เทคนิค(car)
เจ็บ สวย ดุ
ถ้าคุณอาศัยอยู่ในเซาธ์แคลิฟอร์เนีย ฤดูร้อนของคุณจะเป็นช่วงที่น่าสนุกมาก เพราะเป็นช่วงที่อยากจะขับรถเปิดประทุนไปในสถานที่ต่างๆ และยิ่งดีใหญ่ถ้าเป็นรถมิตซูบิชิแต่งพิเศษ ที่มีชื่อว่า เอคลิพส์ (ECLIPSE)
เดิมทีรถคันนี้ออกแบบมาเพื่อให้ทันงานแสดง SEMA หรืองานของสมาคมตลาดอุปกรณ์พิเศษในลาสเวกัส ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน วัตถุประสงค์ในการแต่ง มิตซูบิชิ จีที สไปเดอร์ คันนี้ก็คือ ทำเพื่อแสดงว่าเจ้าของรถได้ทำอะไรให้รถคันนี้มากน้อยเพียงใด
เริ่มแรก มิตซูบิชิ เอคลิพส์ จีที สไปเดอร์ 2001 ถูกส่งไปให้ รอเบิร์ท วิลสัน (ROBERT WILSON) เจ้าของร้านโมเดิร์นอิเมจ ไซจ์นเวิร์ค ในฮันทิงทันบีช แคลิฟอร์เนีย เพื่อเปลี่ยนสี จากเดิมที่เป็นสีเงินยอดนิยม เป็นสีเหลืองโครเมียม โดยถอดเอาแต่ละชิ้นส่วนของตัวถังออกมา รวมทั้งท่อยาง และส่วนตกแต่งต่างๆ ออกจนหมด ก่อนที่จะพ่นสีใหม่ หลังจากที่ขัดสีเคลียร์โคทออก ก็พร้อมสำหรับการพ่นสี พีพีจี 15 ชั้น ในแต่ละชั้น จะมีการขัด ซึ่งแน่นอนในขั้นตอนของการเปลี่ยนสีตัวถังนี้หมดงบประมาณไปไม่ใช่น้อย และเพื่อให้ภายในตัวรถสะดุดตา จึงส่งต่อไปยังเวทเวิร์ค การาจ ในสแตนทัน แคลิฟอร์เนีย เพื่อทำสีภายใน
ไม่ค่อยได้เห็นบ่อย ที่จะทำสีภายในให้เข้ากันกับสีภายนอก แทบจะทุกส่วนของชิ้นส่วนพลาสติคแข็งของรถ ถูกพ่นเป็นสีเหลืองเหมือนกันหมด เพื่อให้สียึดเกาะกับพลาสติคได้ดีทางร้านได้ขัดแล้วขัดอีก เพื่อให้สีออกมาสวย ในส่วนไหนที่โล่งก็อุดปิดด้วยไม้บอนโด และพ่นสีทับ ผลออกมาเหลืองอ๋อยทั้งคัน ไม่ว่าภายนอก และภายใน
กระจังหน้าเปลี่ยนใหม่ โดยร้านวิงส์ เวสต์ บอดีคิท ในห้องเครื่องใต้ฝากระโปรง มีทั้งถอดมาชุบโครเมียมขัดเงา และพ่นหยาบ รวมไปถึงเปลี่ยนใช้ท่อไอดีของ AEM และท่อไอเสียของBOSAL รวมทั้งชุดจุดระเบิดของฮอลเลย์ด้วย
ล้อเปลี่ยนใหม่เป็นของ TSW ที่เข้ากับโพรงล้อของรถได้อย่างพอดี เป็นล้อรุ่นลิมิเทด เอดิชันที่ใหญ่ถึง 19" เข้ากันเป็นอย่างดีกับยางโยโกฮามาขนาด 235 ในล้อหน้า และ 245 ในล้อหลังทั้งนี้ต้องการโชว์โรเตอร์ดิสค์เบรคขนาด 13 1/2" และ 11 1/2" ในล้อคู่หน้า และคู่หลังตามลำดับ จุดเด่นของล้ออยู่ตรงที่ใช้นอทลอคดุมล้อขนาดใหญ่เพียงตัวเดียว เพื่อยึดล้อเข้ากับรถ
เพื่อให้ขับเคลื่อนยางขนาดใหญ่ ได้เพิ่มชุดไนตรัส เอกซ์เพรสส์ 100 แรงม้า ระบบดูอัลสเตจที่รีดแรงม้าได้ 30 แรงม้า และเมื่อรับสัญญาณจากคันเร่งอีก 70 แรงม้าที่เหลือ ก็พร้อมที่จะโจนทะยาน เมื่อคันเร่งถูกเหยียบผ่านไป 3 ควอร์เตอร์ ถังชุบโครเมียมสองใบติดตั้งไว้ที่ด้านหลังของเบาะหลัง
ทางด้านระบบเสียงเลือกใช้ของ KENWOOD ติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญการแห่งร้านโกลด์สตาร์ออดิโอ ในเออร์วิน แคลิฟอร์เนีย หุ้นส่วนสตีฟ เมอร์ (STEVE MEHR) และช่างไรอัน รอยบอล (RYAN ROYBAL) ได้เริ่มต้นติดตั้งด้วย KENWOOD รุ่น EXCELON KDC-Z 919 เป็นครื่องเล่นซีดีบนแผงหน้าปัด ที่เล่น MP3 ได้อีกด้วยติดตั้งบนแผงหน้าปัดสีเหลือง แล้วตกแต่งเพื่อความสวยงามด้วยแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์
