เทคนิค(car)
เปิดเดโมคาร์
กลยุทธ์มืออาชีพในฉบับนี้ ขอพาแฟนๆ ไปชมรถเดโม นิสสัน ฟรอนเทียร์ ปี 2001 ภายใต้ชื่อทีม ARC DE TRIOMPHE จากงาน CAR AUDIO AND ELECTRONICS ที่เป็นแหล่งโชว์รถแต่งเครื่องเสียงระดับแข่งขัน ในงานเพียบพร้อมไปด้วยร้านค้า ที่สรรหาชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องเสียงทันสมัยต่างๆ มาโชว์ และขายกันอย่างระรานตา
ร้านตกแต่งเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ ต่างพากันมาอวดโชว์กึ๋น และฝืมือของร้านตัวเองกันอย่างสุดๆ รถเดิมๆ จากโรงงานก็ได้รับการรังสรรค์โดยบรรดาร้านตกแต่งเครื่องเสียงชั้นนำนำมาใส่ผลิตภัณฑ์ของร้านตัวเอง เพื่อโชว์พลังกันอย่างเต็มที่
แต่สำหรับงานในปีนี้นั้น ร้านค้าแต่ละร้านไม่ได้แค่มาเปิดตัวแนะนำตัวสินค้า และผลิตภัณฑ์ของร้านเท่านั้น แต่ยังนำรถใหม่เดิมๆ จากโรงงาน ทั้งรถเก๋งและรถบรรทุก มาออกบูธโชว์ตัวกัน เช่นเดียวกับเครื่องเสียงค่าย ROCKFORD FOSGATE ที่นำเสนอรถใหม่ที่ตกแต่งมาเป็นอย่างดี อวดโฉมสายตาประชาชนทั่วไปกันทุกๆ 2 ปี เราลองมาดูกันว่า ปีนี้ทางค่ายจะมีรถใหม่แบบไหนมาโชว์ตัวกัน
ปีนี้เป็นคิวของ นิสสัน ฟรอนเทียร์ ควอดแคบ ปี 2001 หลังจากเมื่อ 2 ปีที่แล้วนำ ดอดจ์ มาแต่งโชว์กัน นักออกแบบรถยนต์รุ่นอาวุโสของสถาบันฝึกอบรมทางด้านเทคนิคของค่ายนี้ ไบรอัน ชมิทท์ สรรค์สร้างรถคันนี้เกือบทั้งหมดด้วยตัวเอง แนวการออกแบบเกิดจากตอนเช้าวันหนึ่งที่เขาได้ขับรถเอทีวีไปบนทะเลทรายอริโซนาใกล้กับที่ๆ เขาพักอาศัยอยู่ เจสัน เพื่อนของเขาได้เริ่มต้นด้วยการรื้อเอาส่วนประดับภายในตัวรถออกทั้งหมด สิ่งที่ต้องเข้มงวดมากกว่าปีที่แล้วก็คือ ทีมงานจะต้องมีความพร้อมต่อเนื่องสำหรับงาน SEMA ที่จัดก่อนหน้า CES ประมาณ 2 เดือน
เจสันทำงานกับไบรอันตลอดทั้งวันทั้งคืน ทั้งในส่วนของงานตกแต่ง และงานออกแบบสร้างชิ้นงาน รถคันนี้นอกจากจะมีตัวถังที่สวยงามแล้ว ยังมีซูเพอร์ชาร์จติดรถให้มาจากโรงงานด้วย ไบรอันไม่รอช้ารีบไปยังแรคชั้นวางบรรดาวัสดุที่จะนำมาตกแต่งใส่ในรถ ฟรอนเทียร์ คันนี้โดยทันที แล้วหยิบแท่งพลาสติคมาโชว์ให้เจสันดูว่า จะนำมาดัดโค้งเพื่อทำตัวตู้ให้โค้งไปตามแนวโพรงล้อรถได้อย่างไร ไบรอันไม่ได้เพียงแต่ออกแบบในส่วนของเครื่องเสียงภายในตัวรถเท่านั้น แต่ยังออกแบบส่วนภายนอกรถ คือแรครถจักรยาน และแท่นยึดยางอะไหล่ด้านหลังรถ เพื่อให้รถ ฟรอนเทียร์ คันนี้สมกับการใช้งานแบบเอาท์ดอร์ไลฟ์สไตล์ด้วย
การติดตั้งแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกเป็นงานตกแต่งสำหรับโชว์ในงาน SEMA ที่จะจัดขึ้นช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน งานในส่วนนี้จะเป็นการทำตู้ซับ เบาะนั่งและงานสี รวมทั้งงานทุกอย่างในส่วนของพื้นกระบะบรรทุก และที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือ งานของแผงประตู งานสีของรายละเอียดภายใน และจอวีดีโอที่ฝังในส่วนของเพดานหลังคา
ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างที่เจสันกล่าวไว้ในตอนต้น เขาได้รื้อภายในตัวรถทั้งหมดออกแล้วจัดการปูพื้นภายในตัวรถด้วยแผ่นดูดซับเสียง ในบางจุดมีการปูทับถึง 2 ชั้น หลังจากนั้นเป็นการเดินสายไฟ และสายสัญญาณ ในรถ ฟรอนเทียร์ คันนี้ สายลำโพง ขั้วต่อ และสายสัญญาณทั้งหมดเป็นของ ROCKFORD FOSGATE PUNCH SERIES โดยเดินเลียบไปกับพื้นรถและไม่มีการพ่นสีทับแต่อย่างใด ในขณะเดียวกันเบาะนั่งเดิมที่ติดรถมาก็จัดการเปลี่ยนหนังหุ้มเบาะใหม่โดยตกแต่งในโทนสีแดง ดำ และเงิน ที่บริเวณ
พนักพิงศีรษะยังได้ติดโลโกอลูมิเนียมไว้ด้วย
จุดมุ่งหมายหลักของงานติดตั้งในรถคันนี้ก็คือ การทำตู้ซับวูเฟอร์ที่มีด้านหน้าของตัวตู้ยึดซับขนาดใหญ่ถึง 3 ตัว ตัวตู้ออกแบบเป็นทรงโค้งในลักษณะของการนำครึ่งวงของพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว 2 วงมาบรรจบกัน ในการทำนั้นไบรอันนำแผ่นไม้อัดขนาดใหญ่มาทำเป็นแผ่นรองหลังของตัวตู้ เริ่มจากการทำตัวตู้ซับ 2 ตู้ แต่ละตู้จะยึดซับวูเฟอร์วอยศ์คอยล์คู่ขนาด 10" รุ่น REP-3210 ตัวตู้ทำจากไม้แผ่นเรียบ และยัดใส่ในตัวตู้ด้วยบอดีฟิลเตอร์ เพื่อให้เข้ารูปกับความโค้งของด้านข้างตัวตู้ แผ่นประกบตัวด้านที่เหลือนั้น หลักๆ ทำจากไม้ MDF แผ่นอลูมิเนียม แผงเพลกซิกลาสส์ หลอดนีออน โดยนำเอาแผ่นอลูมิเนียม มาประกบเป็นแซนด์วิชระหว่างหลอดนีออน และปล่อยให้ขอบชายของแผงเพลกซิกลาสส์เรืองแสง เพื่อให้เข้ากันกับความโค้งของโพรงล้อตัวตู้ซับถูกยึดเข้ากับส่วนของโพรงล้อด้วยนอทหัวขาด
ทริคที่นำมาใช้กับการออกแบบตู้ซับก็คือ ซับขนาด 10" ที่ติดตั้งอยู่ในตู้เปิดนั้น แกพระหว่างส่วนโค้งทั้งสองนั้นอยู่ทางตอนกลางของตัวตู้เป็นช่องสอดเสียบ ถ้ามองเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นเป็นช่องอลูมิเนียมขนาดค่อนข้างกว้าง ที่ระหว่างส่วนโค้งทั้งสองนี้ กว้างมากพอที่จะสอดมือเข้าไปได้ แต่สอดเข้าไปไม่ได้ เพราะมีแผ่นเพลกซิกลาสส์ขนาด 1/2" ปิดช่องที่ว่านี้อยู่
เมื่อมองผ่านเข้าไปในตัวตู้ จะเห็นแอร์สเปศที่วูเฟอร์ใช้เป็นช่องพอร์ท ไบรอันบอกว่าขั้นตอนนี้ค่อนข้างจะยาก เพราะต้องนำเอาสเปคของวูเฟอร์มาเข้าเครื่องเทอร์มแลบ เพื่อคำนวณหาปริมาตรตัวตู้ ซึ่งตอนแรกคาดว่าจะใช้ประมาณ 8 ลูกบาศก์ฟุต สำหรับซับ 6 ตัวแต่พอเครื่องเทอร์มแลบคำนวณออกมาให้ กลับได้ปริมาตรน้อยกว่าที่คาดไว้ถึง 5 เปอร์เซนต์ ทั้งนี้รวมไปถึงขนาดช่องพอร์ทที่เล็กลงกว่าเดิมด้วย
