บท บก. ฉบับนี้ ผมขอนอกเรื่องวงการรถยนต์สักนิดนะครับ...เดือนกันยายนที่ผ่านมา ผม และครอบครัวจัดทริพท่องเที่ยวเบาๆ ไปประเทศสิงคโปร์ โดยลูกสาวเป็นคนจัดการทุกอย่าง ตั้งแต่จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก จองตั๋วเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ เองทั้งหมด เหตุผลที่เราเลือกเดินทางไปกันเอง 3 คนพ่อแม่ลูก ตามสไตล์ TRAVELLER ซึ่งต่างจากการไปกับบริษัททัวร์ ในแบบ TOURIST ที่มีไกด์นำทาง และจัดเตรียมทุกสิ่งอย่างให้แก่ลูกทัวร์ เพราะความสนุกระหว่างการเดินทางมันแตกต่างกัน
การเดินทางไปกันเอง เราต้องวางแผนทุกอย่างเองทั้งหมด และไม่คาดหวังอะไรล่วงหน้า เราตั้งเป้าไปกิน-เที่ยว และเชคอินตามแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของประเทศสิงค์โปร์ ไม่ว่าจะเป็น MERION, MERINA BAY, CHINA TOWN STREET MARKET, นั่งเคเบิลคาร์ไปเกาะ SENTOSA, S.E.A. AQUARIUM, UNIVERSAL, ตลาดย่าน BUGIS, ตึกโบราณ POTATO HEAD, วัดพระเขี้ยวแก้ว, วัดเยี่ยไห่ชิง, CLARKE QUAY, ตึกสีรุ้ง OLD HILL STREET POLICE และสนามบินชางงี
รวมๆ คือ แวะเชคอินตามแหล่งท่องเที่ยวที่โลกออนไลน์เขานิยมกันเป็นหลัก มีแวะไหว้พระขอพรบ้าง แต่ส่วนใหญ่ คือ แวะถ่ายรูป เดินเล่น และหาของกินไปเรื่อยเปื่อย
“สิงคโปร์” มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “สาธารณรัฐสิงคโปร์” เป็นนครรัฐสมัยใหม่ และเป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวนประชากรของสิงคโปร์ เห็นตัวเลขแล้วน่าอิจฉามากครับ มีประมาณ 5.69 ล้านคน แยกเป็นพลเมืองแท้ๆ 3.52 ล้านคน ผู้พำนักถาวรประมาณ 0.52 ล้านคน และประชากรต่างชาติ 1.64 ล้านคน ต่างจากประชากรของประเทศไทยเยอะมาก
ส่วนเชื้อชาติของผู้คนในสิงคโปร์ เป็นชาวจีน 76 % ชาวมุสลิม 15 % ชาวอินเดีย 7.4 % และอื่นๆ 1.5 % ความหลากหลายของวัฒนธรรม, อาหาร และความทันสมัยของบ้านเมือง กลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมเกาะเล็กๆ ที่ทันสมัยแห่งนี้ตลอดเวลา ในทุกฤดูกาล
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลการแข่งขัน F1 ซึ่งครั้งนี้ผม และครอบครัว เลือกเดินทางไปล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เพื่อหลีกหนีฝูงชนจำนวนมากจากทุกมุมโลก ที่จะเข้ามาชม และตามมาเชียร์ทีมรักของตนเอง บรรยากาศก่อนการแข่งขัน แน่นอนว่ามีอะไรให้เราได้ดู ได้ศึกษาการเตรียมงานใหญ่ระดับ BIG EVENT การก่อสร้าง และเตรียมงานแข่ง F1 เขาทำกันตลอดเวลา มีการกั้นโซนก่อสร้าง แต่ไม่กระทบกับการสัญจรของประชากร ในช่วงแข่งขันจะมีการปิดเส้นทาง และยกเลิกการเดินรถประจำทางชั่วคราวเท่านั้น เส้นทางหลักๆ รอบเมืองยังใช้งานได้ตามปกติ ตรงนี้ดีงามมากๆ มีการวางแผนการทำงานที่ดี ไม่กระทบนักท่องเที่ยว และพลเมือง
การโฆษณาประชาสัมพันธ์ เขาทำแบบพอประมาณ ผมเข้าใจว่า ทุกภาคส่วนคงรับทราบดีว่า จะมีงานใหญ่ระดับประเทศเกิดขึ้น ป้ายโฆษณามีตามถนนสายต่างๆ แต่ติดตั้งในมุมสูงตามเสาไฟที่กำหนด ไม่มีเกะกะระรานในระดับสายตา ข้อนี้ดีมากๆ ไม่บดบังทัศนวิสัยการขับขี่ยานยนต์ในเส้นทางสัญจร ไม่เหมือนบ้านเรา ป้ายโฆษณาเยอะมากๆ มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ติดตั้งตามโลเคชันที่คิดว่าดี เข้าถึงผู้คน แต่ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยในการขับขี่
ในมุมมองส่วนตัวของผม ความมีระเบียบวินัยของผู้คนในสิงคโปร์ เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง และสมควรพูดถึงบ่อยๆ เพราะทำให้เมืองมีระเบียบ มีความสวยงาม มันเป็นอะไรที่ดูดี ทุกสถานที่ ทุกท้องถนน มีต้นไม้ มีสวนสาธารณะ ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ด้วย
“สิงคโปร์” เป็นประเทศที่ผมชอบ และมีโอกาสเดินทางไปบ่อยมาก โดยเฉพาะมาดูงาน SINGAPORE MOTOR SHOW ผมจำได้ว่า ปี 2019 ช่วงก่อน COVID-19 ระบาด ยังมาดูงานกับค่าย SUBARU (ซูบารุ) แต่หลังจากนั้น ผมเว้นวรรคการไปสิงคโปร์เกือบ 5 ปี จนปีนี้ลูกชวนไปเที่ยว ก็เลยมารื้อฟื้นภาพความทรงจำที่ดีอีกครั้ง
ในหลากหลายมุมมอง “สิงคโปร์” ยังคงเป็นเมืองน่าเที่ยว แต่ติดตรงที่ค่าครองชีพสูง รายงาน “2024 MERCER COST OF LIVING SURVEY” เผย 10 เมืองที่มีค่าครองชีพสูงสุดสำหรับชาวต่างชาติ พบว่าในเอเชีย มี 2 เมืองที่ติดอันดับยืนหนึ่งแบบไม่แผ่ว และแน่นอนครับว่า “สิงคโปร์” ติดอันดับ 2 โดยที่ “ฮ่องกง” ยืนหนึ่งติดอันดับ 1 ต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกัน สำหรับคนที่ชอบทำตัวชิลล์ๆ คงอึดอัดกับเมืองที่มีระเบียบวินัย และค่าครองชีพที่สูงระดับนี้ แต่เชื่อเถอะว่า หลายคนคงใส่ “สิงคโปร์” ไว้ในลิสต์เมืองน่าเที่ยว