เช่นเดียวกับที่แผงหน้าปัด แผงประตูทั้งสองด้านถอดออก ขัดกระดาษทราย และพ่นทับด้วยสีเหลือง ในช่วงเวลานั้น ไรอันได้ติดตั้งแผ่นเก็บเสียงไดนาเมท ที่ด้านในแผงประตู และซีลปิด เพื่อคุณภาพของเสียงเบสส์ ในตำแหน่งเดิมจากโรงงานนั้น ได้ติดตั้ง KENWOOD รุ่นKFC-XR 60 P ขนาด 6 1/2" เป็นที่เรียบร้อย
เบาะนั่งนั้นจัดการหุ้มใหม่ด้วยวัสดุพิเศษ คล้ายกำมะหยี่ที่สั่งนำเข้ามาจากอิตาลี รวมไปถึงแผงประตู และที่อื่นๆ เป็นผลงานการเย็บ และหุ้มโดยสติชคราฟท์ เพื่อความปลอดภัย ได้ติดตั้งเข็มขัดนิรภัย 4 จุดของสกรอธ เพื่อต้านทานแรงจี เพราะเข็มขัดแข่งนี้ต้องยึดกับด้านหลังจึงต้องโยงขึ้นไปเหนือแรคแอมพ์ ที่แผงข้างถูกทำขึ้นเป็นช่องโพรงด้วยไฟเบอร์กลาสส์เพื่อติดตั้งลำโพงมิดเบสส์ KENWOOD รุ่น KFC-W 1703ขนาด 6 1/2" พ่นทับด้วยสี
เหลือง และปิดทับด้วยหน้ากากผ้าสีดำ
ที่ส่วนล่างของเบาะ เดี๋ยวนี้ใช้เป็นที่ยึดคู่ของแอมพ์ KENWOOD รุ่น KAC-X 501 Fแบบ 4 แชนแนล ที่ส่งกำลังขับลำโพงคู่หน้า และหลัง ในขณะที่รุ่น KAC-X 401M แบบโมโนบลอค ส่งกำลังขับซับวูเฟอร์ 3 ตัวทางด้านหลัง แอมพ์ทั้ง 2 ตัว ติดตั้งบนกล่องไฟเบอร์สีเหลืองที่ทำขึ้นด้วยมือ และมีโลโก GOLD STAR อยู่ใกล้ๆ
ในห้องเก็บของด้านหลัง ช่องเก็บยางอะไหล่ถูกใช้เป็นที่วางตู้ซับ ทำขึ้นจากไม้ MDF และไฟเบอร์กลาสส์เป็น 2 กล่อง ส่วนล่างไว้ยึดซับวูเฟอร์ KENWOOD รุ่น KFC-W 253 ขนาด10" 3 ตัว ทางด้านบนเป็นอีกตู้ที่ทำจาก PLEXIGLASS เพราะสตีฟไม่ต้องการให้เบสส์อัดจนห้องเก็บของด้านท้ายหวีดเสียง กล่องด้านบนจึงถูกระบายอากาศ และเปิดออกทางด้านข้างด้านที่ตรงกับห้องโดยสาร
ดูสวยแบบเรียบง่ายเมื่อมองจากภายในรถ ดูเป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่เปิดออกเหนือแอมพ์ที่ปกคลุมด้วยหน้ากากผ้าสีดำ นี้เป็นช่องพอร์ทหรือช่องทางออกของซับคล้ายๆ กับตู้แบบแบนด์พาสส์ ส่วนบนสุดของตู้ส่องสว่างด้วยไฟนีออนสีแดง ตัดกับโลโก มิตซูบิชิ ด้านในตู้
เชื่อมต่อทุกจุดของระบบด้วยสายสัญญาI และขั้วอาร์ซีเอของ SCOSCHE แบทเตอรีติดรถ เปลี่ยนเป็นแบบฮอลเลย์เรศเซลล์ เพื่อรองรับกับระบบเครื่องเสียงขนาดใหญ่ในรถ ระบบกันขโมย UNGO ควบคุมทั้งเซนทรัลลอค เพาเวอร์วินโดว์ และห้องโดยสารทั้งหมด
โมเดิร์น อิเมจได้รับโทรศัพท์จากผู้ผลิตรถยนต์หลายยี่ห้อ นอกจาก มิตซูบิชิ เพื่อให้สร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีศ เฉกเช่นเดียวกับ สไปเดอร์ คันนี้ หลังจากที่ชนะ คว้ารางวัลจากงานSEMA มา รวมทั้งงาน ANAHEIM AUTO SHOWS ในบูธมิตซูบิชิ รถสไปเดอร์คันนี้ กำลังจะเข้าร่วมแสดงในหนังของ อดัม แซนด์เลอร์ ถ้าต้องการเห็นให้ชัดเจนกว่านี้ ต้องไปหาหนังดูกันชัดๆ อีกที
ภาพ
1 ภายในทั้งหมด พ่นสีให้เข้ากันกับภายนอก แม้แต่ผ้าบนแผงประตูยังต้องเข้ากับเบาะนั่ง
2 KENWOOD ที่ติดตั้งคู่กันหลังเบาะ บนแรคแอมพ์ที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม
3 ถังไนตรัส เอกซ์เพรสส์ ดูอัลสเตจ ชุด 100 แรงม้า ในกระป๋องโครมคู่ติดตั้งข้างหลังเบาะ
4 PLEXIGLASS ครอบตู้ซับออกแบบเป็นโลโกมิตซูบิชิ
5 ในห้องเก็บของเป็นตู้แบนด์พาสส์ตัดซับ 10" 3 ตัว
เรื่องโดย : วิโชค
ภาพโดย : www.caraudiomag.com
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : เทคนิค(car)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53550