ในการติดตั้งแอมพ์ 4 ตัวของระบบนั้น ใช้เทคนิคเดียวกันกับการทำส่วนโค้งของตู้ซับเพียงแต่ว่าส่วนเว้าส่วนโค้งของแรค ไม่ได้ตรงกันข้ามเหมือนกับตู้ซับ สเตริโอแอมพ์ 500.2 ของค่ายเดียวกัน 2 ตัว ใช้ขับลำโพงคอมโพเนนท์ 6 1/2" ที่ติดตั้งไว้ที่ประตูหน้า/หลัง
แอมพ์อีกคู่เป็นดิจิทอล เพาเวอร์แอมพ์ BD1000 ไว้ใช้ขับซับ 10" 3 ตัว สายสัญญาณสายลำโพงทั้งหมด เดินซ่อนอยู่ในท่ออลูมิเนียมทรงกลมไข่ ร้อยลอดใต้แอมพ์ และเชื่อมต่อส่วนโค้งแต่ละด้านเข้าหากัน
ซิงเกิล/ซีดี RFX9400 ติดตั้งแทนที่ในช่องใส่ขนาดดับเบิลดิน บนแผงหน้าปัดด้านหน้าแผ่นประกบด้านหน้าเครื่องที่ติดรถมา แกะออกมาขัดแต่ง และพ่นสีใหม่ เพื่อให้เข้ากันกับโทนสีตกแต่งภายในตัวรถ เชื่อมต่อกับเครื่องเล่นดีวีดีของ ROSEN ที่มาพร้อมกับ
จอสกรีนกว้าง 6.4" โดยติดตั้งจอดีวีดีนี้ไว้ที่เพดานหลังคา
แผงประตูทั้งหน้า และหลังยังคงใช้ของเดิมที่ติดรถมา เพียงแต่เพิ่มเติมในส่วนของที่ยึดลำโพงทวีเตอร์ที่ใช้ไม้ตัดเป็นรูปตัวยู ยึดไว้ทางด้านบนของแผงประตู และยึดลำโพงมิดเบสส์ไว้ทางด้านล่างของแผงประตู หุ้มใหม่หมดด้วยหนังไวนิลสีดำ
จุดที่เรียกความสนใจคือ แท่งอลูมิเนียมที่ดัดโค้งคร่อมกลางลำโพง แล้วโผล่ๆ ผลุบๆเข้าไปในตรงกลางของประตู ทำให้ทั้งทวีเตอร์ และมิดเบสส์ได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีมือเปิดประตูก็ทำเป็นทรงโค้งเช่นกัน และยึดด้วยโบลท์ขนาดใหญ่เท่ากัน นอทยึดดุมล้อรถ
แม้ว่าจะดูแข็งแรงแน่นหนามากๆ แต่กลับมีน้ำหนักเบามากๆ
พื้นกระบะด้านหลังที่ว่างๆ นั้น เจสันได้จัดการหาแบทเตอรี LIGHTNING AUDIO SBX 1500 หกลูกมาวาง และเดินสายเพาเวอร์ 90 แอมพ์ของ CASCADE AUDIO เพื่อป้อนไฟเข้าสู่ระบบในตัวรถ บัสบาร์ที่ทำขึ้นรูปจากอลูมิเนียมด้วยมือไว้ใช้เชื่อมต่อแบทเตอรีทั้ง 6 ลูกเข้าด้วยกัน แบทเตอรีทั้งหมดติดตั้งไว้ในกล่องเหล็ก และปกปิดด้านบนกันฝนกันน้ำด้วยฝาครอบพลาสติคบนส่วนของพื้นกระบะที่เหลือไบรอันยังได้ทำไบค์แรคอีกคู่ ไว้บรรทุกจักรยานเสือภูเขา 2 คันด้วย
จากงาน SEMA และ CES ก็จะต่อไปยังงานแสดงรถยนต์นานาชาติชิคาโกอีก รถคันนี้นับเป็นความร่วมมืออย่างดีระหว่าง นิสสัน และ ROCKFORD FOSGATE นอกจากงานแสดงตัวทั้ง 3 งานนี้แล้ว รถ ฟรอนเทียร์ คันนี้ ยังมีโพรแกรมโชว์ตัวอีกหลายงาน
สรุปแล้ว รถคันนี้ใช้แรงงานในการตกแต่งรถคันนี้ไปมากกว่า 2,000 ชั่วโมง และงบประมาณกว่า 150,000 เหรียญสรอ. หรือประมาณ 6 ล้านบาท ใช้เวลาในการตกแต่ง 1 ปี แต่นับว่าคุ้มค่ามากๆ สำหรับรถเดโมจากค่ายยักษ์ใหญ่คันนี้
เรื่องโดย : วิโชค
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2548
คอลัมน์ Online : เทคนิค(car)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/54635