GWM (กเรท วอลล์ มอเตอร์) ไม่ได้มุ่งมั่นไปที่การพัฒนาเพื่อมุ่งสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ด้วยแนวคิด และการมองถึงรูปแบบการขับเคลื่อนแบบอื่นๆ ด้วย เห็นได้จากการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลเข้ามาใช้ในกลุ่มของรถยนต์ SUV และพิคอัพในบ้านเรา ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีสำหรับลูกค้าชาวไทย สามารถทำให้สถานการณ์ของค่ายพลิกฟื้นกลับมาสดใสอีกครั้ง
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ที่ได้นำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ นั่นก็คือเทคโนโลยี “HI4” เป็นเทคโนโลยีของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่โดดเด่นของค่าย ได้รับรางวัล GRAND PRIZE ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (S&T AWARD) ประจำปี 2025 จากสมาคมวิศวกรยานยนต์แห่งประเทศจีน (CHINA SAE) ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปีที่เทคโนโลยีขับเคลื่อนไฮบริดได้รับรางวัลสูงสุดนี้ และเป็นรางวัลทรงเกียรติที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์จีนเลยทีเดียว เราจะได้เห็นเทคโนโลยีนี้ในรถยนต์ GWM WAY G9 (เว่ย จี 9) เป็นรุ่นแรกในไทย
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ HI4 (HYBRID INTELLIGENT 4WD) คือ ใช้เทคโนโลยีไฮบริดเป็นต้นกำลังในการขับเคลื่อนตัวรถ ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั้น ใช้มอเตอร์สองตัวขับเคลื่อน โดยแยกเป็นมอเตอร์ขับเคลื่อนสำหรับล้อคู่หน้าหนึ่งตัว และล้อคู่หลังหนึ่งตัว เป็นเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่ให้สมรรถนะสูงมีความสามารถหลากหลาย ตัวรถใช้แบทเตอรีขนาดใหญ่ รูปแบบการขับเคลื่อนมีความหลากหลายสามารถปรับให้เหมาะสมได้ทุกสภาวะการขับขี่ ได้แก่
EV MODE : เหมาะสำหรับการขับขี่ในเส้นทางที่ต้องการลดมลพิษ เช่น ในเมือง ที่สภาพการจราจรติดขัด หรือเขตที่กำหนดไว้สำหรับรถยนต์ไร้มลพิษเท่านั้น
SERIES RANGE-EXTENDING MODE : ลักษณะการขับเคลื่อนก็คล้ายกับ SERIES HYBRID MODE คือ จะใช้เครื่องยนต์ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้า ป้อนเข้าสู่แบทเตอรีโดยตรง มอเตอร์ขับเคลื่อนจะดึงพลังงานไฟฟ้าจากแบทเตอรี บางจังหวะที่มอเตอร์ต้องการพลังไฟฟ้าเพิ่ม ระบบจะจ่ายกระแสไฟไปยังมอเตอร์โดยตรงได้ด้วย
PARALLEL HYBRID MODE : คือ การขับเคลื่อนที่ใช้ทั้งเครื่องยนต์ และมอเตอร์ช่วยกันขับเคลื่อนเพื่อให้ได้สมรรถนะสูงสุดในบางช่วงเวลา เช่น ตอนออกตัว หรือปีนใต่ทางชั้น
DIRECT ENGINE DRIVE MODE : เป็นโหมดช่วยลดการใช้งานพลังงานไฟฟ้าในช่วงความเร็วคงที่ ในการเดินทางบนไฮเวย์ ระบบจะใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนล้อโดยตรง ในความเร็วเดินทางการใช้มอเตอร์ขับเคลื่อน ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากเพราะมอเตอร์ต้องหมุนด้วยรอบการทำงานที่สูง การตัดมาใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนแทนเหมือนกับการใช้เกียร์ที่มีอัตราทดต่ำกว่า 1:1 นั่นก็คือ เกียร์ OVER DRIVE ที่เหมาะกับการขับเคลื่อนมากกว่า
เทคโนโลยี HI4 มาพร้อมกับเทคโนโลยี “ITVC” (INTELLIGENT TORQUE VECTORING CONTROL) สามารถปรับแรงบิดของล้อแต่ละข้างได้ภายในเวลาเพียง 0.01 วินาที ช่วยลดการลื่นไถล และเพิ่มการยึดเกาะบนพื้นผิวถนนที่มีแรงยึดเกาะต่ำ เช่น พื้นเปียก พื้นทราย หรือพื้นกรวด รวมถึงในขณะการขับขี่ที่รถเกิดอาการสลิพในล้อใดล้อหนึ่ง การปรับแรงบิดที่ฉับไวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน และการทรงตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่นั้นจะสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้การใช้เชื้อเพลิง และพลังไฟฟ้าที่มีสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาพเส้นทาง เมื่อเทคโนโลยีนี้มาถึงเมืองไทยขับขี่แล้วเป็นอย่างไร มีข้อมูลทางเทคนิคลึกซึ้งเพียงใดเราจะนำมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไป

