ร่มไม้ชายศาล
ซื้อบุญ
ขออนุญาตแฉลบไปหาเรื่องวัดเรื่องพระสักนิดหนึ่ง ให้หายคันหัว เท่าที่สังเกตคนบ้านเราเน้นการ ซื้อบุญ เพื่อหวังผลให้ได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา โชคลาภ ความร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด ฯลฯ สุดแท้แต่จะนึกเอา ไม่ได้ชาตินี้ขอให้ได้ชาติหน้า ซึ่งเป็นวิธีง่ายที่สุด คนไทยนิยม ยากจนแค่ไหนก็ยังซื้อบุญด้วยการหย่อนเงินเหรียญ มีมากกว่านั้นก็ว่ากันไป
ผลลัพธ์ คือ เสียเงิน แล้วเกิด ความหวัง แต่ถ้าตราบใดหนึ่งสมองสองมือของเราไม่ทำ มีอยู่แค่ไหน จนอยู่อย่างไร ก็คงอยู่อย่างนั้น หรือแย่กว่านั้น นี่ต่างหาก คือ สัจธรรม
ทุกวันนี้ วัด หรือพระ จึงเป็นแหล่งซื้อบุญและ "ขายบาป" โดยเฉพาะคือ ขายพโรเจคท์ อย่างเช่น พระแก้วมรกตย้อมสี หรือมุกอื่นๆ ยิ่งพิสดารพันลึก ยิ่งอมเงินได้เยอะ โดยไม่เกี่ยวกับการเข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอน ให้ชาวพุทธมุ่งทำแต่ความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส อันเป็นแก่นแท้หรือเนื้อใน ซึ่งเป็นหนทางทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง และพิสูจน์ได้
วิธีขายบุญมีทั้งชนิดเรียบง่าย ไปดูได้ตามวัดดังๆ แถวชานเมืองใกล้กรุงเทพ ฯ ซื้อถังสังฆทาน ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา นอนในโลง หย่อนเงินลงในบาตร และอื่นๆ บางวัดถ้ามีคำเล่าลือว่าขลัง คนแห่ไปล้นหลาม ได้เงินนับไม่ถ้วน เป็นร้อยล้านพันล้านบาท สบายๆ
ถ้าวัดหรือพระ ซึ่งทุศีลหรือไม่ก็แล้วแต่ หามุกพิสดารหรือกลวิธีทางการตลาดที่เด็ดๆ อย่างเช่น "สมี..." โกยเงินมหาศาลจากชาวบ้าน ทั้งที่จนกรอบอยู่แล้ว หรือมีมั่งไม่มีมั่ง ซึ่งต้องการซื้อบุญ หลงเชื่อในความขลังว่าดลบันดาลสิ่งต่างๆ ที่อยากได้อยากมีแก่ตนแน่ๆ จนกระทั่งความแตก เมื่อเอาเงินจากชาวบ้านที่น่าสงสารไปบำรุงบำเรอความสุขของตนและพวกพ้องอย่างสุดเหวี่ยง เนียนกว่านี้ อำไว้ได้แยบยลกว่านี้ ไม่หลงระเริงในเงินทองที่หลอกลวงมาได้อย่างง่ายๆ เร็วเกินไป ยังกอบโกยได้อีกบานและอีกนาน
ตราบใดที่คนบ้านเรายังใช้วิธีเข้าวัด หรือเชื่อพระดังๆ หรือเชื่อใครก็ตาม โดยยึดถือตัวบุคคลเป็นหลัก พอยึดแล้วก็เข้าข้างตะพึดตะพือ ใครสะกิดใครบอกว่า หางโผล่แล้วนะๆ ไม่ฟังมันทั้งนั้น แก้ตัวให้อีกปะไร พอเจออุบายนานาประการ เลยแห่ ซื้อบุญแฝงบาป ด้วยเจตนาดังกล่าวข้างต้น ไม่ได้มีความศรัทธาในคำสอน เพื่อหาหนทางดับทุกข์ ให้บังเกิดความสุขที่แท้จริง คนอย่างสมี...ยังจะมีอีก หรืออาจมีอยู่แล้ว แต่เป็นรายเล็กรายย่อย การตลาดยังไม่บูม คอยสูบเงินจากชาวบ้านตลอดเวลา พอคนจำพวกนี้อยู่ในห้องตามลำพัง คงอดหัวเราะ อดขำตัวเองไม่ได้
โธ่ถัง พวกมึงยังอุตส่าห์เชื่อน้ำยากูได้ ทั้งๆ ที่กูไม่ได้มีฤทธิ์เดชเวทมนต์อะไรสักอย่าง แค่สวมเครื่องแบบผ้าย้อมเหลืองๆ เท่านั้นเอง อยากสึกไปเสวยสุขจากเงินทองแบบชิลล์ๆ อยู่เหมือนกัน แต่เสียดายช่องทางทำเงินว่ะ
