BOI FAIR 2011 งานแสดงนวัตกรรมยิ่งใหญ่ระดับชาติ ด้วยแนวคิด รวมพลังน้ำใจไทย "โลกสดใส ไทยยั่งยืน" หรือ "GOING GREEN FOR FUTURE" ร่วมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต
งาน BOI FAIR 2011 จัดขึ้นที่อิมแพคท์ เมืองทองธานี โดยใช้พื้นที่ทั้งภายในอาคาร และนอกอาคาร เนื้อที่กว่า 240,000 ตรม. มีบริษัทชั้นนำเข้าร่วมโชว์นวัตกรรมเป็นจำนวนมาก 4 WHEELS ได้รวบรวมการแสดงด้านต่างๆ มาให้ได้ชมกัน
CHEVROLET
จัดแสดงบูธภายใต้แนวคิด "พลิกโลกอนาคต สู่การขับเคลื่อนรักษ์สิ่งแวดล้อม" หรือ RE-INVENTING THE FUTURE FOR GREEN MOBILITY ภายนอกออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากพลังงานลม และแสงอาทิตย์ ตกแต่งแผ่นอครีลิคที่รีไซเคิล จำนวน 25,000 ชิ้น ซึ่งในยามค่ำคืนจะบอกเล่าเรื่องราวเทคโนโลยีของ เชฟโรเลต์ ได้สวยงาม ภายในบูธก็นำเสนอเรื่องราวที่ต่อเนื่องกันดังนี้
การเดินทางของ เชฟโรเลต์
โดยย้อนอดีตไป 1 ศตวรรษ เพื่อพบกับรถคันแรกของ เชฟโรเลต์ ได้แก่ เชฟโรเลต์ ซีรีส์ ซี คลาสส์ ซิกซ์ (SERIES C CLASS SIX) ที่ออกแบบโดย เอเตียนน์ ปลังเชอ (ETIENNE PLANCHE) รวมถึง รถคลาสสิครุ่นเก๋าอย่าง เชฟโรเลต์ คอร์เวทท์ (CORVETTE)
การพบกันระหว่าง ลุงหลุยส์ กับน้อง เชฟวี
ชมภาพยนตร์เรื่องราวของ หลุยส์ เชฟโรเลต์ (LOUIS CHEVROLET) นักแข่งรถในตำนาน ผู้ให้กำเนิดบแรนด์ เชฟโรเลต์ ได้ข้ามเวลามาพบกับ เชฟวี (CHEVY) เด็กชายตัวน้อย ในปี 2031 ผู้แนะนำรถยนต์พลังไฟฟ้า เชฟโรเลต์ โวลท์ (VOLT) รวมถึงการสัญจรด้วยยานยนต์อัจริยะอย่าง เชฟโรเลต์ อีเอน-วี (EN-V) ผ่านระบบ 3 มิติเต็มรูปแบบ ครั้งแรกในไทย
ยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เชฟโรเลต์ โวลท์ รถยนต์แบบ อี-อาร์อีวี (E-REV) หรือ EXTENDED RANGE ELECTRIC VEHICLE ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์ขนาดเล็ก ความจุเพียง 1.4 ลิตร ทำหน้าที่ชาร์จกระเเสไฟฟ้าเข้ามาเก็บไว้ในแบทเตอรี ส่วนอีกคัน คือ อีเอน-วี (EN-V) หรือ ELECTRIC NETWORKED-VEHICLE ขนาดเล็ก 2 ที่นั่ง ใช้แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน วิ่งได้ 40 กม. ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
FORD
เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงความตื่นเต้นไว้ภายใน โดยการร่วมสนุกแข่งขัน FORD ECOBOOST CHALLENGE บนสนามฟุตบอลจำลอง โดยสื่อการทำงานของเครื่องยนต์ ECOBOOST จากการทำงานร่วมกันของระบบไดเรคท์อินเจคชัน และเทอร์โบชาร์จ โดยผู้ร่วมแข่งขันมีเวลา 60 วินาที ในการยิงลูกบอลขนาดมาตรฐานให้เข้าประตูทั้ง 3 แบบ เพื่อรับรางวัลใหญ่ รถยนต์ ฟอร์ด ฟิเอสตา สปอร์ท พลัส 1.6 ลิตร 1 คัน มูลค่า 724,000 บาท
ฟอร์ด ยังนำรถยนต์มาแสดงร่วม 21 คัน เน้นที่ความโดดเด่นของเทคโนโลยี ฟอร์ด อาทิ ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงไดเรคท์อินเจคชัน ที่ใช้ในเครื่องยนต์ ECO BOOST และระบบส่งกำลังแบบหลายจังหวะ ซึ่งเทคโนโลยีเครื่องยนต์อีโคบูสต์นี้ ฟอร์ด จะเปิดตัวในไทย ภายใต้แผนงาน ONE FORD จำนวน 8 รุ่น ภายในปี 2558 ในขณะที่ระบบส่งกำลังแบบหลายจังหวะของ ฟอร์ด ได้ถูกติดตั้งในรถยนต์ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ทั้ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และฟอร์ด ฟิเอสตา ทั้ง 2 รุ่น ทำให้ทั้ง 2 รุ่น มีการสิ้นเปลืองน้ำมันที่น้อยกว่าที่คิดไว้
HONDA
เน้นการออกแบบสไตล์ ECO โดยใช้ม่านน้ำตกขนาดใหญ่ แทนผนังโครงสร้าง ใช้น้ำช่วยกรองความร้อน ขณะเดียวกันก็มีความโปร่ง ให้ความสว่าง ลดการใช้พลังงานภายในได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์
