คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หารือเอกชน "แนวทางเร่งรัดการลงทุน" โฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการประชุมหารือร่วมกับ สาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนชั้นนำ 37 บริษัท ว่า การเชิญผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนมาหารือ เพื่อติดตามถึงแผนดำเนินการของบริษัทว่าหลังจากที่ได้รับการส่งเสริมไปแล้ว มีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนตามแผนมากน้อยเพียงไร มีการปรับแผนหรือไม่ และมีอุปสรรคใดที่ทำให้การดำเนินการไม่เป็นไปตามแผน หรือไม่ ทั้งนี้บริษัทที่เข้าร่วมหารือ ส่วนใหญ่มีแผนที่จะก่อสร้างโรงงานภายในครึ่งปีแรกของปีนี้ และจะเริ่มนำเข้าเครื่องจักรภายในปีนี้ หรือต้นปีหน้า ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินงานตามแผนการลงทุน อย่างไรก็ตาม บริษัทที่เข้าร่วมหารือหลายบริษัท ได้นำอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งแต่ละธุรกิจก็มีอุปสรรคแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือในเรื่องการอำนวยความสะดวกในการนำเข้าเครื่องจักร และเรื่องขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่มีฝีมือ ด้าน สาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า การส่งเสริมการลงทุนเป็นจุดสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น การติดตามเร่งรัดให้โครงการที่ได้รับการส่งเสริมไปแล้วมีการลงทุนจริง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินควบคู่ไปด้วย โดยในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา (2546-2549) มีโครงการที่ บีโอไอ ออกบัตรส่งเสริมแล้วจำนวน 4,049 โครงการ และมีโครงการที่ได้ดำเนินงาน เช่น ก่อสร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักร และดำเนินการผลิตสินค้า เป็นจำนวน 3,849 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุน 758,000 บาท โดยส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วน 886 โครงการ กลุ่มอีเลคทรอนิคส์และชิ้นส่วน 700 โครงการ กลุ่มเกษตร 668 โครงการ กลุ่มบริการ และสาธารณูปโภค 591 โครงการและกลุ่มปิโตรเคมี 532 โครงการ "จากสถิติของ บีโอไอ พบว่า ในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา โครงการที่ได้รับบัตรส่งเสริมไปแล้วมีการดำเนินการแล้ว เช่น ก่อสร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักร ดำเนินการผลิต เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนโครงการ และเงินลงทุน และโดยภาพรวมโครงการที่ได้รับบัตรส่งเสริมในช่วงดังกล่าว มีการดำเนินงานไปแล้วถึงร้อยละ 95"   เชฟโรเลต์ รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่น เคนเนธ คาวาโนจ์ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการการผลิต วิศวกรรม และควบคุมคุณภาพ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญของสวัสดิภาพของพนักงานนับตั้งแต่ดำเนินกิจการในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2536 และเมื่อก่อตั้งศูนย์การผลิตรถยนต์ในนิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์น ซีบอร์ด ในปลายปี 2539 ซึ่งบริษัทได้กำหนดนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างชัดเจน ทำให้บริษัทด้รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดนโยบายในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยได้มาตรฐานสากล ของ เจเนอรัล มอเตอร์ส ทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับคำขวัญของสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงานแห่งชาติ "3 ป-ปลอดภัย" ได้แก่ ปลุกสำนึกอันตราย ประเมินความเสี่ยง และปรับปรุงให้ปลอดภัย ที่ผ่านมาบริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เหมาะสม รวมทั้งจัดสรรสวัสดิการที่ดี สำหรับพนักงานของ จีเอม กว่า 3,000 คน เช่น ศูนย์พยาบาลได้มาตรฐาน พร้อมแพทย์และพยาบาลประจำการ มีการตรวจสุขภาพประจำปี และให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพด้าน ร่างกาย และจิตใจ ภายในสถานประกอบการ จัดสวนหย่อม พื้นที่สันทนาการ ตลอดจนสนามกีฬา โรงอาหารที่ให้บริการอาหารกลางวันฟรี ฟิทเนสส์ เซนเตอร์ และห้องสมุด นอกจากนี้ ยังจัดหาเจ้าหน้าที่สื่อสารภายในที่คอยรับเรื่องร้องเรียน