เทคนิค(car)
ตู้ลำโพงในแบบต่าง (1)
ทุกวันนี้ลำโพงวูเฟอร์มีสมรรถนะสูงกว่าแต่ก่อนมาก และมีความสวยงามในระดับราคาที่สามารถหาซื้อได้ ความหลากหลายของวูเฟอร์ ทำให้ยากต่อการตัดสินใจซื้อ และอีกสิ่งหนึ่งที่ยากพอๆ กันกับการซื้อวูเฟอร์ก็คือ การเลือกรูปแบบของตู้ลำโพง สิ่งหนึ่งที่ทุกคนอยากจะรู้ก็คือ ตู้ลำโพงแบบไหนเป็นแบบที่ดีที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบของตู้ลำโพง
INFINITE BAFFLE (IB)
เป็นแบบของตู้ลำโพงที่สร้างง่ายที่สุด มีปริมาตรความจุภายในตู้มาก แนวคิดของตู้แบบ IB นี้ก็คือ แยกคลื่นเสียงที่เกิดด้านหน้าของลำโพง ออกจากคลื่นเสียงทางด้านหลังลำโพง โดยทั่วไปในการติดตั้งในรถยนต์นั้น จะติดตั้งลำโพงบนแผ่นไม้แล้วซีลปิดหมดที่ด้านหลัง ( REAR SEAT) โดยอาศัยตัวถังของรถเป็นตู้ลำโพง ดูไปแล้วจะเห็นว่าตู้แบบ IB นี้เป็นตู้ที่ใหญ่มาก แผงตัวถังด้านในตัวรถ ส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นเหล็กบางๆ ที่ทำหน้าที่เสมือนผนังของตู้ลำโพง ช่วยให้การตอบสนองของเสียงดี มากกว่าครึ่งของการจัดการกำลังของวูเฟอร์ ต้องสูญเสียไป
เมื่อติดตั้งในตู้แบบนี้ อุปสรรคสำคัญของตู้แบบนี้ก็คือ มีเนื้อที่สำหรับการเคลื่อนที่ของโคนน้อย เมื่อเล่นต่ำกว่า FS หรือ ความถี่กำธรของลำโพง มีเนื้อที่สำหรับการเคลื่อนที่ของโคนมาก เท่ากับ ระบบ PORTED เมื่อเล่นต่ำกว่า TUNING FREQUENCY ด้วยเหตุนี้น่าจะใช้ฟิลเตอร์ซับโซนิค เพื่อตัดความถี่ต่ำกว่า FS ของลำโพงออกไป
หากจะซื้อลำโพงเพื่อนำมาติดตั้งในลักษณะตู้แบบ IB นี้ ต้องแน่ใจว่าเลือกขนาดของลำโพง ได้ตรงกับ 2 คุณลักษณะนี้ คือ
1. ความต้านทานรวมของลำโพงที่ระดับเสียงกำธรนั้น ควรจะมากกว่าระดับ 0.6 จึงจะเหมาะกับการติดตั้งแบบ IB นี้
2. VAS หรือปริมาตรของอากาศที่ยินยอมเป็นส่วนดูดซับของลำโพงนั้น ควรจะน้อยกว่าปริมาตรรวมของบริเวณที่จะติดตั้งลำโพงเข้าไป
ข้อดี คือ กินเนื้อที่น้อยมาก ง่ายต่อการสร้าง
ข้อเสีย คือ ด้านประสิทธิภาพเสียงไม่สมบูรณ์แบบ บางครั้งยากที่จะแยก คลื่นหน้าหรือคลื่นหลัง จำกัดการเคลื่อนที่ของโคนที่ระดับต่ำ กว่าความถี่กำธรของลำโพง
SEALED ENCLOSURES
ตู้ซีล หรือตู้ปิดทึบ ได้รับความนิยมมาหลายปีแล้ว การออกแบบครั้งแรกได้รับการจดสิทธิบัตรโดยแฮรี ออลสัน ในปี 1949 และแพร่หลายโดยอคูสติค รีเสิร์ช ในช่วงต้นปี 1950 ตู้แบบนี้มักใช้ติดตั้ง ในเครื่องเสียงรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ทั่วโลก
