Continental คว้ายอดขายมูลค่ากว่า 2,000 ล้านยูโร

เมืองฟรังค์ฟวร์ท ประเทศเยอรมนี-Continental ได้รับรางวัลใหญ่ในไตรมาสที่ 3 สำหรับการผลิตซีรีส์ของระบบเบรค Semi-Dry Brake (ระบบเบรคกึ่งแห้ง หรือที่รู้จักในชื่อ Future Brake System) ซึ่งมีมูลค่าราว 1.5 พันล้านยูโร ความสำเร็จครั้งนี้ช่วยเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 2,000 ล้านยูโรด้วยระบบใหม่นี้ มีการวางแผนการเริ่มต้นการผลิตแบบต่อเนื่องให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกาเหนือในปี 2568 Continental จะนำเสนอการเปลี่ยน แปลงเทคโนโลยีให้แก่ลูกค้าจากระบบเบรค Wet Break (ระบบเบรคแบบเปียก) เป็นระบบเบรค Semi-Dry Brake ซึ่งจะรวมส่วนประกอบใหม่หลายอย่างเข้าด้วยกัน ระบบเบรคแห่งอนาคตของ Continental ใช้เบรคแบบเครื่องกลไฟฟ้าบนเพลาล้อหลังซึ่งทำงานแบบ “แห้ง” โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเบรค โดยในส่วนของเพลาหน้าเบรคล้อยังคงทำงานแบบไฮดรอลิคต่อไป เทคโนโลยีใหม่นี้ยังรวมถึงระบบเบรค MK C2 ระบบไฟฟ้า (Brake-by-Wire) รุ่นที่ 2 ด้วย นอกจากระ บบเบรค Semi-Dry Brake แล้ว ผู้ผลิตรถยนต์ยังสั่งซื้อระบบจ่ายลมในรถยนต์จาก Continental อีกด้วย ซึ่งเป็นระบบจ่ายลมแบบบูร ณาการขั้นสูงที่ใช้ร่วมกับสปริงลมที่เพลาหน้า และหลังสำหรับระบบกันกระเทือนแบบถุงลม Matthias Matic หัวหน้าธุรกิจฝ่ายความปลอดภัย และการขับเคลื่อน Continental กล่าวว่า เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับรางวัลแรกของธุรกิจระบบเบรคแห่งอนาคตของเรา ความสำเร็จนี้มาจากการสั่งซื้อจำนวนมากร่วมกับการนำเสนอเทคโนโลยีในอนาคต มันแสดงให้เห็นว่าเราประสบความสำเร็จในการกำหนดอนาคตของระบบเบรค และระบบเบรคของเราตอบสนองความต้องการ และข้อกำหนดของทเรนด์ต่างๆ เช่น การขับขี่อัตโนมัติ และการใช้ระบบไฟฟ้า ในขณะที่สถาปัตยกรรมของรถยนต์กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานสู่สถาปัตยกรรมตามโซน ระบบเบรคมีความชาญฉลาดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความต้องการ และข้อกำหนดในอนาคตของการขับขี่อัตโนมัติ ระบบไฟฟ้า และระบบดิจิทอล เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย Vision Zero ของ Continental ที่มุ่งมั่นที่จะยกระดับความปลอดภัยทางการจราจรแก่ทุกคน นั่นคือ เหตุ ผลที่บริษัทได้นำการพัฒนาระบบเบรค Future Brake System มาใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ซึ่งให้อิสระแก่ผู้ผลิตรถยนต์ในการเลือกใช้ชิ้นส่วนกระตุ้นการเบรคอัจฉริยะ และซอฟท์แวร์สามารถควบคุมระบบอีเลคทรอนิคส์ได้ในขณะเดียวกัน เพื่อให้มั่นใจในความปลอด ภัย และมอบความยืดหยุ่นให้แก่ผู้ผลิตซึ่งเป็นอีกก้าวของรถยนต์ที่ใช้ซอฟท์แวร์ควบคุมตามรุ่น และขนาดรถ แผนงาน FBS ของ Continental ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของตลาดจากคำสั่งซื้อของลูกค้าใหม่ แต่ยังเน้นย้ำว่าบริษัทมีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ FBS 0-3 แผนงานของ Continental แสดงให้เห็นวิวัฒนาการของการควบคุมเบรคไปสู่ระบบการเคลื่อนไหว และไปสู่เส้นทางเบรคที่ทำงานได้แบบ "แห้ง" อย่างสมบูรณ์ที่เพลาล้อหลัง และเพลาหน้า ในช่วงเริ่มต้นของแผนงาน (FBS 0) ที่ได้รับคำสั่งซื้อนี้ คือ MK C2 ระบบเบรคด้วยไฟฟ้ารุ่นที่ 2 จาก Continental ซึ่งเป็นประตูสู่ระบบเบรคในอนาคตทั้งหมด ระบบเบรครุ่นต่อจากนี้ไปมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ตำแหน่งของ Continental ในฐานะหนึ่งในผู้นำตลาดด้านระบบเบรคด้วยไฟฟ้าแบบกระทัดรัด ในขั้นตอนการพัฒนาถัดไป (FBS 1) ไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบที่ตำแหน่งเฉพาะที่ด้านหน้าของคนขับเพื่อใช้งานอีกต่อไป แต่คันเร่ง/คันเบรคอีเลคทรอนิคส์ยังรองรับแนวคิดรถใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการตกแต่งภายใน และขนาดรถที่แตกต่างกัน เช่น โครงฐานของรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า ซึ่งสามารถติดตั้งตัวถังต่างๆ ได้ ด้วย FBS 2 ระบบเบรคจะเริ่ม "แห้งในเพลาเดียว" Matic อธิบายว่า ลูกค้าบางคนกำลังขอให้มีขั้นตอนระหว่างการเปลี่ยนผ่านจากการเบรคแบบเปียกก่อนที่จะเป็นแบบแห้งในที่สุด ขั้นตอนแรก คือ การไม่สั่งงานเบรคแบบไฮดรอลิคบนเพลาล้อหลังอีกต่อไป คำสั่งซื้อที่ได้รับเป็นสิ่งพิสูจน์ว่าการพัฒนาครั้งนี้เรามาถูกทางแล้ว นี่หมายถึง การเปลี่ยนสถาปัตยกรรมแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง และเพิ่มความอิสระของสถาปัตยกรรมรถยนต์สำหรับผู้ผลิตรถยนต์อีกด้วย สุดท้าย ด้วย FBS 3 ระบบเบรคสามารถแบ่งออกเป็นโมดูลได้ ในระยะยาวระบบไฮดรอลิคสามารถเลิกใช้ได้อย่างสมบูรณ์รวมถึงของ เหลวทั้งหมด ทั้ง 4 ล้อสามารถสั่งงานการเบรคด้วยระบบเครื่องกลไฟฟ้า และจะทำงานแบบ "แห้ง" ได้อย่างสมบูรณ์ Matic กล่าวเสริม “ฟังค์ชันเฉพาะของระบบเบรคจะถูกบรรจุเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำงานแบบเป็นอิสระ”