริการของผู้แทนจำหน่ายให้โทรศัพท์ติดต่อลูกค้า เพื่อนัดหมายเวลาการนำรถมาเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการโดยปัจจุบันลูกค้ายังคงต้องทำการเปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลเรื่องระยะการเดินทางในเวบไซท์
e-TOYOTACLUB ด้วยตนเอง แต่ในอนาคตการติดตั้งเครื่องมืออื่นๆ ภายในตัวรถ จะทำให้ข้อมูลดังกล่าวสามารถผ่านไปยังระบบได้โดยอัตโนมัติ
สำหรับการนำระบบ e-CRB มาใช้ในครั้งนี้จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและยั่งยืนแก่ลูกค้าทั่วโลกโดยการเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรก เนื่องจากเป็นตลาดที่เติบโตใหญ่ที่สุดในอาเซียน การขยายตัวของธุรกิจไอที ซึ่งการขยายระบบดังกล่าวอยู่ในช่วงทดลอง และตรวจสอบ
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : -นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : บันทึกธุรกิจ(formula)