และให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ แก่พนักงาน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ และการสื่อสารระหว่างพนักงานกับบริษัท ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งบริษัทเชื่อว่า คุณภาพรถยนต์ที่ดี เกิดจากระบบการผลิตที่เป็นเลิศผสานกับคุณภาพของพนักงานที่มีความสุข   บาเซโลนา ฯ จับมือ เอไอเอส รายงานข่าวจาก บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่าย และศูนย์บริการรถยนต์ บีเอมดับเบิลยู อย่างเป็นทางการ ร่วมกิจกรรมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส มอบรถยนต์ บีเอมดับเบิลยู 320 ไอ ที่ได้รับรางวัล "WORLD CAR OF THE YEAR 2006" เป็นของรางวัลสูงสุด สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในเครือข่าย เอไอเอส ที่ร่วมสนุกในโครงการ AIS BIG PRIZE OF THE YEAR โดยกด *191*7* ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ 10 หลัก และ # แล้วกดโทรออก จะได้รับ 1 สิทธิ์ในการร่วมลุ้นรางวัลรถยนต์ดังกล่าวฟรี ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 ธันวาคม 2550   บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 สำหรับการให้บริการเคลื่อนที่ มิคาเอล โคร์ดีส์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อตอบสนองการให้บริการแก่ลูกค้าแบบครบวงจร หรือ "BMW SERVICES INCLUSIVE" บีเอมดับเบิลยู จึงได้นำรถ บีเอมดับเบิลยูเอกซ์ 3 มาตกแต่ง และติดตั้งอุปกรณ์วินิจฉัยอีเลคทรอนิคส์ และเครื่องมือทางเทคนิคพิเศษเพื่อให้บริการเคลื่อนที่แก่ลูกค้า ให้มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากขึ้น สำหรับ เอกซ์ 3 ที่นำมาตกแต่งพิเศษด้วยสติคเกอร์ลายสีเทาขาว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถให้บริการ เป็นรถเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 192 แรงม้า มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ฟูลล์ไทม์ และมีระบบแบ่งกำลังเพลาหน้า/หลัง แบบผันแปร ที่เรียกว่า XDRIVE ทำให้การทรงตัวดีเยี่ยม แม้ในช่วงความเร็วสูง ส่วนการให้บริการเคลื่อนที่ จะรวมอยู่ในโพรแกรมการดูแลรักษารถยนต์เป็นเวลา 5 ปี ปลอดค่าใช้จ่ายของ บีเอมดับเบิลยู หรือ BSI (BMW SERVICES INCLUSIVE) ซึ่งเป็นโพรแกรมสำหรับรถยนต์ใหม่ทุกคัน จะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเป็นเวลา 5 ปี โดยลูกค้า บีเอมดับเบิลยูที่ต้องการเรียกใช้รถบริการเคลื่อนที่ หรือมีปัญหาทางเทคนิค ติดต่อได้ที่ โทร. 1800-999-000   มาซดา เปิดสปอร์ทพิคอัพ "SPEEDRUNNER" จอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มาซดา บีที-50 สปีดรันเนอร์ เป็นรถรุ่นพิเศษ สีขาว คลูไวท์ และสีดำ บแลคไมกา รุ่น "ฟรีสไตล์ แคบ" หรือ รุ่น บานแคบเปิด เครื่องยนต์ MZR-CD (WLC) คอมมอนเรล 2.5 ลิตร เทอร์โบอินเตอร์คูเลอร์ ให้แรงม้าสูงสุด 143 แรงม้า ขับเคลื่อน 4X2 แบบธรรมดา และแบบยกสูง (VHI) พร้อมระบบเบรค เอบีเอส (ABS) เสริมอุปกรณ์ตกแต่งแท้จาก มาซดา สุดพิเศษ กว่า 10 รายการ และเพิ่มความโดดเด่นด้วยสติคเกอร์มอเตอร์สปอร์ท สปีดรันเนอร์ (SPEEDRUNNER) เพื่อฉลองชัยแชมพ์ครอสส์คันทรี และเพื่อสร้างความตื่นเต้นในตลาด โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 440 คัน เท่านั้น ราคาเริ่มต้นเพียง 587,900 บาท นอกจากนี้ บริษัทยังได้แนะนำกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย รวมทั้งการพัฒนาเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายภายใต้ชื่อโครงการ " BUILD ME" ซึ่งเป็นโครงการสร้าง และพัฒนาศักยภาพ ดีเลอร์ให้มีความแข็งแกร่งและสามารถรักษาคุณภาพการบริการให้ได้มาตรฐาน ตลอดจนให้มีการพัฒนาการบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายของ มาซดา เติบโตจากปีที่แล้วในอัตราที่น่าพอใจ โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน รถพิคอัพมียอดขาย 4,288 คัน และรถยนต์นั่ง มียอดขาย 1,106 คัน นอกจากนี้รุ่นอื่นๆ ก็มียอดขายสูงขึ้นเช่นกัน สุรีทิพย์ ละอองทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวเพิ่มอีกว่า มาซดา บีที-50 สปีดรันเนอร์ ต้องการสร้างความแปลกใหม่ และหลากหลายให้กับตลาด โดยลูกค้าของ มาซดายังคงเชื่อมั่นในเทคโนโลยีขั้นสูง คุณภาพการผลิตมาตรฐานระดับโลก และการบริการหลังการขายที่ทุกคนจะได้รับความประทับใจพร้อมความมั่นใจในความปลอดภัย อบอุ่นใจตลอดการเดินทาง รับข้อเสนอและเงื่อนไขสุดพิเศษจาก มาซดา พร้อมรับสิทธิพิเศษบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. หรือ "24 HRS MAZDA ROADSIDE ASSISTANCE" สร้างความอุ่นใจตลอดการเดินทาง และรับประกันคุณภาพนานถึง 3 ปี หรือ 100,000 กม.   