ด้านยนตรกรรม นำเทคโนโลยียานยนต์สีเขียวมาแสดง ได้แก่ ฮอนดา ฟิท/แจซซ์ ไฮบริด (FIT/JAZZ HYBRID) เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ SOHC I-VTEC ความจุ 1.3 ลิตร 88 แรงม้า แรงบิด 12.3 กก.-ม. พร้อมเทคโนโลยี IMA ทำหน้าที่ชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ แบบเดียวกับ ฮอนดา อินไซจ์ท์ (INSIGHT) และซีอาร์-เซด (CR-Z) มอเตอร์ไฟฟ้า 14 แรงม้า แรงบิด 8.0 กก.ม. มีระบบ START/STOP สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 30 กม./ลิตร
ฮอนดา ซีอาร์-เซด ไฮบริด (CR-Z HYBRID) หรือ COMPACT RENAISSANCE ZERO โดยแชร์พื้นฐานร่วมกับ แจซซ์ และอินไซจ์ท์ ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดแบบเดียวกัน เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร I-VTEC+มอเตอร์ไฟฟ้า
ฮอนดา อีวี-นีโอ (EV-NEO) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2.8 กิโลวัตต์ ใช้แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน สามารถวิ่งได้ 34 กม./รีชาร์จ ด้วยความเร็วสูงสุด 34 กม./ชม. การชาร์จแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 3.5 ชม. ส่วนแบบชาร์จเร็ว จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที
THAIRUNG
เปิดตัวรถต้นแบบ ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ (TR TRANSFORMER) โดยการออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ CAD, CAE และ CAM ที่ได้มาตรฐาน การผลิตชิ้นส่วนที่เข้ารูปตัวถังทั้งคัน ผ่านการชุบสีกันสนิมด้วยระบบประจุไฟฟ้า และนำโครงสร้างของรถพิคอัพเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร มาพัฒนาออกแบบตัวถังใหม่ทั้งหมด ข้อดี คือ สามารถลุยน้ำได้สูง 500 มม. ไต่ทางลาดชันได้ 40 องศา ทางลาดเอียงได้ 30 องศา ราคาถูก แต่สมรรถนะไม่เป็นรองรถขับเคลื่อน 4 ล้อค่ายอื่นๆ
ISUZU
ส่ง อีซูซุ ดี-แมกซ์ ใหม่หมด (ALL NEW ISUZU D-MAX) ร่วมโชว์เทคโนโลยีความประหยัด ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ซูเพอร์คอมมอนเรล เจเนอเรชัน 3.5 มาตรฐานยูโร 5 เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง พาวิลเลียนเน้นการออกแบบที่เรียบง่ายเป็นธรรมชาติ ใช้โครงสร้างที่มีน้ำหนักเบา และสามารถรีไซเคิลได้
MITSUBISHI
เน้นแนวคิด "ชีวิตอัจฉริยะด้านพลังงาน" เพื่อเทิดพระเกียรติในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายในยังเน้นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไอ เมียฟ (I MIEV) ที่ปัจจุบันมีจำหน่ายไปแล้วทั่วโลก โดย มิตซูบิชิ ได้วางนโยบายการพัฒนานวัตกรรมภายใต้ "วิสัยทัศน์ ด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส สู่ปี 2020 (MITSUBISHI MOTOR ENVIRONMENTAL VISION 2020)" ซึ่งเป้าหมายนี้ คือ การเพิ่มสัดส่วนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจำนวนรถยนต์ที่ผลิตทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ได้ครึ่งหนึ่ง
NISSAN
นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ นิสสัน ลีฟ (LEAF) มาแสดง พร้อมรถต้นแบบพลังงานไฟฟ้า นิสสัน ทาวน์พอด อีวี คอนเซพท์ (TOWNPOD EV CONCEPT) ที่เป็นเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมแท้จริง
นิสสัน พาวิลเลียน ออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ตัวอาคารเด่นด้วยสัญลักษณ์ E ที่หมายถึง ZERO EMISSION หรือ ยานยนต์มลพิษศูนย์ ซึ่ง นิสสัน ถือเป็นบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นรายแรกที่เข้ามาบุกเบิกธุรกิจยานยนต์ โดยเฉพาะ นิสสัน ลีฟ เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ที่สามารถสร้างยอดจำหน่ายได้ถึง 20,000 คันทั่วโลก