ครับวันเข้าพรรษาปีนี้ 2556 ผมเห็นญาติโยมจำนวนไม่น้อยที่เข้าวัดแบบถูกทาง ไม่ใช่เข้าวัดซื้อบุญตะพึด เขาไปนอนวัด กินง่ายอยู่ง่าย ละวางชีวิตอันวุ่นวายจากที่บ้าน ที่ทำงาน หาความสงบ ตั้งใจฟังพระซึ่งเทศน์เป็น สอนเป็น ให้เข้าถึงธรรมะ เป็นการ "ล้างพิษ" กิเลสตัณหาที่สะสมไว้ แล้วกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะต้องดีกว่าเดิม ผมชื่นใจ และหวังว่าศาสนาพุทธในบ้านเรายังดำรงอยู่ได้ ไม่ถูกทำลายจนล่มสลายจากการซื้อบุญขายบาปแบบบ้าคลั่ง
ส่วนที่ดีของนักลวงโลกอย่างสมีคำ คือ สอนให้คนไทยรู้ในข้อที่ว่า
การเป็นชาวพุทธ ต้องไม่หลงเชื่อและยึดถือตัวบุคคลแบบงมงาย หรือตามแห่ มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาได้ไม่ยาก ทำให้โดนหลอก ทำให้เสียเงิน และเสียโง่ การเข้าวัดเข้าหาพระ พึงแสวงหาธรรมะ ทั้งจากคำสอนและวีถีปฏิบัติต่างหาก มักง่ายตกเป็นเหยื่อสมี...หรือใครก็ตามอยู่ร่ำไป รายแล้วรายเล่า ศาสนาพุทธจะล่มสลายไปจากประเทศไทย เพราะคนรุ่นใหม่ รวมทั้งคนรุ่นเก่าจำนวนไม่น้อย เอือมระอา หมดศรัทธา หันหลังให้วัดซึ่งปฏิบัติดีทำดีอยู่ก็มี และน่าเสียใจ
พูดง่ายๆ สมีรายใหม่ ช่วยตบหน้าคนไทยฉาดใหญ่ ให้ตื่นจากความงมงายโง่เขลาเบาปัญญา แต่จะโง่อีกไหม โดนอีกไหม ผมไม่รับรอง ถ้ายังมีรสนิยม "ซื้อบุญ" อยู่ร่ำไป ไม่แสวงหาแก่นแท้ของพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์
หากนรกมีจริง สมีรายนี้ต้องตกนรก คงมีส่วนลดให้สัก 1 นาที จากเหตุผลข้างต้นนั่นแล
ตามมาด้วยคดีความจึงจะเป็นของแท้
การกระทำบางอย่างดูแล้วเป็นเรื่องเล็ก แต่งานนี้ติดตะรางครับท่าน ติดจริงๆ เรื่องเป็นยังไงตามไปดู
"นายผ่านตลอด ชื่อเข้าท่าเหมือนกัน แต่วันนั้นขับรถกระบะไปเฉี่ยวชนรถอื่นแล้วหลบหนี แต่ไม่พ้นไม่ผ่านตลอด โดนตำรวจซิว แล้วพบว่าติดป้ายวงกลมปลอม ตอนนี้เป็นสี่เหลี่ยมนี่นา แถมใบขับขี่ที่งัดออกมาแสดงก็ปลอม โดยใช้ชื่อคนอื่น จากตำรวจไปเจออัยการ เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดไปยังศาล นายคนนี้โดนฟ้องข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมเป็นรายกระทง ตามจำนวนเอกสาร
คดีที่มีเอกสารมัดตัว จำเลยดิ้นยาก นายผ่านตลอดรู้ จึงให้การรับสารภาพ ใจระทึกรอฟังคำตัดสิน
ศาลชั้นต้นนั่งหน้าบึ้งตามธรรมเนียมของตุลาการทั่วโลก จะได้ขลัง แล้วตัดสินว่า นายผ่านตลอด มีความผิด ฐานปลอมแผ่นป้ายวงกลม แสดงการเสียภาษีรถยนต์ และปลอมใบอนุญาตขับรถยนต์ เป็นความผิดคนละกรรม ให้ลงโทษเป็นรายกระทง จำคุกกระทงละ 3 ปี รวมเป็น 6 ปี รับลดกึ่งจำคุก 3 ปี ริบเอกสารปลอมซะด้วย
จำเลย คือ นายผ่านตลอด เข่าทรุดคาศาล นึกไม่ถึงว่าจะต้องติดตะราง พอๆ กับขับรถทับคนตาย จึงดิ้นรนจ้างทนายยื่นอุทธรณ์ โอดโอยว่า มีภาระครอบครัวต้องดูแล ขืนอยู่ในคุกขนาดนั้นลูกช้างแย่เลย ขอให้รอลงอาญา อีกอย่างถ้าจะลงโทษ ก็ขอให้เอาแค่กรรมเดียว อย่าเรียงกระทง
ศาลอุทธรณ์ซึ่งนั่งทำงานในห้องตามปกติ ไม่ต้องขึ้นบัลลังก์ เพ่งดูแต่สำนวน แล้วพิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 ปี รวมเป็น 4 ปี ลดกึ่งเหลือจำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ยังอาการหนัก บอกใครเขาก็ไม่เชื่อว่าจะโดนขนาดนั้น ดิ้นรนเฮือกสุดท้าย ยื่นฎีกาขึ้นไปจนได้ โดยมีผู้พิพากษาทำคดีนี้ในศาลชั้นต้น เมตตาให้ยื่นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาซึ่งงานล้นมือ จนคดีทั่วๆ ไปกว่าจะชี้ขาดออกมา รวมแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้น เดี๋ยวนี้ว่ากันนับ 10 ปี เป็นเรื่องธรรมดา ใครจะค้าความนึกถึงเรื่องนี้ไว้ด้วย เดี๋ยวจะหาว่าหล่อขั้นเทพไม่บอก ศาลฎีกาพิจารณาคดีนี้แล้วชี้ขาดออกมา