มีนี เปิดตัว วัน ใหม่ มีนี ประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า URBAN LIFESTYLE ที่เน้นความสะดวกอย่างมีสไตล์ ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงได้แนะนำ มีนี วัน ใหม่ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่การผสมผสานระหว่างดีไซจ์นซึ่งคงความคลาสสิค และคงความเป็นเอกลักษณ์ของ มีนีตามปรัชญาการดีไซจ์น "FROM ORIGINAL TO ORIGINAL" กับพัฒนาการทางเทคโนโลยีใหม่ ทั้งในแง่ของบุคลิกการขับขี่ที่เฉียบคม หนักแน่น เกาะถนนดีเหมือนการขับโกคาร์ท กำลังเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังที่เหนือกว่าเดิม มีนี วัน ใช้เครื่องยนต์บลอคอลูมิเนียมน้ำหนักเบาขนาด 1.4 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมระบบสเตพทรอนิค และแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย ระบบเซนเซอร์นิรภัย MRS6 (ซึ่งจะช่วยตัดการทำงานของระบบไฟฟ้าและการจ่ายน้ำมันในกรณีอุบัติเหตุ) พร้อมสิ่งอำนวยควาสะดวกครบครัน นอกจานี้ มีนี วัน ยังมาพร้อมกับ โพรแกรม SERVICE, MAINTENANCE & REPAIR เพื่อดูแลรักษา และซ่อมบำรุงตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือระยะทาง 50,000 กม. และ MINI MOBILITY SERVICE บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่   เมร์เซเดส-เบนซ์ ปรับทัพผู้บริหารระดับสูง โวล์ฟกัง ฮุบเพนเบาเอร์ ประธานบริหาร บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทได้ปรับองค์กรในส่วนผู้บริหารระดับสูง โดยได้แต่งตั้ง สเตฟาน เมอบีอุส มาดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายขาย และการตลาดแทนที่ รอเจอร์ อิมเมล ซึ่งหมดวาระการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยโดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน เมอบีอุส มีประสบการณ์ด้านการขายและการตลาดมากว่า 20 ปี โดยได้เริ่มงานกับ ไดมเลร์ ไครสเลอร์ ครั้งแรกที่กรุงฟรังค์ฟวร์ท ประเทศเยอรมนีในฐานะที่ปรึกษาด้านการขายให้กับ เมร์เซเดส-เบนซ์มาตั้งแต่ปี 2531 ต่อมาดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมในระดับนานาชาติของ เมร์เซเดส-เบนซ์ประจำกลุ่มประเทศละตินอเมริกันในช่วง ปี 2533-2538 และในปี 2538 ก็ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายของกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ณ ประเทศอาร์เจนตินา หลังจากนั้นได้มาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายปฏิบัติการ (GENERAL MANAGER COMMON FUNCTIONS) ของฝ่ายฝึกอบรมระดับนานาชาติ ไดมเลร์ ไครสเลอร์ ในปี 2541 และในปี 2544 ก็ได้รับมอบหมายให้ไปดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายDIRECT SALES TO EMPLOYEES ณ สำนักงานใหญ่ของไดมเลร์ ไครสเลอร์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นงานล่าสุดก่อนรับตำแหน่งรองประธานบริหารฝ่ายขาย และการตลาดบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เมอบีอุส กล่าวว่า "ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และช่วงนี้นับเป็นเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับการแข่งขันในตลาดรถยนต์ระดับสูง และผมพร้อมแล้วสำหรับความท้าทายที่กำลังรออยู่" นอกจากนี้ยังได้ปรับเพิ่มตำแหน่งแก่ ฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารองค์กร รับผิดชอบดูแลบริหารภาพลักษณ์องค์กร ซึ่งขึ้นตรงต่อประธานบริหาร จะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารการตลาดอีกตำแหน่งหนึ่ง โดย ฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ จะรับผิดชอบดูแลงานส่งเสริมการตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของบริษัท อันได้แก่ กิจกรรมการตลาด การโฆษณา เป็นต้น ซึ่งส่วนนี้จะขึ้นตรงต่อรองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาดคนใหม่โดยเชื่อมั่นว่าผู้บริหารทั้ง 2 จะสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น