นิสสัน ทาวน์พอด ใช้เทคโนโลยีเดียวกับ นิสสัน ลีฟ แต่รูปทรงเป็นแวนสูง ประตูเปิดแบบตู้กับข้าว หรือ SUICIDE-STYLE DOORS และประตูท้ายแบบแยก พร้อมลูกเล่นภายในที่เรียกว่า "PUCKS" ลักษณะเป็นลูกบอลยางทรงกลมเท่าลูกสควอช มีไว้สำหรับสวมกับอุปกรณ์เสริม ที่วางไปบนแผงแดชบอร์ด สามารถดัดแปลงใช้งานได้อเนกประสงค์ เช่น เป็นที่วางแก้วน้ำ ใส่โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ นอกจากนี้ นิสสัน ยังมีการนำรถเก่าในอดีตที่ยังคงสภาพสวยงามมาจัดแสดง ได้แก่ ดัทสัน แอล 620 (DATSUN L620) หรือที่นักเล่นรถเรทโรรู้จักในชื่อ รุ่น "ช้างเหยียบ"
SUZUKI
กับคอนเซพท์ "SUZUKI...WAY OF LIFE" นำต้นแบบสกูเตอร์ไฟฟ้า ซูซูกิ อี-เลทส์ (E-LET'S) ที่เริ่มทดลองใช้งานในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยพัฒนาบนพื้นฐานของมอเตอร์ไซค์ รุ่น เลทส์ 4 บาสเกท (LET'S 4 BASKET) โดยการชาร์จไฟ 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ 4 ชม. ระยะทาง 30 กม.
ส่วนรถยนต์ต้นแบบที่นำมาแสดง ได้แก่ ซูซูกิ สวิฟท์ เรนจ์ เอกซ์เทนเดอร์ (SWIFT RANGE EXTENDER) รถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันแรกของ ซูซูกิ ด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ 660 ซีซี VVT 54 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับแบบ SYNCHRONOUS 55 กิโลวัตต์ (75 แรงม้า) เก็บพลังงานด้วยแบทเตอรีแบบลิเธียม-ไอออน ความจุ 2.66 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยความหมายของระบบ RANGE EXTENDER คือ เพิ่มระยะทางในการขับ เป็นการวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า มีเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทำหน้าที่เป็น ON-BOARD GENERATOR และถ้าวิ่งใช้งานในระยะทางไม่เกิน 20 กม. สามารถวิ่งได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานจากเครื่องยนต์เลย
TOYOTA
ภายใต้แนวคิด "TOYOTA LEADS THE WAY TOWARDS BETTER SUSTAINABLE MOBILITY SOCIETY" ที่สื่อให้เห็นถึงความสมดุลระหว่างมนุษย์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม โดยภายในพาวิลเลียนออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากการผสมผสานระหว่างธรรมชาติ และความทันสมัยเข้าด้วยกัน ด้วยผนังลายฉลุรอบอาคารปกป้องจากความร้อน มีกระจกม่านน้ำขนาดใหญ่ด้านหน้าอาคาร ที่ช่วยลดความร้อนได้ดีเยี่ยม และภายในพาวิลเลียนแบ่งเป็น 3 โซน คือ
1. การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขกับ โตโยตา ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน ด้านความปลอดภัยในการใช้รถและการใช้ถนน
2. การก้าวไปกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยกับ โตโยตา นอกจากรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว โตโยตายังได้พัฒนาหุ่นยนต์ PARTNER ROBOT เพื่อเป็นผู้ช่วยมนุษย์ ทั้งด้านการแพทย์ การเดินทาง งานบ้าน และงานโรงงาน เพื่อเน้นพัฒนาความสามารถเฉพาะทางให้ดีที่สุด
PARTNER ROBOT เป็นหุ่นยนต์ผู้ช่วยที่มีความคล่องตัว มีคาแรคเตอร์ที่อบอุ่น มีขนาดตัวสูง 1,522 มม. กว้าง 761 มม. ยาว 497 มม. และมีน้ำหนักเพียง 56 กก. โดยในงานได้แสดงความสามารถในการเล่นไวโอลิน ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ต้องใช้ทักษะเป็นอย่างสูง
WHEE หรือ WINGLET เป็นเทคโนโลยีการพัฒนายานพาหนะขนาดเล็กส่วนบุคคล หรือ PERSONAL MOBILITY ที่ออกแบบตามสัดส่วนร่างกายมนุษย์แต่ละคน โดยควบคุมการขับขี่ด้วยการยืน และการถ่ายเทน้ำหนัก พกพาสะดวก ขนาดเท่ากับกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก มี 3 รุ่น คือ
- WHEE S (SPORTY) ควบคุมการทำงานโดยอาศัยการเคลื่อนไหวจากจุดศูนย์ถ่วงของร่างกาย ทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ น้ำหนัก 9.9 กก.