ACOUSTIC SPRING เป็นปฏิกิริยาจากการดักอากาศภายในตู้ที่อัดหรือคลาย เมื่อโคนเคลื่อนที่ไปด้านหน้าหรือด้านหลัง ยิ่งระยะยืดหดของโคนวูเฟอร์นี้มากเท่าไร อคูสติค สปริงนี้ก็จะมากตามในทิศทางตรงกันข้ามการจัดการกำลังของระบบตู้ซีลนี้สัมพันธ์โดยตรงกับอคูสติค สปริง มันเป็นการเพิ่มโหลดให้กับโคนของวูเฟอร์ เพื่อรักษาการควบคุมเมื่อเสียงที่ขับออกไปเพิ่มขี้น ทำให้สามารถใช้ลำโพงกำลังขับสูงๆ ได้
แต่การจัดการกำลังสามารถเพิ่มให้มากขึ้นได้ โดยอาศัยขนาดของตู้ ตู้ยิ่งใหญ่ยิ่งทำให้การเคลื่อนที่ของโคนมีมาก ตรงกันข้ามการลดขนาดของตู้ลง อคูสติค สปริงจะควบคุมมากขึ้น เมื่อโคนเคลื่อนที่ในช่วงความถี่ตอบสนองต่ำในขณะที่การทำเช่นนี้จะเป็นการเพิ่มการจัดการกำลัง ระบบจะไม่ทำงานในช่วงความถี่ต่ำ และบ่อยครั้งที่จะผลิตความถี่สูงหรือปั๊มในช่วงความถี่ตอบสนอง
ขนาดของตู้พิจารณาจากรูปร่างของการตอบสนอง ในค่าของ QTC ซึ่งเป็นค่าของแดมพิง ที่เป็นตัวกำหนดขึ้นจากระบบของลำโพง ยกตัวอย่าง ระบบซีลที่ให้สมรรถนะสูงสุดจะมี QTC เท่ากับ 0.7 นั่นหมายความว่า ความถี่ตอบสนองของซับวูเฟอร์จะขับออกมาที่ระดับสโลพ -10.5 เดซิเบล/ออคเทฟ ในช่วงความถี่ต่ำดูรายละเอียดเพิ่มเติมในตาราง 1 และ 2 ให้ตัวอย่างของค่า QTC ที่แตกต่าง และรูปร่างของการตอบสนอง
การเลือกค่า QTC ไม่ได้ขึ้นกับขนาดของตู้ลำโพง ยังมีวิธีการเปลี่ยนอย่างอื่นอีก โดยการเพิ่ม ENCLOSURE FILL ด้วยการใช้ FILL นี้อาจใช้ DACRON, POLYFILL ไฟเบอร์กลาสส์หรืออคูสติค โฟม มาเป็นวัสดุภายในตู้ เพื่อลดค่า QTC ลดคลื่นตั้งตรง และความถี่กำธรของระบบ การเลือกจำนวน ชนิดของวัสดุ และตำแหน่งในการติดตั้งวัสดุภายในตู้ที่เหมาะสม จะยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขี้นอีก 15 %
แม้ว่าวูเฟอร์ทุกตัวจะทำงานไม่ได้ดีในตู้ซีลนี้ แต่ยังมีลำโพงที่ดีๆ อีกมากที่ออกแบบมาเหมาะกับการติดตั้งในตู้ซีลนี้ ส่วนใหญ่ติดตั้งในตู้ขนาดปริมาตรที่ต่างกัน สามารถให้คุณภาพเสียงที่ให้ความไว้วางใจสูงๆ ได้ดี และแม้ว่าตัวตู้จะมีการออกแบบง่ายๆ ใช้โครงสร้างตู้ง่ายๆ เป็นตู้ที่สามารถทำได้ด้วยตัวคุณเอง
ข้อดี ง่ายต่อการสร้าง ตู้เล็ก การจัดการกำลังสูง ดีเลิศในด้านการแดมพิง และTRANSIENT RESPONSE
ข้อเสีย ต้องเลือกซับวูเฟอร์ที่มีประสิทธิภาพ
ภาพ
1 การสร้างตู้ซับไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย *** ภาพเปิด***
2 กราฟ และตารางแสดงค่า QTC ที่ส่งผลต่อเสียงเบสส์
3 ไม้แผ่นที่ยึดซับเป็นส่นสำคัญสุด
4 โครงสร้างตู้ซับแบบ SEALED
5-7 ตู้ SEALED ในแบบต่างๆ
เรื่องโดย : วิโชค
ภาพโดย : -
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : เทคนิค(car)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53430