ข้อที่ นายผ่านตลอด ฎีกาว่า ความผิดฐานปลอมแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ และปลอมใบขับขี่รถยนต์ เพิ่งปรากฏในวันที่เจ้าพนักงานตำรวจตรวจพบ นายผ่านตลอด แสดงเอกสารพร้อมกันในวันเดียวกัน ศาลต้องลงโทษแค่กระทงเดียว ศาลฎีกายันว่า เอกสารที่ปลอมมันคนละประเภทนะเว้ย การปลอมการใช้การอ้างเอกสาร จึงก่อให้เกิดผลต่างกัน ใช้แผ่นป้ายวงกลมปลอมให้ผู้อื่นเห็นว่า รถยนต์คันที่ขับเสียภาษีถูกต้อง ใช้ใบขับขี่ปลอม ให้เจ้าพนักงานเห็นว่ามีความสามารถขับรถยนต์ได้ ทางการออกใบอนุญาตให้แล้ว แม้ใช้เอกสารพร้อมกันในวันเดียวกัน การกระทำย่อมเป็นความผิดคนละกรรมต่างกัน ศาลล่างว่ามาชอบแล้ว
การอ้อนขอให้ลงโทษเบาๆ และรอการลงอาญา ศาลฎีกายันว่า การปลอมแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถ ติดไว้ที่รถ กระทบความน่าเชื่อถือในการใช้เอกสารเป็นพยานหลักฐาน หลีกเลี่ยงภาษีให้แก่รัฐอีกด้วย ปลอมใบขับขี่ก็ทะลึ่งปลอมเป็นของผู้อื่น นำไปแสดงต่อตำรวจ หลังจากขับรถเฉี่ยวชนรถของผู้อื่นแล้วหลบหนี เพื่อให้ตำรวจเห็นว่า นายผ่านตลอด เป็นบุคคลอื่น และสามารถขับรถยนต์ได้ ทางการออกใบอนุญาตให้แล้ว ยังงี้มันไม่เคารพยำเกรงกฎหมายนี่หว่า พฤติการณ์ไม่สุจริต มุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตน ไม่คำนึงถึงความเสียหายของผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ที่ได้ใบขับขี่ตัวจริง นับว่าร้ายแรง ไม่เคยได้รับโทษโดนจำคุกมาก่อน มีภาระเลี้ยงดูครอบครัวก็ช่างเหอะ เพื่อให้ นายผ่านตลอด เข็ดหลาบ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนอื่น สมควรลงโทษโดยไม่รอลงอาญา อีกอย่างความผิดฐานปลอมใช้เอกสารปลอมโทษเยอะนะ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี ศาลอุทธรณ์วางโทษกระทงละ 2 ปี ก่อนลดโทษเป็นคุณมากแล้ว จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข
ศาลฎีกาลงทุนยอมเมื่อยอีกหน พิพากษายืน เอา นายผ่านตลอด ผ่านประตูคุกเข้าไปอยู่ในนั้น 2 ปี ตามที่ศาลอุทธรณ์ว่าไว้
เห็นหรือยัง การปลอมป้ายวงกลม ปลอมใบขับขี่ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ศาลเอาเข้าตะรางอย่าง นายผ่านตลอด นี่แหละ เห็นพวกพ้องเขาทำ สะกิดบอกซะหน่อยเพื่อเอาบุญ
แต่การตั้งหน้าซื้อบุญอุตลุด คงได้แต่เปลือกแห้งๆ ผุๆ ไม่ได้เข้าถึงแก่นธรรมแม้แต่นิดเดียว โดนต้มตุ๋นอีกต่างหาก เงินเขาเบียดบังไว้ในย่ามเกือบหมด เวรกรรมแท้ๆ คนบ้านเรา
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2544
คดีรถ ตีพิมพ์ในฟอร์มูลา ส่งไป 21 กค. 2556
ลองเปิดยูทูบดูวีดีโอนี้ สนุกเบาสมอง ครับ https://www.youtube.com/watch?v=ujYUlyeDaiM
เรื่องโดย : "จอมยุทธ"
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : ร่มไม้ชายศาล
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/92594