- WHEE M (MCTIVE) ควบคุมโดยใช้ศูนย์ถ่วงร่างกายและหัวเข่า น้ำหนัก 12.3 กก.
- WHEE L (UNIVERSAL) มีด้ามจับขณะทำงาน ขับได้สบายแม้ใช้งานเป็นครั้งแรก
โตโยตา ปรีอุส ซี คอนเซพท์ (PRIUS C CONCEPT) เป็นน้องเล็กตระกูล ปรีอุส โดยมีจำหน่ายแล้วที่ญี่ปุ่นในชื่อ โตโยตา อควา (AQUA) ตัวจริงใกล้เคียง โตโยตา ยารีส (YARIS) ที่มี C ต่อท้าย คือ CITY เป็นรถยนต์ไฮบริดสำหรับคนเมืองนั่นเอง
3. การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่ยั่งยืนในอนาคตกับ โตโยตา เป็นการเชื่อมต่อเทคโนโลยีกับโลกอนาคต แบ่งเป็น
- SMART GRID เป็นการนำพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากแสงอาทิตย์และลม มาใช้งานร่วมกับพลังงานที่ผลิตจากโรงงานไฟฟ้า
- TOYOTA PRIUS PLUG-IN เป็นสมาชิกลำดับที่ 3 ในตระกูล PRIUS FAMILY ที่สามารถเสียบปลั๊กรีชาร์จแบทเตอรีได้เลยทันที
- 3D THEATRE เป็นการนำระบบ SMART GRID มาใช้งานร่วมกับ PRIUS PLUG-IN และระบบโตโยตา สมาร์ท จี-บุค ที่ใช้เทคโนโลยีในการเชื่อมต่ออินเตอร์เนท โดยควบคุมง่าย ผ่านโทรศัพท์มือถือระบบสมาร์ทโฟน
BRIDGESTONE
นำเสนอการสร้างบูธด้วยแนวคิด "THE FUTURE SEEDS" สะท้อนถึงเมล็ดพันธุ์แห่งความรู้และปัญญา ภายใต้แนวคิด "YOUR JOURNEY, OUR PASSION" จุดเด่นอยู่ที่รูปแบบบูธเป็นเหมือนเมล็ดยางพารา โดยการนำวัสดุชั้นดีของ บริดจ์สโตน ที่เน้นประหยัดพลังงาน พร้อมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ BRIDGESTONE COOL ROOF POLYMER หลังคาที่ลดการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกสู่ภายในอาคาร
MICHELIN
เน้นนวัตกรรมที่ล้ำยุค ด้วยแนวคิด "MICHELIN A TOUCH OF TIRE" สัมผัสประสบการณ์แห่งการขับเคลื่อนสู่อนาคต โดยแบ่งภายในพาวิลเลียนออกเป็น 3 โซน ได้แก่ ต้นกำเนิดของยางมิชลิน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ ไปจนถึงกระบวนการผลิต ส่วนต่อมา เป็นการร่วมเล่นเกมทดสอบสมรรถนะยาง และสุดท้าย เป็นการแสดงนวัตกรรมล้อ LUNAR WHEEL ซึ่งเป็นยางที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับยางสำรวจดวงจันทร์ และ ACTIVE WHEEL เป็นยางที่ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า ชุดกันสะเทือน พร้อมชุดเบรคในตัว จากการทดลองติดตั้งในโรดสเตอร์ 2 ที่นั่ง เวนทูรี โวยาจ (VENTURI VOLAGE) สามารถใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบแยกอิสระ
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์ ชมจินดา/บริษัทผู้ผลิต chusak@autoinfo.co.th
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2558